
‘วัฒนา’ มั่นใจบริสุทธิ์คดีบ้านเอื้ออาทร เตรียมใจไว้ 2 ทาง ลั่นสู้สุดทาง หากผลเป็นลบเตรียมถวายฎีกา ‘หญิงหน่อย-สมชัย’ มาศาลให้กำลังใจ
4 มี.ค. 2565 – ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยก่อนเข้าฟังคำพิพากษาอุทธรณ์คดีบ้านเอื้ออาทรว่า วันนี้มายืนยันความบริสุทธิ์ตัวเองและตามหาความเป็นธรรม ที่ผ่านมาเราได้สู้คดีอย่างเต็มที่ โดยหลักการในการพิจารณาคดีอาญาเป็นหลักการพื้นฐานสากลที่สำคัญ ประการแรกองค์ประกอบของกฎหมายต้องครบ สองข้อเท็จจริงที่นำมาสู่การกล่าวหาต้องพิสูจน์ได้ และสามพยานหลักฐานที่นำมากล่าวหาต้องได้มาโดยชอบ ซึ่งคดีนี้ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดตั้งแต่แรกจนสุดท้าย
ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 เป็นความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบนั้นต้องมีอำนาจในตำแหน่งก่อน แต่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจอนุมัติ เพราะการเคหะเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีที่จะไปพิจารณา ส่วนรัฐมนตรีจะมีความผิดหากไปสนับสนุนเกี่ยวข้อง แต่ต้องมีคนผิดตัวกลาง ยืนยันว่าไม่มีบุคคลใกล้ชิดไปเรียกรับสินบน อีกทั้งพยานโจทก์ 150 ปาก ไต่สวนมาไม่มีใครเกี่ยวข้องด้วยเลย
“ไม่ยืนยันว่าศาลจะเชื่อคำแถลงปิดคดีของตัวเองหรือไม่ แต่เชื่อว่าสื่อที่รับฟังได้ยินครบทุกประเด็น และเกิดข้อสงสัย โดยเฉพาะประธานอนุกรรมการไต่สวนที่ดำเนินการจูงใจพยาน และไม่มีใครออกมาปฎิเสธคัดค้านว่าไม่ได้ทำ ผมจะสู้ทุกวิถีทางรวมถึงการถวายฎีกาในฐานะพสกนิกร ผมนอนหลับปกติวันนี้มั่นใจในการต่อสู้คดี แต่เตรียมใจไว้ 2 ด้าน และยอมรับคำพิพากษา หากไม่เป็นไปตามครรลองจะสู้คดีจนสุดทาง ถ้าเป็นโควิดเสียชีวิตก็ช่วยไม่ได้ และเชื่อมั่นว่าในคดีนี้เป็นเรื่องการเมืองล้านเปอร์เซ็นต์” นายวัฒนา ระบุ
นายวัฒนา กล่าวว่า ในส่วนของอัยการฟ้องเกินข้อกล่าวหา เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติฟ้องข้อกล่าวหาเดียว แต่อัยการฟ้อง 3 ข้อกล่าวหา และศาลฎีกาฯ ไม่ได้ดูไม่ได้ยกฟ้องแต่แรก แต่ท้ายที่สุดก็ยกฟ้องหลังต่อสู้คดี ซึ่งทักท้วงว่าเป็นความบกพร่องในกระบวนการที่ทำไม่มีความรอบคอบ แต่กลไกตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มีกลไกที่ยื่นอุทธรณ์ได้ หากอุทธรณ์ไม่ได้ติดคุกไปแล้ว สำหรับเอกสาร 1 แผ่นที่เคยชี้ให้ศาลพิจารณานั้น แม้เป็นเอกสารหลักฐานที่ชี้ว่าไปเรียกรับเงิน แต่เอกสารดังกล่าวคนจ่ายเงินเขียนด้านหลังว่าเป็นค่านายหน้าที่ดินที่ได้ตกลงกับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง ย้ำนี่คือความไม่รอบคอบในคดี เชื่อว่าคำพิพากษาจะถูกวิพากวิจารณ์อย่างมาก
นายวัฒนา กล่าวขอบคุณกัลยาณมิตรที่ให้กำลังใจ และช่วยเหลือทางคดี และเชื่อว่าคำพิพากษาจะออกมาตามครรลอง เพราะบ้านเมืองกระบวนการยุติธรรมเสียความน่าเชื่อถือไปมาก
สำหรับบรรยากาศการฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกาวันนี้ มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย มาร่วมติดตามฟังคำพิพากษาด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทักษิณระทึก! ศุกร์นี้รอลุ้นฎีกาอภัยโทษครั้งที่ 2 ได้ไปต่อหรือไม่
รมว.ยธ.เผยปม 'ทักษิณ' ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาอภัยโทษครั้งที่ 2 สมัย พ.ต.อ.ทวี แต่ 'สลค.' ส่งกลับหนังสือให้พิจารณาทบทวนก่อนส่งขึ้นไปใหม่ เเย้มมีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ภายในเคาะใน 3 วัน
'ทักษิณ' อ่วม! มีสิทธิ์นอนคุกยาวปมเป็นตัวการสร้างเรื่อง 'ป่วยทิพย์-ฎีกาเท็จ'
ทักษิณอ่วม คปท.-กลุ่มชาญชัย จ่อดาบสอง เตรียมขยับร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ฐานเป็นตัวการ-ผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐสร้างเรื่องป่วยทิพย์ ขั้นต่ำหากไม่รอดโดน 6-8 ปี รอดูรัฐบาลอนุทินเดินหน้าเรื่องฎีกาเท็จหรือไม่
ศาลฎีกาฯจัดระเบียบ อ่านคำสั่งคดีชั้น 14 ใช้กำลังตร. 100 นาย รักษาความสงบ
บรรยากาศที่บริเวณอาคารศาลฎีกา ฝั่งริมคลองหลอดวันนี้ พบว่าได้มีเจ้าหน้าที่ของศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้มาร่วมกันวางแผนและกำหนดแนวพื้นที่เพื่อรักษาความเรียบร้อย
'เทพไท' ใช้ฐานะผู้สังเกตการณ์การเมืองฟันธงคดีพ่อลูกตระกูลชิน!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
'วิรังรอง' ร่ายยาวเหตุผล 7 ข้อ ขอร้องนักวิชาการยกเลิกถวายฎีกา อย่าให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท
นางวิรังรอง ทัพพะรังสี เผยแพร่บทความเพื่อขอร้องให้นักวิชาการทั้ง 55 ท่านพิจารณาทบทวน ยกเลิก การถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมืองในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ โดยดิฉันมีเหตุผลดังนี้:
'วิรังรอง' เรียกร้อง 'ดร.อานนท์-นักวิชาการ 55 คน' ยกเลิกถวายฎีกาในหลวง
ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ และนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 30 โพสต์ข้อความว่า ขอร้องนักวิชาการ 55 ท่าน พิจารณายกเลิกการถวายฎีกาขอให้ในหลวงพระราชทานแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง


