'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

9 ธ.ค. 2567 – ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้

ขณะนี้มีข่าวออกมาเสมอว่า โควิด 19 เป็นโรคที่ไม่รุนแรง และการตอบสนองต่อโรคในระยะแรก มากเกินไปหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกัน หรือการให้วัคซีนป้องกันโรค

เราจะเอาสถานการณ์ในการระบาด 2 ปีแรก มาเปรียบเทียบกับปีที่ 4 ที่ 5 ไม่ได้ ขณะนี้โรคลดความรุนแรงลงอย่างมาก ด้วยวิวัฒนาการของตัวไวรัสเอง และภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นของมนุษย์ที่เกิดจากวัคซีนและการติดเชื้อ ทำให้ปัจจุบันโรคไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงแรกของการระบาด

โดยทั่วไปของโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นสมัย 100 ปีที่แล้วที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน ที่มีประชากรเสียชีวิต 20 – 40 ล้านคน ประเทศไทยเสียชีวิต 80,000 คน ทั้งที่มีประชากรเพียง 8 ล้านคนเท่านั้น โรคนี้จะรุนแรงมากในปีแรก และหลังจากการระบาดแล้วไวรัสไม่ได้หมดไป ไวรัสได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาล H1N1 มาโดยตลอดจนถึงมีการระบาดของ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เชื้อไข้หวัดใหญ่จึงเปลี่ยนแปลงไป ใน 2 ปีแรกของการระบาดโรคโควิด 19 รุนแรงมาก ประชากรไทยเสียชีวิต 1% หรือมากกว่า 30,000 คน แล้วหลังจากนั้นตามวิวัฒนาการไวรัสก็อ่อนฤทธิ์ลง ประชาชนก็มีภูมิต้านทานมากขึ้นและปรับตัวอยู่ด้วยกันมาตลอด จนปัจจุบันเหมือนโรคทางเดินหายใจทั่วไป

โควิด 19 ในปีแรกที่มีการระบาด โอกาสเป็นปอดบวมสูงมาก เราจะเห็นว่าโรงพยาบาลรับเฉพาะคนไข้ที่มีปอดบวม คนไข้ไม่หนักให้อยู่โรงพยาบาลสนาม ในช่วงแรก ICU เต็มหมด เราต้องมีการพัฒนาเรื่องเครื่องช่วยหายใจกันมากมาย หลังจากนั้นก็ตามวิวัฒนาการปรับตัวของไวรัส ลดความรุนแรงของโรคมาโดยตลอด

ในปีนี้ ถือว่าโรคได้ยุติแล้ว โดยที่ไวรัสไม่ได้หมดไป และจะยังคงอยู่กับเราตลอดไป ขณะนี้มีข่าวออกมาในสื่อสังคม เกี่ยวกับว่าเราตอบสนองกับโรคมากเกินไป เราฉีดวัคซีนกันมากเกินไป ทั้งที่โรคไม่รุนแรง จะเอาเหตุการณ์ขณะนี้ไปเปรียบเทียบไม่ได้ ถ้าความรุนแรงเท่ากับขณะนี้ เราก็คงจะไม่มีมาตรการมากมาย

ในภาพรวมในปีแรกสำหรับประเทศไทยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1 % เท่ากับไข้หวัดใหญ่สเปน ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยปล่อยแบบเมื่อร้อยปีที่แล้ว ประชากรไทยจะเสียชีวิต 1% หรือประมาณ 6 แสนคน แล้วโรคก็จะสงบ

ดังนั้นเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน เราจะเอาเหตุการณ์ขณะนี้ ไปเปรียบเทียบกับในปีแรกหรือ 2 ปีแรกไม่ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สมศักดิ์” มอบ สสส.ให้ความรู้วงกว้าง ห่วงคนไทยเป็นโรคร้ายจากค่าฝุ่น PM 2.5 เผยตัวเลขป่วยด้วยมลพิษทางอากาศสูง 12 ล้านคน เฉพาะเด็กรักษารายวันเฉลี่ย 2,760 ราย

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 กล่าวในการประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 1/2568 ว่า ที่ประชุมรับทราบแผนการดำเนินงานการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ของ สสส.

รัฐบาลสั่งจับ ‘พอตเค’ บุหรี่ไฟฟ้าใช้ยาเคผสมเผยคนสูบมีสิทธิ์ตาย

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานทางปกครอง และกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงปลอดภัยจากยาเสพติด

'หมอยง' เปิดข้อมูลไข้หวัด hMPV ระบาดในไทย เทียบกับปีก่อน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า