'เสียงหลุด-ศรัทธาร่วง' จตุพรนำมวลชนรวมพลังล้างบางรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง 28 มิ.ย.นี้

“จตุพร พรหมพันธุ์” นัดชุมนุมใหญ่อนุสาวรีย์ชัยฯ กดดัน “แพทองธาร” ลาออก ปมคลิปหลุดสนทนาเอื้อกัมพูชา-ใส่ร้ายแม่ทัพภาค 2 เป็นคนละฝ่ายกับรัฐบาล ชี้แม้ปรับ ครม. ก็ไม่พ้นวิกฤตชอบธรรม ผลงานล้มเหลว ศรัทธาถดถอย สถานการณ์บานปลายถึงขั้น “มีดจ่อคอหอย”

21 มิถุนายน 2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 20 มิ.ย. 2568 ท่ามกลางสถานการณ์อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เดินหน้าปรับรัฐมนตรี ตั้ง ครม.พรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือหลังพรรคภูมิใจไทย นำ 69 เสียงถอนจากการร่วมรัฐบาล

อีกทั้งกล่าวว่า สังคมเรียกร้องให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งลาออกจากตำแหน่ง กรณีคลิปเสียงคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาหลุดออกประจาน ซึ่งภาคประชาชนเชื่อว่า เนื้อหาการพูดคุยนั้นเป็นการขายชาติ ดังนั้น จึงนัดรวมพลังแผ่นดินในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 16.00 น.-21.00 น. เพื่อกดดันให้ลาออกจากนายกฯ

“อุ๊งอิ๊ง ไม่ลาออก ยังเกาะพรรคร่วมเดิมเหนียวแน่นในการปรับ ครม. แม้มีเสียงบางส่วนประมาณ 18 เสียงจากจำนวน 36 เสียงของพรรค รทสช. (รวมไทยสร้างชาติ) จากกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ รมว.พลังงาน ถอนตัว แต่อีก 18 เสียงกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ยังร่วมรัฐบาลตามเดิม”

ดังนั้น เมื่อตรวจสอบจำนวนเสียงรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง 2 แล้ว มีเสียงเกินครึ่งของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาความชอบธรรมคงอยู่ยาก โดยกรณีรัฐบาลพรรคไทยรักไทยพรรคเดียวชุดทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ มีเสียงมากถึง 377 เสียง ยังไปไม่รอด เพราะขาดความชอบธรรม เมื่อถูกประชาชนต่อต้านและกองทัพฉวยโอกาศยึดอำนาจ

อีกอย่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็น Uncle (อา) ตั้งรัฐบาลผสมมีเสียง 265 ยุคพรรคเพื่อไทย ยังพังพินาศย่อยยับมาแล้ว เมื่อพยายามออก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ดังนั้น การเป็นรัฐบาลจึงไม่ได้อยู่ที่จำนวนเสียงอย่างเดียว หากผู้นำขาดความชอบธรรมย่อมอยู่ไม่ได้เช่นกัน

เมื่อประเมินการปรับ ครม.อุ๊งอิ๊ง 2 เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ในจุดที่จะถูกต่อรองได้ตลอดเวลา และต้องทนย่อม ซึ่งยิ่งทำให้เสถียรภาพเปราะบางไปเรื่อยๆ แล้วยังต้องเสียการเมืองไปด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการเป็นรัฐบาลในวันข้างหน้าเลย

นายจตุพร กล่าวว่า การเรียกร้องให้นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ลาออกนั้น ไม่ใช่ทำไปเพื่อให้เกิดรัฐประหาร แต่ถ้าอยู่เป็นนายกฯ ต่อไปแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการรัฐประหารขึ้น อีกอย่างที่เราไม่เรียกร้องให้ยุบสภา เพราะเชื่อว่า นายกฯ และพรรคเพื่อไทยไม่ยุบสภาแน่นอน

"ความจริงถ้าเขามีทีมงานที่มีคุณภาพแล้ว เขาต้องแถลงขอโทษประชาชน แล้วลาออก พรรคร่วมเดิมก็ดึงกลับมาตั้งรัฐบาลใหม่ก็ได้ แต่ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว เพราะสถานการณ์ไปไกลกว่ามาก"

อย่างไรก็ตาม เวลานี้รัฐบาลอุ๊งอิ๊งนั่งนับจำนวนเสียงร่วมรัฐบาลอย่างเดียว แต่ความจริงนั้น เหตุการณ์มันไกลเกินกว่าจะใช้จำนวนเสียงมาค้ำยันเสถียรภาพแล้ว ทั้งที่รัฐบาลในอดีตผิดพลาดเรื่องเดียวยังพังเลย แต่กรณีอุ๊งอิ๊งผิดพลาดตามลำดับหลายเรื่องนับตั้งแต่ตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว

ไม่เพียงเท่านั้น นโยบายทุกข้อแทบไม่ได้รับการปฏิบัติ สิ่งที่พยายามปฏิบัติก็ไม่ใช่นโยบายและสุ่มเสี่ยงกับความเสียหายของบ้านเมืองแทบทั้งสิ้น จนมาถึงสายป่านสุดท้าย คือ การโทรศัพท์คุยกับสมเด็จฮุนเซนด้วยเนื้อหาไม่เหมาะสม ราวกับกล่าวหาแม่ทัพภาค 2 ไม่รักสันติภาพ ความสงบ ชอบก่อสงคราม

นายจตุพร กล่าวว่า นายกฯ อุ๊งอิ๊งพยายามอธิบายแก้ตัวว่า ความผิดอยู่ที่การบันทึกเสียงและคนปล่อยคลิปเสียง แต่ความผิดแรกที่ฉกาจฉกรรจ์ คือ นายกฯ ไปพูดอย่างนั้น ได้อย่างไร ว่า อยากได้อะไรบอกมาเลยเดี๋ยวจัดการให้ ซึ่งทำให้ประชาชนตื่นตัวไม่พอใจด้วยตัวเลขสูงมากเมื่อวัดผ่านโซเชียลของรายการสดแสดงความเห็นของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ เพราะประชาชนตระหนักในสิ่งที่ชาติบ้านเมืองกำลังประสบอยู่

รวมทั้งการอธิบายของนายกฯ อุ๊งอิ๊งทุกข้อ ทั้งอ้างเทคนิคการพูดคุยล้วนใช้ไม่ได้และอ้างไม่ขึ้น แต่ถ้าการเลือกแม่ทัพไปรบ ไปทำหน้าที่แล้วสร้างความไม่สบายใจให้ประเทศคู่พิพาทได้ ถือว่าแม่ทัพคนนั้นใช้ได้

สิ่งสำคัญ เมื่อประเทศคู่พิพาทโกรธแม่ทัพแล้ว แต่นายกฯ กลับพูดเหมือนจะตัดคอแม่ทัพตัวเองไปเป็นเครื่องบรรณาการเพื่อให้หายโกรธนั้น ตำราแบบนี้ใช้ไม่ได้ อีกอย่างถ้าไม่มีคลิปหลุดออกมา นายกฯ คงไม่ไปเหยียบพื้นที่ชายแดนช่องบก เพราะตั้งต่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ทหารสองฝ่ายปะทะกันยังไม่ไปพื้นที่พิพาทเลย แต่วันนี้มีคลิปหลุดจึงต้องไปและมอบทุกอย่างที่เป็นความต้องการให้กองทัพได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ตอนนี้ทักษิณ เงียบมาก ทั้งที่คบกับกับฮุนเซนมาถึง 30 ปี

นายจตุพร กล่าวว่า เสียงนายกฯ ในคลิปพูดกับฮุนเซนนั้น การสนทนาจะเป็นการเอื้อกันด้วยผลประโยชน์ระหว่างหลานกับอาเสียมากกว่า เช่นอยากได้อะไรบอกมา หรือการพูดถึงแม่ทัพภาค 2 เป็นคนฝ่ายตรงข้าม แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ มีเรื่องอะไรที่มากกว่านี้หรือไม่ ที่เป็นความต้องการของคู่สนทนา

"ส่วนในไทยมีการปลุกอย่าให้ตกเป็นเครื่องมือ ขอให้คนไทยสามัคคี ซึ่งสามัคคีเป็นสิ่งถูกต้อง แต่ต้องจัดการตัวต้นปัญหาก่อน เพราะสิ่งที่พูดในคลิปหลุด ถ้าคลิปไม่ถูกเผยแพร่แล้ว คนไทยก็ยังโง่ต่อไปกับสิ่งที่อุ๊งอิ๊งทำลงไป แล้วแถลงแค่คำขออภัย ไม่กล้าเปล่งคำขอโทษที่ทำในเรื่องผิด

สถานการณ์คลิปหลุดของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง นับจากนี้ไปเชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรื่องกล่าวโทษจากกลุ่ม สว.ยื่นถึงศาล รธน.แล้ว ถ้าพิจารณารับข่้อกลาวหาไว้พิจารณา จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯหรือไม่ ดังนั้น กรณีนี้ราวกับเป็นมีดจ่อคอหอยนายกฯ อย่างน่าหวาดเสียว

"ถ้าศาล รธน.รับเรื่องไว้วินิจฉัย แล้วสั่่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ถ้าให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ มาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาล รธน.จะวินิจฉัย สิ่งสำคัญนายภูมิธรรม ก็มีคดีจ่อไว้ในศาล รธน.เช่นกัน ซึ่งจวนจะตัดสินแล้ว”

สิ่งสำคัญย้ำเชิญชวนประชาชนทั้งประเทศมาชุมนุมแสดงพลังที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตั้งแต่เวลา 16.00 น ถึง 21.00 น. ของวันที่ 28 มิ.ย.นี้ โดยไทยมีประชากร 67 ล้านคนมากกว่ากัมพูชาที่มีเพียง 16-17 ล้านคน แต่เขาใช้กลไกรัฐระดมพลมาชุมนุมได้ถึง 1.5 แสนคน ดังนั้น ขอคนไทยนำความเป็นชาติมาแสดงพลังแผ่นดิน และอย่าได้ทำให้อับอายขายหน้าคนกัมพูชา

“ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ขอประชาชนมารวมพลังปกป้องแผ่นดิน และแสดงจุดยืนให้นายกฯ เห็น ซึ่งจะทำให้ได้คิดอะไรได้ง่ายขึ้นกับการประกาศลาออก” นายจตุพร ย้ำ