ผบ.สส.ใช้เวทีประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดแปซิฟิก ชี้แจงข้อเท็จจริงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ประกาศ กองทัพบกเตรียมสร้างกำแพงถาวรแบ่งเขตแดนให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการรุกรานอธิปไตย
27 ส.ค.2568 – พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังเข้าร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ประจำปี 2568 โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ว่าในเวทีการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกในครั้งนี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับสหรัฐอเมริกา หัวข้อสำคัญของการหารือคือการเน้นย้ำเรื่องความเข้มแข็งในภูมิภาค ต่อสู้กับภัยคุกคามด้านต่างๆ ขับเคลื่อนกลไกของอาเซียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในห้วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งขันกัน โดยการประชุมครั้งนี้มี 29 ประเทศเข้าร่วม ขาดเพียงแค่กัมพูชา เท่านั้น
โดยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การรักษาสันติภาพและความรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค ไทยยังใช้โอกาสนี้ย้ำถึงจุดยืน ในการเป็น คนกลาง ขับเคลื่อนความสันติภาพและการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ และยุติความขัดแย้งในภูมิภาค และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางการทหารต่อสู้กับความท้าทายในหลากหลายมิติทั้งภัยคุกคามไซเบอร์และอวกาศ เป็นต้น ซึ่งในหลายหลายด้านไทยยังขาดประสบการณ์ การหารือในเวทีนี้จะนำไปสู่การพัฒนาร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.อ.ทรงวิทย์ เปิดเผยด้วยว่า การประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดแปซิฟิกในครั้งนี้ หลายประเทศได้สอบถามถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งไทยได้ใช้โอกาสนี้ในการส่งข้อมูล ที่เป็นความจริงไปยังนานาประเทศที่เข้าร่วมประชุม พร้อมย้ำว่าทุกการกระทำเป็นการทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ดินแดนของไทยรวมทั้งคุ้มครองชีวิตของประชาชนคนไทยไว้อย่างเต็มความสามารถภายใต้กรอบกติการะเบียบที่โลกใบนี้มี ขณะเดียวกันไทยไม่ต้องการเห็นการสู้รบ จึงต้องดำเนินการปกป้องธิปไตยเพราะถูกรุกราน นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จึงได้ใช้โอกาสนี้ในการชี้แจง ข้อเท็จจริงทั้งหมด เช่นทหาร-ประชาชนถูกทำร้าย มีการลักลอบวางทุนระเบิด โดยยังขอความร่วมมือจากหลายประเทศ ให้สนับสนุนการเข้ามาเก็บกู้ทุนระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้ในดินแดนไทย พร้อมย้ำว่าไทยจะต้องสื่อสารอย่างมืออาชีพบนข้อเท็จจริงที่มี และบนจุดยืนของประเทศไทยในการปกป้องอธิปไตยโดยจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานหรือทำร้ายประชาชนได้
ส่วนการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาให้มีความเข้มแข็งเพื่อป้องกันการรุกราน พลเอกทรงวิทย์ ระบุ กองทัพบกกำลังพิจารณาและนำไปปฏิบัติ ทั้งในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 โดยเมื่อวานนี้ ได้ให้เสนาธิการ ลงไปในพื้นที่ ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนั้นคือดินแดงของไทย และจะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชนและปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้ามโดยยืนยันว่าตนเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน สร้างรั้วชายแดน บังเกอร์ หลุมหลบภัย ถนนตรวจการณ์
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิง
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
กองทัพบก น้อมรับพระราชกระแส 'ในหลวง' พระราชทานโดรนช่วยอุทกภัยภาคใต้
กองทัพบกน้อมรับพระราชกระแส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรง พระราชทานความห่วงใย กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และพระราชทานอากาศยานไร้คนขับ เพื่อช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
ทบ. ชี้เหตุชายจีนเหยียบระเบิด สะท้อนเขมรวางทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ร่วมมือเก็บกู้
ทบ. ชี้เหตุชายจีนเหยียบระเบิด สะท้อนปัญหาทุ่นระเบิดชายแดน ชี้กัมพูชายังวางต่อเนื่องไม่ร่วมมือเก็บกู้ กระทบความปลอดภัยประชาชน


