ไทยโต้กลับ! ลดวีซ่าคนกัมพูชา เหลือ 7 วัน จ่อเสนอ สมช. ตัดไฟ-อินเทอร์เน็ตบ่อนพนัน

ไทยตอบโต้บ้าง! ลดวีซาคนกัมพูชาเหลือ 7 วัน 'กต.' แถลงได้รับสัญญาณดี แต่ยังเปราะบาง 'นิกรเดช' พร้อมประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้แน่ บอกยังเร็วไปเคาะข้อสรุปมี 4 จุดพิพาทหรือไม่ หวังทั้งสองฝ่าย หาทางออกอย่างสันติ ติง ต้องเคารพซึ่งกันและกัน

วันที่ 9 มิ.ย. 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้รับรายงานว่า กองกำลังของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ออกสำรวจแนวพื้นที่ และแนวคูเลตร่วมกัน โดยมีการกลบฝังพื้นที่ร่วมกัน พร้อมกับให้มีการปรับกำลังของทั้งสองฝ่าย ให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสถานการณ์ปกติ เมื่อปี 67

ฝ่ายไทยเห็นว่า พัฒนาการทางบวกล่าสุดนี้ ส่งสัญญาณที่ดี และสะท้อนถึงความจริงใจของฝ่ายกัมพูชา ในการลดความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาในทุกระดับ ของทั้งสองฝ่าย

ตนหวังว่าจะนำไปสู่ทางออกอย่างสันติในระยะยาว เคารพซึ่งกันและกัน ด้วยความจริงใจต่อกัน โดยเฉพาะการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี ที่จะนำไปสู่การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดนไทย-กัมพูชา หรือ JBC ที่จะเกิดขึ้นใน 5 วันจากนี้

สำหรับกลไก JBC ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 43 เป็นกลไกทางเทคนิค เพื่อหารือเรื่องการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมทั้งสิ้นจำนวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นสมัยสามัญ 5 ครั้ง และสมัยวิสามัญอีก 5 ครั้ง การประชุมครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อปี 55 ที่กรุงเทพฯ และการทำงาน JBC ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีความคืบหน้าหลายๆ พื้นที่ เช่น กรณีสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) รวมถึงการก่อสร้างสะพานพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

ฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุม JBC ครั้งต่อไป ที่ฝ่ายกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 14 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ที่กรุงพนมเปญ จะสามารถลดความตึงเครียด ของสถานการณ์ในภาพรวม ที่ยังคงมีความเปราะบางอยู่ในขณะนี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน นำไปสู่การหาทางออกที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด ตนยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทย ในการประชุม JBC ด้วยความสุจริตใจ และพร้อมเห็นความร่วมมือ และความตั้งใจจริง ของทั้งสองฝ่าย ในการทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีดียิ่งขึ้น

รัฐบาลไทยขอยืนยันความเชื่อมั่นว่า การใช้กลไกที่ไทยและกัมพูชามีอยู่ระหว่างกัน เช่น JBC, คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และการเจรจาทวิภาคีในทุกระดับ ทั้งในส่วนของทหาร และส่วนของพลเรือน รวมไปถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ เพื่อให้ประเทศของเราทั้งสอง ในฐานะครอบครัวอาเซียน อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

และขอใช้โอกาสนี้ ย้ำความเข้าใจในเรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ ว่า ยังคงมีการดำเนินมาตรการต่อไป ตามการประเมินของฝ่ายความมั่นคง ทั้งนี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน

นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีประกาศยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ ที่อาจนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย โดยจะมีการนำเสนอมาตรการดังกล่าว ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป

สุดท้ายนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชน ในการระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยัน และหลีกเลี่ยงการขยายข่าว ที่อาจจะเป็นการปลุกระดม หรือการกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด และความเสี่ยงที่ทำให้เกิดประเด็นขัดแย้งเพิ่มเติม

จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามถึงกรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาจำกัดวีซ่าคนไทย จาก 60 วัน เหลือ 7 วัน นายนิกรเดช ระบุว่า ได้รับทราบรายงานแล้วว่า ทางกัมพูชาลดวันลงเหลือ 7 วัน ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ปรับลดแล้วเช่นเดียวกัน เหลือ 7 วันเหมือนกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะดำเนินการไปถึงเมื่อไหร่ รอให้สถานการณ์ดีขึ้น และรอให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้ากลับมาคุยกัน เรื่องของจำนวนวัน ในการเข้าประเทศอีกครั้ง

สำหรับการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ฝ่ายกัมพูชายืนยันมาแล้วใช่หรือไม่ ว่าจะยังมีอยู่เหมือนเดิม นายนิกรเดช ยืนยันว่า ยังมีอยู่เหมือนเดิม ทั้งสองฝ่ายออกมาพูดแล้ว ว่าตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การประชุม JBC และพัฒนาการในทางบวกที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในการประชุม JBC

เมื่อถามถึงกระแสข่าว ที่ประชาชนบริเวณชายแดน เริ่มออกมาสร้างบังเกอร์หลบภัย เนื่องจากความตื่นกลัวว่า อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง นายนิกรเดช ย้ำว่า ตอนนี้มีความตึงเครียดน้อยลงแน่นอน เพราะเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการปรับกำลัง กลับไปอยู่จุดเดิมของปี 67 เป็นการกลบคูเลต ซึ่งตนยังคิดว่าสถานการณ์อยู่ในสภาวะที่เปราะบาง ส่วนต้องมีข้อกังวลหรือระวังอะไรหรือไม่ ตนคิดว่ายังไม่ถึงจุดนั้น แต่สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมหรือไม่ ก็คิดว่า ยังค่อยเป็นค่อยไป แต่สัญญาณที่ออกมาตอนนี้ เป็นสัญญาณที่ดีมากจากทั้งสองฝ่าย แต่ยังมีความเปราะบางอยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชายังยืนยันตามเดิมในส่วนของ 4 พื้นที่พิพาทที่จะเสนอต่อศาลโลก ว่ายังไม่ขอเจรจานั้น จะมีการโน้มน้าวให้กัมพูชานำเรื่องนี้ ขึ้นมาบนโต๊ะเจรจาหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ตอนนี้อย่างที่รู้ว่า ทั้งสองฝ่ายเริ่มคุยกันเรื่องวาระการประชุมแล้ว ขณะนี้ยังเร็วเกินไป ที่จะบอกว่ามีการคุยเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่หรือไม่ ทั้งสองฝ่ายอาจมีท่าทีสงวนว่าจะคุยกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำเจตนารมณ์ของไทยในการส่งเสริม ความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสในงานพบหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดเชียงราย

นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเปิดงานพบหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อน ความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมา

ปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวชายแดนไทย–กัม พูชา 8.3 กม.แล้ว!

ทร.เผยปักหมุดอ้างอิงชั่วคราว ชายแดนไทย–กัมพูชา (บริเวณหลักเขตที่ 52–59) อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร รวม 166 หมุด

เปิดรายงาน AOT ชี้ชัดเขมรซุกทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารไทยขาขาดรายที่ 7

กองทัพไทยเปิดรายงาน ผลตรวจสอบของ AOT ยันทุ่นระเบิด PMN-2 ห้วยตามาเรีย- ภูมะเขือ ทำทหารขาขาดรายที่ 7 ถูกฝังใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าตามที่กองทัพกัมพูชาอ้าง

รัฐบาลแถลงแก้ชายแดน กองทัพระงับถอนอาวุธหนัก กต.รุกฟ้องโลก เจรจาภาษีสหรัฐฯจบสิ้นปี

โฆษกรัฐบาล ย้ำนายกฯหนักแน่นแก้ชายแดน สหรัฐฯแยกเรื่องการค้า กับปมขัดแย้งไทย-เขมร ด้าน “โฆษก กห.” ย้ำจะปล่อยเชลยศึกจนกว่าจะหมดสิ้นเป็นปรปักษ์ “สตช.” เชิงรุกปราบปรามสแกมเมอร์-อาชญากรรมออนไลน์ จับมือทั้งใน-ต่างประเทศ