เดือด! 'อนุทิน' โต้ 'ชลน่าน' ทุกดอก ลั่นนายกฯคนนี้ไม่มีใครบงการได้ คิดเองหารือ 'ครม.-สภา' เพื่อประโยชน์ ปชช.

‘อนุทิน’ โต้ ‘หมอชลน่าน’ทุกดอก ยันมาถึงตำแหน่งนายกฯใช้เวลาเป็น10ๆปี ต้องทำดีที่สุดเป็นเกียรติประวัติ ไม่ให้ใครบงการเบื้องหลัง ลั่น 1 พัน-2พัน ตัวเลขอัปมงคล ยกคำ ‘ทักษิณ’ สวนเห็นทางออกในทุกปัญหา เชื่อมือ ครม. ทำงานเต็มที่ใน 4 เดือน บอกจ่อปรับ รมว.สธ. หากนำนโยบายฟอกไตฟรีกลับมาไม่ได้ใน 2 เดือน จะไปเป็นเอง เย้ย ‘ชลน่าน’ เป็นแค่เลขารมต.แต่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี ยัน 30บาทรักษาทุกที่ อนุทิน ไม่ใช่ชลน่าน ทำ ‘หมอชลน่าน’ สวนทันควัน

29 ก.ย.2568- เวลา 10.50 น.นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ชี้แจงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า  สิ่งที่นพ.ชลน่านตั้งคำถามแรกว่ารัฐบาลของตน ทำได้หรือไม่ ทำเป็นหรือไม่ ทำดีหรือเปล่า คำตอบคือทำได้ สิ่งที่ถูกเขียนอยู่ในคำแถลงนโยบายนั้น เป็นสิ่งที่ได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วว่าพวกเราทุกคนต้องทำได้ เพราะวิธีการทำงานของตนนั้น เราใช้คำว่า “ทำได้เร็วและต้องทำเลย” ฉะนั้นขอชี้แจงให้สมาชิก ได้เกิดความมั่นใจตลอดจนพี่น้องประชาชนด้วย

ส่วนทำเป็นหรือเปล่า ก็ทำเป็น ในคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ตนได้คัดสรรมาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ในวิชาชีพทุกๆด้านแซงกี้ท่านมีอยู่ แม้กระทั่งผู้ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ตนก็ได้ทำการตรวจสอบ ประวัติการทำงานประวัติการศึกษาพฤติกรรมซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าทุกท่านมีคุณสมบัติครบถ้วนในการมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทยที่รักของเรา และพี่น้องประชาชนผู้ที่ตนคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลาว่าคือผู้ที่มีพระคุณต่อตนและรัฐบาลนี้

ส่วนทำดีหรือเปล่า ก็ขอยืนยันว่าคนเราถ้ามาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลาเป็น 10 ๆ ปีก็ต้องถือโอกาสนี้ทำดีที่สุดให้เป็นเกียรติประวัติและให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชนที่คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ

“ดังนั้นใน4 ประเด็นที่ท่านบอกไว้ต่อเนื่องมาถึงเรื่องของการขาดโอกาสซึ่งผมคิดว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุด ที่รัฐบาลจะได้แสดงผลงานเพราะรัฐบาลนี้ ผมได้ทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีทุกคนแล้วว่าไม่มีคำว่าคนละพรรคนี่คือพรรครัฐบาล แซงนะไม่มีขัดแข้งขัดขา ไม่มีความกังวลใดๆ ที่จะเห็นว่าพรรคไหนทำอะไรแล้วจะได้รับความนิยมชมชอบจากพี่น้องประชาชนมากกว่า ผมอาจจะโชคดีที่ผม ถูกสั่งสอนมาให้เป็นคนใจกว้าง อะไรก็ตามที่เป็นวงวานว่านเครือเป็นเครือข่ายการทำงานที่มีผมไปเกี่ยวข้องด้วยแล้วใครทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จแล้วเป็นประโยชน์ ผมมักจะอนุโมทนาสาธุ แล้วก็ชื่นชมและสนับสนุนทุคนที่ทำงานร่วมกันกับผมได้ประสบความสำเร็จสูงสุด”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่ท่านพูดว่ารัฐบาลนี้ขาดคนมีฝีมือ ก็ต้องยืนยันว่า ตนให้ความเชื่อมั่นว่า ทุกคนที่อยู่ในรัฐบาลของตน คัดเลือกเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากเรื่องของคุณงามความดีที่แต่ละคนมี ความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน และผลงานความรู้ประสบการณ์ ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาล 4 เดือนของตน เต็มไปด้วยบุคคลกรที่มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ ประสบความสำเร็จในชีวิต ท่านกังวลเรื่องความโปร่งใส ขอให้นพ.ชลน่าน สบายใจ เพราะตนรับฟังทุกคำ จดทุกความกังวล และยินดีมาชี้แจง ความโปร่งใสนั้นเกิดจากการที่เราจะต้องทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการถูกต้องตามกฏหมายถูกต้องตามระเบียบและที่สำคัญคือต้องใจกล้าให้ทุกคนมาตรวจสอบได้ ยืนยันว่ารัฐบาลของตนจะต้องโปร่งใสและมีการตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

“ที่นพ.ชลน่านระบุว่าดูแล้วขาดอนาคตประชาธิปไตย ซึ่งประชาธิปไตยนั้นก็คือการเคารพเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาแต่ใจมาเป็นข้อตัดสินมีความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งผมมองเห็นต่างกับนพ.ชลน่าน ผมมองว่าจากนี้ไปรัฐบาลนี้จะวางรากฐาน วางแนวทางแบบอย่างที่ดีในการที่จะเป็นรัฐบาลที่จะทำให้อนาคตของประชาธิปไตยมีความสด อย่างน้อยนายกฯ คนนี้จะไม่มีใครบงการได้ ตัดสินใจเอง คิดเอง แล้วหารือกับ ครม. และสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ในการตัดตัดสินใจทำประโยชน์สูงสุดให้ประเทศและประชาชน”

นายอนุทิน ชี้แจงต่อว่า ที่กล่าวหารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ ท่านพูดไม่ผิด เวลา 4 เดือนก่อนยุบสภา ขออนุญาตนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ว่าขอให้นับวันที่ 1 ต.ค.เป็นวันแรกแล้วนับไป 4เดือน คือวันที่ 31 ม.ค. ยุบสภาแน่นอน ถือเป็นพันธระหว่างพรรคที่ลงนามใน MOA กับพรรคประชาชน ว่าความมุ่งหมายของเราเป็นอย่างไร ตนเห็นพ้องกับทางพรรค เมื่อถึงเวลาอันสมควรเเราต้องคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจแต่มีติ่งท้าย ที่ตนขอกระทำและทำให้สำเร็จ คือจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ต้องเข้ามาแก้ไขความเสียหายของประเทศที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลที่แล้วมา ตนยอมรับในสภานี้และครม.ของตนอีก 35 คน จะทำทุกอย่างเพื่อเรียกความเสียหาย ความสูญเสีย ทั้งเรื่องเกียรติภูมิของประเทศ เศรษฐกิจ ขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของประชาชน กลับมาสู่ประเทศไทย และคนไทยให้ได้ในระยะเวลาทำงาน 4 เดือน ตนมั่นใจว่าทำได้ เพราะได้เตรียมการในเรื่องนี้มามากพอสมควรแล้ว

“บางทีการทำงานนั้น ทุกคนมีความรู้ ความสามารถ แต่ต้องไม่เปรียบกัน บางทีพอท่านทำไม่ได้ แล้วไปคิดว่าคนอื่นทำไม่ได้ด้วย มันก็ไม่ถูก ผมก็ไปดูว่าตอนที่ท่านมาอยู่กระทรวงสาธารณสุขประมาณ 7 เดือน กับผมก็อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข 7 เดือน ผมมั่นใจว่าผมได้ทำอะไรเยอะมาก ทั้งโควิด เหตุการณ์วิกฤตด้านสาธารณสุข ผมจึงอาจมีบทบาทมากกว่าที่ท่านดำรงตำแหน่งอยู่ แต่เราไม่ว่ากันผมเคารพท่านอยู่เสมอ ท่านมีความรู้สามารถในวิชาชีพโดยตรง ยังมั่นใจว่าท่านมีความเสียสละ และความทุ่มเทให้กับบ้านเมืองไม่น้อยไปกว่าสมาชิกคนอื่นๆในรัฐสภา ท่านพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ส่วนใหญ่ใน นโยบายของรัฐบาลนี้ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนผมมองต่างนิดนึงคือรัฐบาลนี้ยกเลิกกาสิโน เรายกเลิกเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่เอาเงินดิจิตอล 10,000 บาทไปให้ประชาชนเฉยๆ แต่เราใช้วิธีการมีส่วนร่วมเราไม่มอมเมาพี่น้องประชาชนด้วยการพนันเราไม่ขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจการพนัน ผมมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เห็นตรงกับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทยถูกเชิญออกจากการร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเพราะพวกเราไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลในขณะนั้น”

นายกฯ กล่าวว่า ตนขอเคลมว่าตนเคารพศรัทธาเสมอกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ 30 บาทรักษาทุกที่ อนุทินครับ ไม่ใช่ชลน่าน ผมทำมาตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข 4 ปี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยาวนานที่สุดในการทำงานของรัฐมนตรีหลาย 10 คนที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้ตนได้ใช้เวลาทั้ง 4 ปี ใช้เวลาประสานงานกับสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ฟอกไตฟรี แต่เสียดายรัฐบาลชุดที่แล้วเอาฟอกไตฟรีทั้งหมดออกไป เหลือบางส่วน ใน 4เดือนนี้ตนจะเอากลับมาและเป็นสิ่งที่ รมว.สาธารณสุข จะต้องทำำให้ตนเห็นภ่ยใน 2 เดือน จริงๆต้องสิ้นกว่านั้น ไม่เช่นนั้น ตนจะต้องไปเป็นรมว.สาธารณสุขเอง

ส่วนประเด็นผลประโยชน์ส่วนใหญ่ไม่ตรงความต้องการของประชาชน ตนขอมองต่างเพราะรัฐบาลยกเลิกกาสิโน เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เงินดิจิทัลให้ประชาชน เราไม่มอมเมาประชานด้วยการพนัน หรือ ใช้ธุรกิจการพนันขยายตัวเศรษฐกิจ ซึ่งความเห็นต่างนั้นเป็นเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยถูกเชิญออกจากการร่วมรัฐบาลสมัยนั้น มีความพยายามหลายเรื่อง ไปเตะความมั่นคง เสียหายประเทศ ตนตัดสินใจไม่ร่วมนโยบายนี้ถือเป็นเกียรติที่ถูกเชิญออกมา

“ที่ท่านบอกว่ามีการพยายาม ดึง ซื้อ ตัวเลข 1,000-2,000 รวมกันแล้วหลายล้าน ตัวเลขเหล่านี้สำหรับผมถือเป็นตัวเลขอัปมงคล มีความพยายามมีตัวเลขนี้ มาทำให้คนในพรรคฝ่ายค้านหลายคนสมัยนั้นไขว้เขว แต่โชคดีที่ทุกนเห็นว่าไม่เป็นมงคล เป็นตัวเลขที่เอาไปแล้ว ไปทำให้อนาคตของประชาธิปไตยมืดมน แต่คนที่ทำเป็นคนในฝั่งรัฐบาลตอนนั้น ไม่มาจากพรรคภูมิใจไทยแน่นอน ผมขอให้มั่นใจ ทีมงานพร้อมพิสูจน์ทุกคน ผมเคยอยู่ในรัฐบาลเดียวกับท่าน นโยบายต่างๆ ตนพยายามที่จะต้องสนองทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ไปเตะความมั่นคงของประเทศ ความเสียหายของประเทศ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ผมจึงต้องตัดสินใจที่ไม่ร่วมนโยบายกับท่านจึงเป็นเหตุที่ถูกเชิญออกมา ทำให้ประชาชนรับทราบว่าพรรคไหนที่คิดถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง”

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่า นโยบายของรัฐบาลนี้เป็นปัญหามากกว่าทางออก ตนและครม.ทั้ง 36 คน ตอบแทนได้ว่าไม่ใช่ นโยบายและการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ ครม.ทุกคนจะต้องทำงานอย่างหนัก ผลักดันทุกนโยบายให้เป็นทางออกประเทศ

ขอย้อนคำพูดว่า เราเคยอยู่ด้วยกัน 20 กว่าปีก่อน ผมอยู่ในรัฐบาล ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อให้ก็ตามที่มีการประชุม ครม. มีการพูดถึงปัญหา ทั้งที่เป็นสิ่งที่ต้องทำ ตอนนั้นผมเป็นรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่นพ.ชลน่าน เป็นเลขานุการรมว.สาธารณสุขอยู่ เราทำงานด้วยกัน

“ผมจำมาถึงวันนี้ ว่า นายกฯทักษิณ มักไม่พอใจกับครม. ที่นำเอาปัญหามาเป็นข้อแก้ตัวในการทำงาน ตั้งแต่วันนั้นผมบอกกับตนเองว่าจะไม่มีวันให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับผม หากผมทำงานที่ไหน เมื่อใดก็ตามถ้ามีปัญหาเช่นนี้ ท่านจะปิดไมค์คนนั้น แล้วพูดว่า “จำไว้นะ” ผู้แพ้จะเห็นปัญหาในทุกทางออก และผู้ชนะจะเห็นทางออกในทุกปัญหา ทั้งนี้ตัวผมและครม.ทั้ง 36 คนเป็นอย่างหลัก ชนะไม่ชนะไม่รู้ แต่พวกผมเห็นทุกทางออกในทุกปัญหา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯพูดถึงตรงนี้ทำให้นพ.ชลน่าน ลุกขึ้นโต้ว่า นายกฯ พาดพิงมาถึงตน โดยเฉพาะเรื่องการทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรี ท่านบอกว่า 7 เดือนของท่าน ดีกว่าของตน เราจะไม่เถียงกันตรงนี้ ซึ่งประเด็นที่ตนจะชี้แจงคือท่านบอกว่า 30 บาทรักษาทุกที่ อนุทินไม่ใช่ชลน่าน ตนขอใช้หลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อชี้แจงในเรื่องนี้ ตนไม่เข้าใจว่านายกฯหมายถึงอย่างไร แต่นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย สมัยรัฐบาลที่ผ่านมาของนายเศรษฐา ทวีสิน และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินนโยบายนี้ตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เป็นข้อเท็จจริง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนที่ท่านพูดถึงนายทักษิณ นำสิ่งที่ได้ให้ไว้มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และกล่าวชื่อตนในฐานะเลขารัฐมนตรี ตนอาจจะสติปัญญาไม่ถึง ตีความหมายไม่ถูกว่า ตนไปเกี่ยวข้องกับการประชุม ครม.ได้อย่างไร เพราะตนเป็นเพียงเลขารัฐมนตรี ไม่มีสิทธิ์เข้าไปนั่งในห้องประชุมรัฐมนตรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

‘เอ็ดดี้’ จี้ ‘เพื่อไทย-ส้ม’ อย่าดีแต่ปาก กลัวอะไรอยู่ ยื่นซักฟอกเลย

  เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า เห็นขู่กันฮึ่มๆ ว่าจะจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ