
11 ส.ค. 2568 – ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ด้านวิทยาการข้อมูลและระเบียบวิธี (Data Science and Methodology) ได้เสนอออกแบบ คู่มือปฏิบัติการนำผู้นำกัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) กรณีการโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย
สถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชาที่นำไปสู่การโจมตีพลเรือน โรงพยาบาล ร้านค้า และบ้านเรือนประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่เข้าข่าย “อาชญากรรมสงคราม” ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งมีบทบัญญัติชัดเจนว่าการโจมตีโดยจงใจต่อเป้าหมายพลเรือนถือเป็นความผิดร้ายแรง ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court – ICC) มีหน้าที่พิจารณาคดีเหล่านี้เพื่อเอาผิดกับผู้สั่งการหรือผู้นำที่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงหรือโดยการละเว้น การดำเนินการให้คดีเข้าสู่ ICC จึงไม่ใช่เพียงเรื่องการเมือง แต่เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
สรุปสาระสำคัญ ICC คืออะไร – เป็นศาลอาญาระหว่างประเทศที่มีอำนาจพิจารณาความผิดร้ายแรง เช่น อาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการรุกราน
หลักการสำคัญ – ICC จะเข้ามาพิจารณาเมื่อศาลในประเทศไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะดำเนินคดีเอง ผู้นำระดับสูง ผู้บังคับบัญชา และบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถถูกดำเนินคดีได้แม้เป็นหัวหน้ารัฐ และไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มกันแม้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือทางการทูต
เหตุผลที่สามารถนำฮุนเซนขึ้น ICC ได้ – แม้ไทยจะไม่ใช่ภาคี ICC แต่กัมพูชาเป็น ทำให้ ICC มีอำนาจเหนือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาหรือสามารถใช้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติส่งเรื่องได้ หรือประเทศอื่นที่เป็นภาคี ICC ส่งเรื่องให้ได้
สิ่งที่ต้องพิสูจน์ – ต้องแสดงให้เห็นว่ามีการโจมตีพลเรือนโดยจงใจ มีความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับคำสั่งหรือการรับรู้ของผู้นำ
หลักฐานที่จำเป็น – รวมถึงซากอาวุธและวัตถุระเบิด รายงานชันสูตรและผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ภาพถ่าย/วิดีโอพร้อมข้อมูลพิกัด ภาพดาวเทียม และคำให้การพยานแสดงถึงการสูญเสียของไทยที่มาจากการกระทำความผิดของฝ่ายกัมพูชา
หน่วยงานที่ต้องทำงานร่วมกัน – กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หน่วยงานท้องถิ่น NGO และองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล เป็นต้น
ขั้นตอนการยื่นเรื่อง – เก็บและจัดทำรายงานหลักฐานตามมาตรฐาน ICC ส่งผ่าน UNSC หรือประเทศภาคี ICC อัยการ ICC พิจารณาเปิดการสอบสวนและออกหมายจับ
ดังนั้น การนำผู้นำประเทศขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศต้องอาศัย “หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้” มากกว่าการกล่าวหาเชิงการเมืองและมากกว่าการปะทะคารมกัน และต้องใช้การประสานงานระดับรัฐ–ระหว่างประเทศอย่างรอบคอบ เพื่อให้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมายสากลและได้รับการยอมรับในเวทีโลก สาระสำคัญบางประการที่น่าพิจารณาดำเนินการคือ องค์ประกอบความผิดที่ต้องพิสูจน์ เพื่อให้ ICC รับคดี ต้องพิสูจน์ได้ว่า (1) มีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตาม Rome Statute เช่น การโจมตีโดยจงใจต่อพลเรือน การโจมตีโรงพยาบาล โรงเรียนและสิ่งก่อสร้างเพื่อการพลเรือน (2) มีเจตนาหรือความรู้ว่าการกระทำจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อพลเรือน และ (3) มีความเชื่อมโยงกับผู้นำระดับสูง หลักฐานว่ามีการออกคำสั่ง หรือรับรู้และไม่ยับยั้ง (Command Responsibility)
ประเภทหลักฐานที่ต้องเก็บ (ตามมาตรฐาน ICC)
| ประเภทหลักฐาน | ตัวอย่าง | วิธีเก็บ & มาตรฐาน Chain of Custody |
| กายภาพ (Physical Evidence) | ซากอาวุธ ปลอกกระสุน เศษระเบิด | บรรจุในถุงหลักฐาน ระบุวันเวลา/ผู้เก็บ ปิดผนึก |
| นิติวิทยาศาสตร์ (Forensic) | รายงานชันสูตร ผลตรวจสารระเบิด DNA | ใช้ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC17025 |
| ดิจิทัล (Digital Evidence) | ภาพถ่าย/วีดีโอพร้อม metadata ภาพดาวเทียม | เก็บไฟล์ต้นฉบับ ตรวจสอบ hash value |
| พยานบุคคล (Witness Testimony) | คำให้การพลเรือน ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ NGO ต่างชาติและไทย | ใช้การบันทึกภาพ/เสียง มีล่ามถ้าจำเป็น ลงนามยืนยัน |
คำแนะนำเชิงยุทธศาสตร์
1) เน้นหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะ ICC ให้ความสำคัญมากกว่าข่าวลือหรือการกล่าวหาทางการเมือง
2) ให้ NGO และสื่อสากลร่วมเก็บข้อมูล เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ
3) แยกการดำเนินคดีส่วนบุคคลกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทูตโดยรวม
กล่าวโดยสรุป สาระสำคัญของบทความนี้คือ ผมได้ศึกษามาและชี้ให้เห็นว่า “การนำผู้นำกัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)” เป็นกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยหลักฐานเชิงประจักษ์ระดับสากล ไม่ใช่การโต้เถียงทางการเมือง หรือการปะทะคารมกัน และต้องเดินหน้าอย่างเป็นระบบตั้งแต่การยืนยันข้อเท็จจริงในพื้นที่เกิดเหตุ ไปจนถึงการส่งสำนวนต่ออัยการ ICC ผ่านช่องทางที่กฎหมายรองรับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ผศ.ดร.นพดล' ชี้น้ำท่วมหาดใหญ่บททดสอบหัวใจรัฐบาลอนุทิน
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ฯพณฯนายกรัฐมนตรี
ปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวชายแดนไทย–กัม พูชา 8.3 กม.แล้ว!
ทร.เผยปักหมุดอ้างอิงชั่วคราว ชายแดนไทย–กัมพูชา (บริเวณหลักเขตที่ 52–59) อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร รวม 166 หมุด
อัยการวัชรินทร์ ตั้งทีมงานชุดใหญ่สอบคดีกัมพูชายิงถล่มไทย เอาผิดฮุนเซน-ฮุนมาเนต
ผบช.ภ.3 ส่งสำนวนเขมรยิงระเบิดใส่ไทย ให้ อสส.เเล้ว "วัชรินทร์" อธ.อัยการสอบสวน เตรียมตั้งคณะทำงานเกือบยกสำนักงาน ลุยคดีให้ 2 พ่อลูกตระกูลฮุนรับผิดชอบความสูญเสีย
ทำอะไรไม่ได้ ! กองทัพภาค 2 แฉกัมพูชาขโมยลวดหนาม คาดล่อทหารไทยเข้าเขตสังหารซุกระเบิด
กองทัพภาค 2 แฉพบทหารเขมรขโมยลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดน บริเวณช่องระยี–ช่องเปรอ อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์
เปิดรายงาน AOT ชี้ชัดเขมรซุกทุ่นระเบิดใหม่ ทำทหารไทยขาขาดรายที่ 7
กองทัพไทยเปิดรายงาน ผลตรวจสอบของ AOT ยันทุ่นระเบิด PMN-2 ห้วยตามาเรีย- ภูมะเขือ ทำทหารขาขาดรายที่ 7 ถูกฝังใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าตามที่กองทัพกัมพูชาอ้าง


