มั่นใจไม่มีพลิก-มติท่วมท้น 'แพทยสภา' โหวตพรึ่บยืนยันมติเดิม 12 มิ.ย.

ไม่มีพลิก-มติท่วมท้น  หมอชาติชัย-กลุ่มประชาคมแพทย์ มั่นใจประชุมแพทยสภา 12 มิ.ย. เสียงโหวตพรึ่บ ไม่ต่ำกว่า 60 เสียง ยืนยันมติเดิมลงโทษสามแพทย์มีเอี่ยวชั้น 14 ป่วยทิพย์ เตรียมยื่น 600 รายชื่อแพทย์  หนุน69 กรรมการแพทยสภา โหวตแบบขานชื่อทีละคน ไม่เอาลงมติลับและเปิดเผยผลโหวตต่อสังคม

8 มิ.ย. 2568 – ก่อนจะถึงการประชุมใหญ่กรรมการแพทยสภา ในวันพฤหัสบดีนี้ 12 มิ.ย. ที่จะเป็นการประชุมประจำเดือนของแพทยสภา โดยมีวาระที่หลายฝ่ายสนใจติดตามก็คือ แพทยสภา จะมีการลงมติยืนยันมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ให้ลงโทษแพทย์สามคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจหรือไม่ หลังเมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา  ได้วีโต้มติแพทยสภาดังกล่าว ทำให้แพทยสภาต้องมาประชุมอีกครั้งว่าจะยืนยันมติเดิมหรือไม่ โดยการยืนยันมติเดิมต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภา 70 คน

นพ.ชาติชัย อติชาติ แพทย์ศิริราช รุ่น 90 ในฐานะผู้ดูแลเพจประชาคมแพทย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเปิดระบบออนไลน์ ผ่านกูเกิลฟอร์มให้แพทย์ร่วมกันลงชื่อ สนับสนุนความโปร่งใสในการประชุมใหญ่กรรมการแพทยสภาด้วยการให้กรรมการแพทยสภาลงมติอย่างเปิดเผยและให้แพทยสภา เปิดเผยผลการลงมติของกรรมการต่อสังคม กล่าวถึงการประชุมแพทยสภา วันพฤหัสบดีที่ 12 มิ.ย. ว่าแม้กรรมการแพทยสภาจะมี 70 คนแต่จะมีกรรมการเข้าประชุมออกเสียงได้ 69 คน เพราะมีกรรมการหนึ่งคน (พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ) มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะลงมติ จึงทำให้เหลือเสียง 69 เสียง ถึงตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีกรรมการมาประชุมกี่คน แต่จากการประเมินส่วนตัว และกลุ่มประชาคมแพทย์ ที่เป็นแพทย์กลุ่มที่รวมตัวกัน เพื่อติดตามการประชุมแพทยสภาและปกป้องวิชาชีพ เกียรติยศในจรรยาบรรณที่เป็นวิชาชีพของแพทย์เราคิดว่า ความดีย่อมชนะความกลัว เพราะคนทุกคน ย่อมมีความดีคือมโนธรรม ความรับผิดชอบชั่วดีในการรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของความเป็นแพทย์ซึ่งมีมากกว่าความไม่ดีในจิตใจ  

นพ.ชาติชัย กล่าวว่า ตอนนี้สังคมกำลังจับตาอย่างมาก ว่ากรรมการแพทยสภาคนใดที่จะไม่เข้าประชุม โดยหากไม่เข้าประชุมย่อมปรากฏข่าวออกมาแน่นอน ไม่มีทางปิดบังได้ โดยกรรมการแพทยสภาที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่งซึ่งหากไม่เข้าประชุมสามารถส่งตัวแทนเข้าประชุมแทนได้ ก็เชื่อว่าจะส่งตัวแทนไปร่วมประชุมแทน การโดดประชุมน่าจะเป็นไปได้น้อยเพราะหากทำจะเป็นร่องรอยทางดิจิทัลฯต่อไป โดยหากตั้งข้อสันนิษฐานว่ากรรมการทุกคนเข้าประชุม จาก 69 คน ในการลงมติว่าจะยืนยันมติเดิมเพื่อทำให้การวีโต้ของสภานายกพิเศษตกไป ที่ประชุมก็ต้องตกลงกันว่า จะใช้การลงมติแบบใด จะใช้วิธีขานชื่อกรรมการทีละคน หรือจะลงมติลับแบบที่เคยทำตอนประชุม 8 พ.ค. ตอนนี้เพจประชาคมแพทย์ ที่มีการรวบรวมเสียงแพทย์ทั่วประเทศ ผ่านเพจดังกล่าว ตอนนี้ได้ประมาณ 600 กว่าเสียง เราจะนำหนังสือและอีเมล์ที่มีการรวบรวมรายชื่อแพทย์ดังกล่าวไปส่งให้ กรรมการแพทยสภา เพื่อเรียกร้องให้มีการลงมติแบบเปิดเผย

นพ.ชาติชัยกล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวคือ จะขอให้เปิดเผยสองระดับ คือ ระดับแรกคือ  การลงมติที่กรรมการทุกคนจะรู้ว่ากรรมการแต่ละคนลงมติอย่างไร ผ่านการลงมติแบบขานชื่อทีละคนแล้วให้ลงความเห็นในลักษณะถามว่า ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับมติเดิมเมื่อ 8 พ.ค. และระดับที่สองคือ เปิดเผยกับสังคม คือสังคมได้รู้ว่า กรรมการทั้ง 69 คน ใครลงมติแบบไหน เพื่อให้สังคมรับรู้ด้วย ซึ่งแล้วแต่การพิจารณาของแพทยสภา ทางกลุ่มไม่ได้จะไปบีบบังคับ ทางแพทยสภา อาจจะเลือกเปิดเผยแค่ระดับแรกเท่านั้นคือลงมติแบบขานชื่อทีละคนก็ได้ หรือจะเปิดเผยผลการลงมติให้สังคมเห็นด้วยก็ได้ ซึ่งผมว่ามันก็จะมีผลอยู่ต่างกันเล็กน้อยเพราะความลับไม่มีในโลก

นพ.ชาติชัย เปิดเผยว่าจากที่เราทราบมาแบบวงใน กรรมการแพทยสภาหลายคนเห็นด้วยกับแนวทางนี้ ก็คือ ลงคะแนนแบบเปิดเผย เพราะการที่จะลงคะแนนแบบเปิดเผยหรือลงคะแนนลับแบบตอนประชุมครั้งที่แล้ว จะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่ มีแนวโน้มจะยืนยันมติเดิม แล้วเขาเชื่อมั่นว่าการลงคะแนนแบบเปิดเผย เป็นทิศทางที่สังคมและแพทย์ยอมรับ ผมมองว่าความดีย่อมชนะความกลัว ก็คาดว่าส่วนนี้น่าจะสำเร็จ น่าจะเปิดเผยได้ ความหวังของผมก็หวังว่า กรรมการที่สวมหมวกสองใบ (กรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง) เมื่อทุกคนมาอยู่ในที่แจ้ง ก็ควรเปิดเผยว่าลงคะแนนไปด้วยความเห็นบนสามัญสำนึกที่ถูกต้อง ตามมโนธรรมของวิชาชีพแล้วสังคมจะปกป้องท่านเอง คงอยากให้ฝากไว้เป็นประวัติศาสตร์ จากที่ผมคิด ก็อาจเป็นไปได้ว่า กรรมการ 69 คนการที่อาจจะมีบางคนขาดประชุมหรือไม่มา ดูแล้วโอกาสค่อนข้างน้อย ยังมองโลกในแง่ดีอยู่ว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามคาด คะแนนเสียงอาจเป็นเอกฉันท์ด้วยซ้ำซึ่งจะทำให้การวีโต้ที่ส่งมาตกไป

“เสียงในการลงมติ เรามองว่าจากการวิเคราะห์รายบุคคล เช่น กรรมการแต่ละคนมีแบ็คกราวด์อย่างไร ทำให้คาดว่า น่าจะมีเสียงยืนยันมติเดิมประมาณ 60 คน จาก 69 คน ซึ่ง 9 คนที่หักไป ผมไม่แน่ใจว่า อาจจะไม่มาประชุมเลยแล้วก็ไม่ได้ส่งตัวแทนมา หรืออาจจะส่งตัวแทนมาแต่งดออกเสียง คืออาจมีความเป็นไปได้อยู่ว่า อาจมีความเกรงกลัวอะไรบางอย่างในการลงมติ ซึ่งหากได้เสียงประมาณ 60 เสียง ก็หมายถึงได้เสียงลงมติยืนยันมติเดิมเกิน 2 ใน 3 ก็เท่ากับ เรายังสามารถปกป้องวิชาชีพของเราได้ต่อไป”นพ.ชาติชัยระบุ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการล็อบบี้กรรมการแพทยสภา ก่อนการประชุมวันที่ 12 มิ.ย. ทางนพ.ชาติชัย กล่าวว่า การประชุมเมื่อ 8 พ.ค.น่าจะมีจริงอยู่ เพราะตอนนั้นกระแสยังไม่ค่อยรุนแรงมาก แต่การประชุมครั้งนี้ สังคมมีความคาดหวังสูง การล็อบบี้กรรมการรายคน ผมคิดว่า เฉพาะคนที่มีตำแหน่งทางราชการเท่านั้นที่อาจถูกล็อบบี้ได้ อาจเป็นเรื่องความเกรงกลัวส่วนบุคคล ความเกรงใจเพราะต้องทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชากับผู้ที่วีโต้มา ก็อาจมีความเป็นไปได้ แต่สุดท้ายอย่างที่บอกคือความดีย่อมชนะความกลัว

นพ.ชาติชัย กล่าวว่าสำหรับกรรมการแพทยสภาที่มาจากการเลือกตั้ง 35 คนมั่นใจว่า จะเข้าประชุมวันที่ 12 มิ.ย.นี้อย่างพร้อมเพียง เพราะความลับไม่มีในโลก แพทย์ทุกคนต่างจับตาดูว่า ตัวแทนที่แพทย์ทั่วประเทศลงคะแนนเสียงเลือกไปเป็นกรรมการแพทยสภา 35 คน เขาจะปฏิบัติตามความที่ควรจะเป็นโดยการคิดถึงการรักษาเกียรติยศ จรรยาบรรณของวิชาชีพมากกว่าการลอยตัวหรือไม่ แม้ว่าบางครั้ง กรรมการที่มาจากการเลือกตั้ง 35 คนดังกล่าว ตัวผมและกลุ่มประชาคมแพทย์ ยังวิเคราะห์เลยว่า กรรมการบางคนที่น่าจะเป็นผู้นำ อย่างเบอร์หนึ่งกับเบอร์สอง ไม่ได้ออกมาเท่าที่ควร กลายเป็นเบอร์สาม อุปนายกฯ กลายเป็นผู้ออกหน้า หลังการประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค. ที่ก็มีอะไรให้รู้สึกอยู่บ้าง อันนี้ก็ต้องพูดตามตรง เราก็ไม่ใช่ว่าเชียร์ไปทั้งหมดของแพทยสภา ผมก็เคยวิเคราะห์ว่าคนที่อยู่ในแพทยสภา ที่เป็นระดับสูงสุด เบอร์หนึ่งกับเบอร์สอง มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับสภานายกพิเศษเยอะ และการมีตำแหน่งสมัยที่ผ่านมาสามปี ก็ทำให้มีสภาวะการทำงานที่กลมกลืนไป จากคนที่ดูเหมือนอิสระทางวิชาชีพ เมื่อเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนานพอสมควร ก็อาจมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้นเช่นมีความเกรงใจกับข้าราชการประจำ เป็นต้น แล้วผลที่สุดกลายเป็นอุปนายกฯกลายเป็นผู้ออกหน้าหลังประชุมแพทยสภาเมื่อ 8 พ.ค.  จริงๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจหมอหลายคนเหมือนกัน แต่ว่าแต่ละคนก็คงไม่อยากพูดอะไรออกมาเท่าใด

“อยากให้แพทย์และสังคมช่วยกัน ให้กำลังใจและสนับสนุนให้ กรรมการแพทยสภาทุกคนที่เข้าประชุม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และคำนึงถึงมโนธรรมในใจ แล้วสังคมจะโอบอุ้มกรรมการแพทยสภาทุกท่าน หากมีการลงมติอย่างโปร่งใส ผมขอเรียกร้องว่า เราไม่ควรไปตำหนิหรือกล่าวร้าย ใครที่ลงมติอย่างใดก็ตาม เพราะกรรมการทุกคนก็ต้องการลงมติอย่างอิสระ ก็ขอเรียกร้องทั้งแพทย์และสังคม โดยแพทย์ที่เป็นกรรมการแพทยสภา ขอให้กรรมการมาประชุมให้มากที่สุด คำนึงถึงมโนธรรมของตัวเอง และสังคม ก็ต้องไม่ไปบลูลี่ ไม่ไปกล่าวโทษกล่าวร้ายกรรมการแพทยสภา ไม่สร้างแรงกดดันมากเกินไป”นพ.ชาติชัยกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ประชาคมแพทย์' แนะศาลฏีกา ขอผลสอบการลงมติ 'แพทยสภา' ฟัน 3 หมอ ไปไต่สวนคดีชั้น14

'ประชาคมแพทย์' แนะศาลฏีกา ขอสำเนาผลสอบการลงมติ'แพทยสภา' ฟัน 3 หมอ ไปไต่สวนคดีชั้น14 จี้ แพทยสภา ส่งตัวแทนบึ่งรถไปสนามหลวง เข้าฟังซักถามคดี 'ป่วยทิพย์' ย้ำ ควรตั้งกรรมการสอบ 'หมอเวร' คืนส่งตัว'ทักษิณ' ข้องใจปล่อย 'ผอ.รพ.ราชทัณฑ์' พ้นผิดจี้ให้สอบใหม่

'จริยธรรม' อยู่สูงกว่ากฎหมาย! 'หมอยง' ชี้ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ "แพทยสภา"

แกนนำประชาคมแพทย์ชี้ 2 จุดตายมัดป่วยทิพย์!

แกนนำประชาคมแพทย์ย้ำ 'สมศักดิ์' วีโตมติแพทยสภาเหตุผลฟังไม่ขึ้น ยันใครก็ดูออก คนไข้ชั้น 14 ไม่ได้ป่วยหนัก ชี้เป้า 2 จุดตาย ศาลฎีกาฯไต่สวนป่วยทิพย์ศุกร์นี้ หลักฐานทางอ้อม ใบเสร็จ รพ.ตำรวจ-ปริศนาแพทย์เวร

'เรียงหิน' ยัน 12 มิ.ย. ร่วมประชุมพร้อมชี้แจงเหตุวีโต้มติแพทยสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการแพทยสภา จะประชุมในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ โดยหนึ่งในวาร