เบื้องหลังล้างบางสิงห์น้ำเงิน เด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯนั่งตบยุงยกแผง อดีตหน้าห้อง อนุทิน-อดีตปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่รอด สู่ยุคทีใครทีมัน บิ๊กคลองหลอดสายแดง-พท.ผงาดพรึ่บ
20 ส.ค.2568 - จากกรณีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่เห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายกระทรวงมหาดไทย ระดับ 10 (รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด)ที่ กระทรวงมหาดไทยโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ พบว่า ผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ถูกมองว่า เติบโตและเข้าสู่ตำแหน่งในมหาดไทย ในช่วงยุค พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย จนถูกเรียกขานทางการเมืองและในกลุ่มสิงห์คลอดหลอดว่า “สิงห์น้ำเงิน” ที่พบว่าหลายคน มีชื่อถูกย้ายออกจากจังหวัดเด้งเข้ากรุ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่ถือว่าเป็นการลดชั้น
ไม่ว่าจะเป็น นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ที่โดนเด้งเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง หลังก่อนหน้านี้ ถูกมองว่าเป็นสายของสีน้ำเงิน มีการโยงว่าได้แรงหนุนให้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ เพราะได้แรงดันจากบ้านใหญ่บุรีรัมย์ รวมถึงนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ หัวหน้าทีมอำนาจเจริญของพรรคภูมิใจไทย ที่เลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2566 ชนะยกจังหวัด
ที่สำคัญช่วงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รุกไล่ทำคดีฮั้ว สว.อย่างหนักเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ มีการส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เพื่อสอบสวนการเลือก สว.อำนาจเจริญระดับอำเภอ-จังหวัด นายณรงค์ ก็ทำหนังสือในนาม ผวจ.อำนาจเจริญส่งเรื่องถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าการสอบสวนของดีเอสไอทำโดยมิชอบมีการข่มขู่ประชาชนเพื่อกันตัวเป็นพยาน ทำให้นายภูมิธรรมที่เป็นประธานบอร์ดคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ไม่พอใจอย่างมาก จึงทำให้ชื่อของนายณรงค์ ติดโผโดนเด้งมาตลอด
หรือการย้าย นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ซึ่งที่ผ่านมา นายปราชญาถูกมองว่าเป็นสิงห์น้ำเงิน มีชื่อติดโผโดนเด้งมาตลอดเช่นกัน เพราะนอกจากเคยเป็นอดีตปลัดจังหวัดบุรีรัมย์สายตรงนายเนวิน ชิดชอบ แล้ว ก่อนหน้านี้ สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ชลบุรี ก็มาช่วยราชการเป็นทีมงานหน้าห้องนายอนุทินที่กระทรวงมหาดไทยอยู่หลายเดือน ก่อนที่จะขยับออกไปเป็นรองผู้ว่าฯ นครพนมและผวจ.นครพนมเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับจังหวัดนครพนม เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคอีสาน ที่มีการแข่งขันการเมืองกันสูงระหว่างนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภา อดีต สส.นครพนมหลายสมัย แกนนำภูมิใจไทยสายนครพนมที่สู้กับนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม สส.นครพนม พรรคเพื่อไทยแบบขับเคี่ยวกันมาตลอด และผลการเลือกตั้งปี 2566 นางมนพร ที่ลงแข่งกับนายศุภชัย ปรากฏว่านายศุภชัยสอบตก แต่ก็ยังมีบทบาทในจังหวัดนครพนมอยู่ เพราะพรรคภูมิใจไทยคุมกระทรวงมหาดไทย แต่สุดท้ายหลังพรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้าน นายปราชญา อดีตปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ -ผวจ.นครพนม ที่ถูกมองว่าเป็นสายสิงห์น้ำเงิน ก็ถูกเด้งเข้ากรุผู้ตรวจราชการก.มหาดไทย
รวมถึง “สิงห์น้ำเงิน” อีกหลายคนที่โดนเด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯ เช่น นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ที่มาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง หลังมีการมองกันว่า อ่างทอง คืออีกหนึ่งจังหวัดพื้นที่ฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นจังหวัดที่บ้านใหญ่อ่างทองของ “เสี่ยตือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” ดันสองลูกชาย ภราดร-กรวีร์ ปริศนานันทกุล ชนะเลือกตั้ง สส.อ่างทอง ยกจังหวัดมาได้
เช่นเดียวกับ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่เข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หลังเมื่อเร็วๆ นี้ถูกย้ายด่วน ไปช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เพราะนายภูมิธรรม ไม่พอใจเรื่องการเบิกจ่ายเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา ที่มีความล่าช้า โดยที่ผ่านมา นายอดิศักดิ์ ก็ถูกโยงว่าเป็นสายสีน้ำเงิน ที่รู้จักกับนายอิสระ สมชัย อดีต สส.อุบลราชธานีหลายสมัย ที่เป็นพ่อของ น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ขณะเดียวกัน ข่าวบางกระแสก็บอกว่า ก็สนิทกับนายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยเช่นกัน
และยังมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ถูกมองว่าสนิทกับสายบ้านใหญ่ปราจีนบุรี ตระกูล “วิลาวัลย์” ของนายอำนาจ วิลาวัลย์ สส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย หลานชายโกทร นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตนายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี ก็ถูกเด้งเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวง เช่นเดียวกับว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สองผู้ว่าฯภาคใต้ ที่ก่อนหน้านี้ ถูกมองว่า ได้รับแรงหนุนจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อดีต รมว.แรงงาน ที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดภาคใต้ให้กับพรรคภูมิใจไทยก็ถูกเด้ง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยเช่นกัน
ขณะที่นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ โยกมาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ถือว่ายังดี ที่ไม่โดนเด้งเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย แม้จะถูกมองว่าเป็นสายตรงของนายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรมช.มหาดไทย สองสมัยติดต่อกัน จากพรรคภูมิใจไทย อดีต สส.บึงกาฬ ลูกพี่ลูกน้องเนวิน ที่มีภรรยาเป็นนายกฯอบจ.บึงกาฬ
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ผู้ว่าฯภาคใต้บางจังหวัดที่ถูกย้ายเข้ากรุผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและถูกย้ายออกจากจังหวัดไปอยู่จังหวัดอื่น นอกจากเรื่องเหตุผลทางการเมืองในพื้นที่แล้ว ก็ยังมีกระแสข่าวว่าเป็นเพราะส่วนหนึ่งฝ่ายการเมืองในกระทรวงมหาดไทยได้ข้อมูลมาว่ามีผู้ว่าฯบางจังหวัด อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ที่ผ่านมา จนอาจเป็นที่มาของการโยกย้ายในรอบนี้
ส่วนผู้ว่าฯป้ายแดงรอบนี้ มีหลายชื่อที่น่าสนใจแต่ที่คนโฟกัสกันก็มีเช่น นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของตระกูล “ชินวัตร” ฐานเสียงสำคัญของทักษิณและพรรคเพื่อไทย โดยพบประวัติรับราชการว่า เคยผ่านตำแหน่งหลักๆ เช่น ปลัดจังหวัดนนทบุรี จ.นนทบุรี-รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร-รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และขึ้นเป็นซี 10 เมื่อธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และจะไปเป็น ผวจ.เชียงใหม่ในเดือนตุลาคมนี้
และอีกตำแหน่งที่น่าสนใจคือ การโยกนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งชื่อของนายสยาม เคยถูกพูดถึงอย่างมาก หลังขึ้นมาเป็นผวจ.นครพนม ตอนปี 2561 ในวัยเพียง 44 ปี จนกลายเป็นผู้ว่าฯ ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์กระทรวงมหาดไทยจากนั้นก็ไปเป็นผวจ.อุดรธานี และอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน จนเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีสิทธิ์เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยในอนาคต เพราะถูกจับตามองว่าเป็น “ดาวรุ่งสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ” ที่ได้แรงหนุนจากรุ่นพี่สิงห์ดำฯในกระทรวงมหาดไทยมาตลอด จากสามปลัดมหาดไทยสิงห์ดำ คือนายฉัตรชัย พรหมเลิศ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์
แต่รอบนี้ ต้องหลีกทางให้นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ที่เป็นลูกหม้อของกรมการพัฒนาชุมชนมาตลอด จนเคยขึ้นไปเป็นรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ก่อนโยกไปเป็นรองผู้ว่าฯ อุดรธานี และเป็น ผวจ.หนองบัวลำภู จนล่าสุดได้กลับถิ่นเก่าเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่คาดว่าอาจได้แรงหนุนจากนายไชยา พรหมมา รองประธานสภา และ สส.หนองบัวลำภูหลายสมัยของเพื่อไทย ทำให้นายสยามเลยต้องออกจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกลับไปเป็นพ่อเมืองอีกครั้ง แต่สมุทรปราการ ถือเป็นจังหวัดใหญ่ของภาคกลาง ก็เรียกว่า ไม่ถึงกลับเป็นการลดเกรดเกินไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใครกล้าทำ นายกฯ โวทำงาน2เดือนปราบสแกมเมอร์ ยึดเงินหมื่นล้าน คนบอกไม่ดำเนินคดีไม่รู้เรื่อง
นายกฯ ย้ำ รัฐบาลทำงาน2เดือนจริงจังปราบสแกมเมอร์ ยึดเงินหมื่นล้าน - เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกคนบอกไม่ดำเนินคดีคือ ไม่รู้เรื่อง
'วิโรจน์' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการ 'เบนสมิธ' เพิ่มเติม
'วิโรจน์' ลั่น เส้นทางการเงินการลากคอคนไทยตัวใหญ่มาลงโทษสำคัญกว่าภาพถ่าย'เบนสมิธ' กับบุคลสำคัญ ร่วมกับ 'อนุทิน' ขีดเส้น 2 สัปดาห์ต้องยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายคนไทยที่ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก
ไม่พลาด! 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วม 'เบน สมิธ'
'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วมกับเบน สมิธ เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
'ภราดร' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก'
'เสธ.แมว' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจตอบให้ได้ ทำไมยังไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก' มองเงินอายัดพุ่ง 26,000 ล้าน แต่ ก.ล.ต.กลับนิ่ง เผยบางคนในเครือข่ายสแกมเมอร์เริ่มหมอบ เตรียมแยกตัวเป็นพยาน
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
สว.ป้อง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' บอกอาจไม่รู้เบื้องลึกมาก่อน!
'พล.อ.สวัสดิ์' มอง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อาจไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังมาก่อน ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม เชื่อรัฐบาลชัดเจนหากพบเชื่อมโยงสแกมเมอร์จัดการตามกฏหมายอยู่แล้ว


