นักวิชาการเขมรโต้ 'สีหศักดิ์' ปมค่ายอพยพหนองจาน ไทยวาดแผนที่เองอย่างไม่ละอาย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

30 ก.ย. 2568- แขมร์ไทม์ส สื่อภาษาอังกฤษของกัมพูชา เสนอบทความ นักวิเคราะห์เขมรวิพากษ์วิจารณ์ไทย สนับสนุนการผลักดันทางการทูตของกัมพูชา ระบุว่าผู้แทนไทยประจำสหประชาชาติกล่าวเพียงว่าไม่ได้พูดอะไรมากนัก เมื่อเขาพูดถึงความปรารถนาของไทยในการสร้างสันติภาพท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับกัมพูชา นักวิเคราะห์ซึ่งเรียกร้องให้พนมเปญดำเนินความพยายามทางการทูตต่อไปเพื่อหาการมีส่วนร่วมของบุคคลที่สามเพื่อบรรเทาและยุติข้อพิพาทในที่สุด กล่าว

ในระหว่างการอภิปรายทั่วไปในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย กล่าวหากัมพูชาว่าเล่นเป็นเหยื่อ หลังจากที่นายปรัก โสคนน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ไทยกำลังทำลายข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางนี้ด้วยการยืนยันการอ้างสิทธิ์ดินแดนฝ่ายเดียว ใช้กำลังแทนกลไกที่ตกลงกันไว้ และพึ่งพาแผนที่ที่ไม่ได้รับการรับรอง

สีหศักดิ์เน้นย้ำถึงความเปราะบางของการหยุดยิงบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยวิพากษ์วิจารณ์กัมพูชาถึงการยั่วยุต่างๆ รวมถึงการระดมพลพลเรือนและการโจมตีข้ามพรมแดน ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของไทยในการรักษาสันติภาพ รักษาอำนาจอธิปไตย และแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจา ความไว้วางใจ และความจริงใจ

“ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งด้วยความตั้งใจที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้านี้” เขากล่าว

สีหศักดิ์โต้แย้งว่าหมู่บ้านชาวกัมพูชาใกล้ชายแดนตั้งอยู่ในดินแดนไทย และการดำรงอยู่ของหมู่บ้านเหล่านี้เป็นผลมาจากการตอบสนองด้านมนุษยธรรมของไทยในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เมื่อเปิดพรมแดนให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมือง เขากล่าวว่าประเทศไทยดำเนินการด้วยความเมตตาและหลักการด้านมนุษยธรรม และเขาได้เห็นสถานการณ์นี้ด้วยตนเองในฐานะนักการทูตหนุ่ม

เขาชี้ให้เห็นว่าแม้สงครามจะยุติลงและศูนย์พักพิงชั่วคราวปิดตัวลง แต่หมู่บ้านเหล่านั้นก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ไทยประท้วงการบุกรุกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชาเพิกเฉยต่อคำขอให้แก้ไขปัญหา เขากล่าว

เขากล่าวเสริมว่าประเทศไทยได้ช่วยสร้างกัมพูชาขึ้นใหม่หลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 1991 โดยการสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เนื่องจากสันติภาพในภูมิภาคส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ

นายเชง กิมลอง ประธานสถาบันวิสัยทัศน์เอเชีย วิพากษ์วิจารณ์ตัวแทนของไทยในสหประชาชาติ โดยกล่าวว่าประเทศไทยได้นำเสนอข้อกล่าวอ้างของตนเป็นข้อเท็จจริงโดยไม่ได้แสดงหลักฐานมาสนับสนุน

เขาประณามประเทศไทยที่พึ่งพาแผนที่ที่วาดขึ้นเองอย่างไม่ละอายเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท ขณะเดียวกันก็ใช้กำลังและความรุนแรงต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านั้น

คิมลองระบุว่าการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบร้ายแรงต่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าฝ่ายใดได้เปรียบในการโต้แย้ง แต่เขากล่าวว่าเขามั่นใจว่าชุมชนระหว่างประเทศกำลังเริ่มมองเห็นเรื่องราวของไทยและตระหนักถึงความจริงของสถานการณ์

“สิ่งที่เราเห็นได้จนถึงตอนนี้ก็คือ ประเทศไทยชอบที่จะกลับคำพูด แม้ว่าจะแสดงตนว่าเป็นประเทศที่รักสันติ แต่การกระทำที่แท้จริงกลับแตกต่างออกไป” เขากล่าว

“เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมของไทยและแนวทางในการจัดการข้อพิพาทเรื่องพรมแดนอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชื่อเสียงในระดับนานาชาติของไทย ทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะในเวทีโลก”

คิมลองกล่าวเสริมว่าขณะนี้กัมพูชาจำเป็นต้องส่งเสริมความพยายามทางการทูตในการแสวงหาการสนับสนุนตามหลักฐานและกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป

“กัมพูชาจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามในการแจ้งให้ชุมชนนานาชาติและภูมิภาคทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในกัมพูชา เพื่อต่อสู้กับการโกหกและการบิดเบือนข้อมูลของไทย” เขากล่าว

ปู โสธิรักษ์ อดีตนักวิชาการและที่ปรึกษาอาวุโสดีเด่นของศูนย์การศึกษาภูมิภาคกัมพูชา กล่าวว่า เขาไม่แปลกใจกับคำกล่าวอ้างของสีหศักดิ์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

“สหประชาชาติมักเป็นสถานที่ที่ประเทศต่างๆ แสดงความไม่พอใจซึ่งกันและกัน” เขากล่าว “ทั้งกัมพูชาและไทยต้องรักษาผลประโยชน์ของตน”

โศรศักดิ์ กล่าวว่า ความตึงเครียดบริเวณชายแดนเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม เพราะแม้จะมีรัฐบาลใหม่ แต่การเมืองภายในประเทศยังคงมีปัญหา

“รัฐบาลไทยชุดใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงบทบาทที่โดดเด่นของราชวงศ์ไทยและกองทัพไทย” เขากล่าว

“การประกาศล่าสุดของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ว่าเขาจะมอบอำนาจในการจัดการปัญหาชายแดนไว้ในมือของกองทัพไทย ทำให้การเจรจายากขึ้นไปอีก” เขากล่าว

นายโสธิรักษ์เสนอแนะให้กัมพูชาและไทยทำงานร่วมกับมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน เพื่อหาแนวทางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับในการบรรเทาความขัดแย้ง

“ไม่ใช่การกดดัน แต่เป็นการประสานงานเพื่อหาทางออกที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์” เขากล่าว “ทางออกโดยสันติไม่เพียงแต่จะเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาเซียนโดยรวมด้วย”

นายโสธิรักษ์ เน้นย้ำว่า หากเกิดสงครามหรือความขัดแย้งทางอาวุธขึ้นอีก จะนำมาซึ่งความอับอายและทำลายความน่าเชื่อถือของอาเซียน ซึ่งยึดมั่นในหลักการกลไกความขัดแย้งโดยสันติในการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิก

“สองประเทศสมาชิกอาเซียนที่กำลังจะเข้าสู่สงครามจะไม่ทำให้อาเซียนดูดี” เขากล่าว “ตอนนี้ เราหวังเพียงว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนทัศนคติและแสดงความตั้งใจจริงที่จะแสวงหาสันติภาพกับกัมพูชา ในระหว่างนี้ ผมเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชากำลังทำอย่างดีที่สุดแล้ว”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สีหศักดิ์’ เผย ‘อนุทิน’ เตรียมพบ นายกฯจีน ลงนาม MOU ขายข้าว 5 แสนตัน 14 ธ.ค.นี้ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เ

‘สีหศักดิ์’​  ยึดคำพูด ‘อนุทิน-ทรัมป์’ เดินหน้าเจรจาภาษีต่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์​ พวงเกตุแก้ว​ รมว.การต่างประเทศ​ กล่าวถึงกรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ส่งหนังสือระงับ

โบว์ ณัฏฐา ยก 3 ประเด็นใหญ่ คำถามน่าตอบ ภายใต้ข่าวสถานการณ์ไทย-กัมพูชา  

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตอบ 3 คำถามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

นักวิชาการ ชี้ ไทยใช้ยุทธศาสตร์ 'คีมหนีบ' กดดันกัมพูชา ช้าแต่ชัวร์

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชาในช่วงนี้ว่าไทยกำ

'นายกน้อย' แจงกฤษฎีกาการันตี 'สีหศักดิ์' ร่วมประชุม UNGA80 ภารกิจเพื่อชาติตาม รธน.

เลขาธิการนายกฯ เผยรัฐบาลพิจารณารอบคอบก่อนมอบหมาย รมว.ต่างประเทศ ร่วมประชุม UNGA 80 สอบถามความเห็นจาก ‘กฤษฎีกา-รองนายกฯด้านกฎหมาย’ แล้ว ชี้เป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนเพื่อปกป้องประโยชน์ชาติ ตามรัฐธรรมนูญ