สรุปเหตุปะทะ 24 ก.ค. พลเรือนเสียชีวิต 13 ทหารเสียชีวิต 1 บาดเจ็บรวม 46

กองทัพไทยรายงานความสูญเสียจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา 24 ก.ค. 2568 มีผู้เสียชีวิตรวม 14 ราย บาดเจ็บ 46 ราย ทั้งพลเรือนและทหาร รวมถึงความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดน

25 กรกฎาคม 2568 - กองบัญชาการกองทัพไทยรายงานบันทึกเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ระบุว่า

ตามรายงานสรุปเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดน จากกรมกิจการชายแดนทหาร โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พลตรี วิทัย ลายถมยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาในหลายจุดตลอดแนวชายแดน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งพลเรือนและทหาร รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้

เวลา 07.45 น. กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินล้ำเข้ามาสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จากนั้นพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

เวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงด้วยอาวุธประจำหน่วยเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือน ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

เวลา 09.30 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม เข้าตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย และตรวจพบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย

เวลา 09.45 น. มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

ช่วงเวลา 10.00–10.22 น. ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ในจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย

ช่วงเวลา 10.28–10.40 น. มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

ช่วงเวลา 10.48–11.00 น. จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า และในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ร้านค้าเอกชนได้รับความเสียหาย มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย

ช่วงเวลา 11.02–12.21 น. ยังคงมีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน

สรุปความเสียหายเบื้องต้น (ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข)

• พลเรือน

เสียชีวิต: 13 ราย

บาดเจ็บสาหัส: 7 ราย

บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย

บาดเจ็บเล็กน้อย: 12 ราย

รวมทั้งสิ้น: 45 ราย

• ทหาร

เสียชีวิต: 1 นาย

บาดเจ็บสาหัส: 6 นาย

บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย

บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย

รวมทั้งสิ้น: 15 นาย

จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือน ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) เท่านั้น

กองทัพไทย ขอเรียกร้องอย่างหนักแน่นให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการกระทำที่เป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรม และยืนยันว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักนิติธรรมและคุณค่าของมนุษยธรรมสากล พร้อมดำรงเจตนารมณ์ในการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างถึงที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซวยแล้ว! อสส. รับคดีพ่อลูกตระกูลฮุนสั่งยิง เป็นคดีนอกราชอาณาจักร

อัยการสูงสุดรับคดี พ่อลูกตระกูลฮุนฯ สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว “วัชรินทร์”อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบคดี

บางจากยันไม่มีการขนส่งน้ำมันทางรถและเรือไปกัมพูชา

บางจาก แจงไม่มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงในกัมพูชา ลั่นไม่มีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งทางรถและทางเรือ

'อธิบดีศิลปากร' ยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดเป็นของไทย

'อธิบดีกรมศิลปากร' ยืนยัน 'ปราสาทตาควาย' ซ่อมได้ ตราบใดยังตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย รวมถึงปราสาทอื่นด้วย 'บัวแก้ว' ขอกัมพูชายุติใช้พื้นที่โบราณสถานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร

ตร.เฝ้าระวัง 'นักรบรับจ้าง' หลังโคราชพบข้อมูลบางอย่าง สั่งคัดกรองต่างชาติเข้ม

รองโฆษก ตร. ย้ำ เฝ้าระวัง นักรบรับจ้าง จ.นครราชสีมา เข้มคัดกรองต่างชาติ ทุกช่องทาง ป้องกันเข้ามาก่อเหตุ