สะเทือน! สภาทนายฯ ดับแสง 2 ทนายดัง ‘ลบชื่อ-พักใบอนุญาต’ ปฏิบัติการกวาดบ้านครั้งใหญ่

คำสั่งลบชื่อและพักใบอนุญาตสองทนายดังจุดแรงสั่นสะเทือนในวิชาชีพ เพราะหนึ่งในคดีถูกยื่นค้างมาตั้งแต่ปี 64 ก่อนระเบิดเป็นปฏิบัติการกวาดบ้านครั้งใหญ่ที่ทำให้สังคมหันมาจับตาบทบาทของสภาทนายความอีกครั้ง

3 ธันวาคม 2568 - วงการทนายความปั่นป่วนหนัก หลังสภาทนายความมีคำสั่งลงโทษทนายคนดังสองรายติดกัน ทั้งการลบชื่อออกจากทะเบียน และการพักใบอนุญาตหนึ่งปี กระแสจับตายิ่งแรงเมื่อทั้งคู่เป็นทนายที่ถูกสังคมตั้งคำถามเรื่องพฤติกรรม “หิวแสง” มานาน และปรากฏตัวบนสื่ออย่างต่อเนื่องจนเกิดรอยต่อระหว่างงานว่าความกับบทบาทบนเวทีสาธารณะ

หนึ่งในคดีที่ถูกนำมาพิจารณาอีกครั้ง คือเรื่องร้องเรียนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปี 2564 ผู้เสียหายถูกล่อลวงในคดีเกี่ยวกับการทรงเจ้าสื่อวิญญาณ ก่อนถูกแนะนำให้ว่าจ้างทนายที่ปรากฏตัวบนสื่อบ่อยครั้ง ทนายรายนี้ยังพาผู้เสียหายไปออกรายการชื่อดัง ซึ่งทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าการออกสื่อเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของคดีจริง หรือเป็นการสร้างกระแสให้ตัวเอง

ผู้เสียหายต้องการฟ้องคดี “ร่วมกันฉ้อโกง” แต่เมื่อถึงเวลาทำสัญญา ทนายกลับแก้ถ้อยคำเป็น “ดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาล” และดำเนินการเพียงทำหนังสือร้องเรียน ทั้งที่ข้อหาเดิมสามารถนำคดีเข้าสู่กระบวนการได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน สัญญาระบุไว้ว่าสามารถกลับไปใช้ข้อหาเดิมได้โดยไม่ต้องเพิ่มค่าจ้าง แต่ทนายผู้นี้ก็ไม่ได้ทำตามข้อตกลง

เมื่อผู้เสียหายขอคืนเงินบางส่วน ทนายปฏิเสธโดยอ้างว่าจะไม่คืนเงิน “ไม่ว่ากรณีใด ๆ” ซึ่งขัดหลักกฎหมายและเข้าลักษณะพฤติการณ์ที่ข้อบังคับมรรยาททนายความปี 2529 ห้ามไว้ชัดเจน ทั้งเรื่องการละเว้นหน้าที่ที่ควรกระทำ การปิดบังข้อเท็จจริง และการจัดการเงินลูกความไม่เหมาะสม

ประเด็นที่ทำให้หลายคนสะดุด คือคดีนี้ยื่นมาตั้งแต่ปี 64 แต่ต้องรอหลายปีจนถึงชุดกรรมการปัจจุบันถึงมีข้อสรุป คำถามเรื่องกลไกตรวจสอบที่ล่าช้าเกินไปจึงถูกหยิบขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อระบบเดินช้า ความเสียหายก็มักลุกลามเกินจำเป็น เมื่อมติเอกฉันท์ลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนตาม พ.ร.บ.ทนายความ 2528 มาตรา 52 (3) ถูกประกาศออกมา จึงถูกมองว่าเป็นการจัดการที่สำคัญ แต่ก็สายเกินไปสำหรับหลายคน

อีกคดีเป็นทนายคนละรายซึ่งถูกพักใบอนุญาตหนึ่งปีจากกรณีไปออกรายการโทรทัศน์และกล่าวหาอดีตทนายความชื่อดังว่าตบทรัพย์อดีต ผกก. ในคดีใหญ่ จนนำไปสู่การร้องเรียนและมีคำสั่งลงโทษเมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ช่วงปลายวาระของคณะกรรมการชุดนายวิเชียร ชุบไธสง คดีนี้เป็นเพียงคดีแรกของทนายอักษรย่อ “ด.” และยังมีเรื่องค้างพิจารณาอีกหลายคดีที่รอการขยับอยู่ในระบบ

แหล่งข่าวภายในสภาทนายความสะท้อนว่า การขยับรอบนี้ไม่ใช่เพียงการตัดสินรายบุคคล แต่เป็นการเริ่มต้นกวาดบ้านอย่างจริงจัง หลังปล่อยให้คดีมรรยาทสะสมมานานจนกระทบความเชื่อมั่นของสังคม การลงดาบสองรายติดกันจึงถูกอ่านว่าเป็นสัญญาณว่าองค์กรต้องการปรับระบบใหม่ ไม่ปล่อยให้กลไกค้างเติ่งแบบเดิมอีกต่อไป

เหตุการณ์ครั้งนี้ยังทำให้ภาพใหญ่อีกด้านชัดขึ้น คือบทบาทของทนายบนสื่อที่บางครั้งทับซ้อนกับงานว่าความจริง หลายปีที่ผ่านมา มีทนายจำนวนหนึ่งใช้พื้นที่โซเชียลและรายการทีวีเป็นเครื่องมือสร้างชื่อเสียง จนเส้นแบ่งระหว่างการทำคดีกับการสร้างภาพลักษณ์ต่อสาธารณะเริ่มพร่าเลือน การลงโทษครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการย้ำเตือนว่า ชื่อเสียงไม่ใช่ใบอนุญาตให้ละเมิดกติกาวิชาชีพ

ในวงการทนายเองก็มีการตั้งคำถามเรื่องค่านิยมของอาชีพเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อข้อบังคับเขียนไว้ชัด แต่การปฏิบัติจริงกลับหลุดจากกรอบ ความเสียหายมักตกอยู่กับประชาชนที่พึ่งพาทนายเพื่อหาความยุติธรรมมากกว่าตัวองค์กร ความเคลื่อนไหวรอบนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการทบทวนว่าระหว่างกติกาที่มีอยู่ กับวิธีที่คนในวิชาชีพใช้กติกานั้นจริง ๆ อะไรควรได้รับการจัดการก่อน

การลบชื่อและพักใบอนุญาตครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การปิดคดี แต่เป็นจุดที่ทำให้สังคมกลับมาตรวจสอบบทบาทของสภาทนายความอีกครั้งว่าจะรักษามาตรฐานเดียวกันกับทุกคดีได้มากแค่ไหน เรื่องที่คนจับตามองไม่ใช่ตัวบุคคลที่ถูกลงโทษเพียงรายสองราย แต่เป็นหลักการที่จะถูกใช้กับคดีที่รอคิวอยู่อีกจำนวนมาก

อาชีพทนายยืนอยู่ได้เพราะความไว้วางใจ การกวาดบ้านรอบนี้จึงเป็นโอกาสในการซ่อมเสาหลักของวิชาชีพให้มั่นคงขึ้นกว่าเดิม หากสภาทนายความเดินหน้าอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เปิดเผย และจับจุดปัญหาได้ถูกทาง ความเชื่อมั่นที่สังคมเคยมีต่อวงการนี้ก็อาจฟื้นกลับมาได้จริง ไม่ใช่แค่บนหน้ากระดาษ แต่ในความรู้สึกของคนที่ต้องการพึ่งพากระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ทนายเชาว์’ จี้สภาทนายความ เปิดชื่อ 2 ทนายอินฟูลฯ หลังถูกลบชื่อ-พักใบอนุญาต

นายเชาว์ มีขวด ทนายความและอดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่าลงดาบทนายอินฟลูไม่พอต้องเปิดชื่อด้วย

โดนแล้ว! สภาทนายความพักใบอนุญาต ‘ทนายดัง’ หลังถูกร้องเรียนผิดมรรยาท

รายงานข่าวจากสภาทนายความเเจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการสภาทนายความเพื่อพิจารณาคดีมรรยาท เมื่อเดือน ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชุดคณะกรรมการบริหาร

น้ำท่วม! เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แจ้งงดเยี่ยมญาติ-ทนายความ 3 พ.ย.

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แจ้งขออนุญาตปิดให้บริการเยี่ยมญาติ ทนายความ ซื้อสิ้นค้า ฝากเงิน เนื่องจากบริเวณพื้นที่ให้บริการ มีน้ำท่วมขัง

'ทนายชนินทร์' จับตาดีเอสไอลงพื้นที่เขากระโดง อาจมีนัยสำคัญทางการเมือง

ทนายชนินทร์ ตั้งข้อสังเกตว่า การลงพื้นที่ของดีเอสไอ โดยผิดสังเกตเช่นนี้ อาจมีนัยยะสำคัญทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์