ปิดฉากทักษิณ! มติแพทยสภาท่วมท้น ตอกฝาโลง 'ป่วยทิพย์'

13 มิ.ย. 2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มติแพทยสภา ตอกปิดฝาโลง “ป่วยทิพย์”

ผลการประชุมแพทยสภา เพื่อยืนยันมติของแพทยสภาในการลงโทษแพทย์ 3 ท่าน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษแพทยสภา ได้วีโตผลการประชุมครั้งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ทำให้ที่ประชุมแพทยสภาต้องยืนยันด้วยมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ขององค์ประชุม จึงทำให้ผลการประชุมแพทยสภายืนยันมติเดิม ด้วยเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ซึ่งไม่ได้เกินความคาดหมาย เพียงแต่หลายฝ่ายใจจดใจจ่อ และติดตามผลการประชุมว่า มติของแพทยสภาจะมีมากน้อยเพียงใด

การต้องการเสียงของแพทยสภาไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 มีความเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะผลการประชุมแพทยสภาครั้งแรก มีเสียงรับรองมากถึง 49 เสียง เกินจำนวน 2 ใน 3 ที่มีจำนวน 47 เสียง แต่การประชุมครั้งที่ 2 ต้องการพิสูจน์มติของแพทยสภาว่า ยังยืนยันมติเดิมหรือไม่ ซึ่งในที่สุดมติของแพทยสภาท่วมท้น เห็นได้จากการที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาได้แถลงยืนยันว่า มีเสียงเห็นด้วยเกิน 60 เสียง แต่จากการสืบเสาะหาตัวเลข หรือผลคะแนนที่แท้จริง ก็พบว่า มีเสียงรับรองถึง 67:1 กับ 65:3 และ 65:3 จากองค์ประชุม 68 คน แสดงว่าเป็นมติเอกฉันท์

ซึ่งผลการลงคะแนนครั้งนี้ เป็นการยืนยันความเห็นของแพทยสภา ซึ่งจะเป็นข้อมูลนำไปสู่การไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงแม้ว่าผลการลงมติของแพทยสภาครั้งแรก น่าจะมีเหตุผลเพียงพอที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพอจะรับฟังได้ แต่การประชุมครั้งที่ 2 การลงมติเพื่อยืนยันมติเดิมด้วยคะแนนท่วมท้นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เป็นการยืนยันข้อมูลข้อเท็จจริงของแพทยสภาต่ออาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าป่วยวิกฤตจริงหรือไม่

ผลการลงมติของแพทย์สภาในครั้งนี้ เป็นคำตอบที่ชัดเจน เป็นข้อมูลที่มีน้ำหนักเพียงพอ สำหรับการยืนยันต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ผ่านภาษาวัยรุ่นเรียกว่า “ปิดฝาโลงแล้ว” หรือตอกฝาโลงไปได้เลย จะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และน่าจะเป็นหลักฐานสำคัญในการไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชัย' แจง 'ทักษิณ' รู้เรื่องดี ปรึกษารับมือภาษีทรัมป์ ตั้งเป้าลดไม่น้อยกว่าคู่แข่ง

'ทักษิณ' โผล่บ้านพิษณุโลก ร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐ 'พิชัย' แจงเชิญมาให้ข้อคิดเห็น ยันนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่ม แต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง

บทสรุป 9 ข้อ รายงานแพทยสภา นักโทษชั้น14 ไม่มีเหตุผลต้องอยู่รพ.ตำรวจต่อเนื่องถึง 6 เดือน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ นักโทษชั้น14น่าจะรอดยากข้อมูลทางการแพทย์ที่ประชาชนควรรู้ มีเนื้อหาดังนี้

แกะรอยพิรุธ 'ทักษิณ' ปั่นเรื่องเล่าฟาด 'ฮุนเซน' ละครตบตาปชช. ถอนรหัสบ่อนแลกใจ

'จตุพร' แกะรอยพิรุธ 'ทักษิณ' ปั่นเรื่องเล่าฟาด 'ฮุนเซน' รุนแรง เชื่อผู้นำจิตวิญญาณ 2 ประเทศแสดงละครขยี้ตอบโต้ตบตา ปชช. เอาใจกองเชียร์ฟื้นคะแนนนิยม ถอนรหัสบ่อนแลกใจเป็นหลังฉาก สทร. สะกดฮุนเซนเงียบกริบ หลุดทำพนันออนไลน์ถูก กม.ซุกซ่อนใจต้องการ หนุนนิรโทษกรรมนำ 66/23 เป็นต้นแบบสร้างสันติสุขทุกฝ่าย ชี้เงื่อนไขรัฐบาลชั่วคราวเป็นอาวุธเพื่อไทยใช้กำราบพรรคร่วมฯ

ถอดถ้อยคำ 'ทักษิณ' ไม่ใช่เพียงการสื่อสารธรรมดา คือ 'คำเสนอ' เพื่อแลกกับพื้นที่ทางอำนาจ

ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

'รสนา' ฟาด 'ทักษิณ' สตอแหลไม่เนียนลูกสาวถูก 'อังเคิล' หลอกอัดคลิป ยิ่งซ้ำเติมว่าไร้วุฒิภาวะ

นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อทักษิณสตอแหลไม่เนียน ?! มีเนื้อหาดังนี้

'สทร.' อีกแล้ว! โผล่บ้านพิษฯ ร่วมวงทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีทรัมป์

ความเคลื่อนไหวที่บ้านพิษณุโลก มีการประชุมทีมไทยแลนด์ร่วมกับทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือกรณี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งไทยถูกเก็บที่ 36%