19 ก.พ.2568 - นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสนับสนุนการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชน มูลนิธิแพทย์ชนบท เผยแพร่บทความเรื่อง หนองฮีโมเดล โรงพยาบาลหมอครอบครัว : จากโมเดลพื้นที่สู่นโยบาย มีเนื้อหาดังนี้
ปลายปี พ.ศ.2566 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ทางทีมงานสุขภาพ ของโครงการการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชน มูลนิธิแพทย์ชนบท ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนโรงพยาบาลหนองฮี ร้อยเอ็ด เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสริมพลังซึ่งกันและกัน หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ประกาศใช้มาแล้ว เป็นเวลา 6 ปี และ ถือกำเนิดพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 มาแล้ว เป็นเวลา 4 ปี
อาจกล่าวได้ว่า เป็นครั้งแรก ที่ ทีมงานสุขภาพฯ ซึ่งประกอบด้วย บุคคลที่มีส่วนโดยตรงในการร่วมร่างรัฐธรรมนูญ จนเกิดการบัญญัติ มาตรา 258 ช. ด้านอื่น ๆ (5) ให้มีการปฏิรูประบบการแพทย์ปฐมภูมิที่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวดูแลประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม ปรากฏครั้งแรกในรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน ตลอดจนร่วมร่าง พระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 ได้ลงมาติดตาม ศึกษาเรียนรู้จากพื้นที่ปฏิบัติการจริง ว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือไม่
[ดูการถือกำเนิดการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชน(หน้า ๑๒ ถึง ๑๔)หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Book ชีวประวัติ ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีระ รามสูต https://ruraldoctor.or.th/site/e-books/tera/mobile/index.html ]
กล่าวสำหรับผมแล้ว มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องแนวคิด หลักการ ของระบบสุขภาพปฐมภูมิ ในระดับหนึ่งมาไม่น้อยกว่าสามทศวรรษ เห็นว่าเป็นระบบที่สำคัญที่สุด ถือได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของของระบบสุขภาพไทยทั้งระบบ จึงต้องบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการปฏิรูประบบฯได้อย่างเป็นรูปธรรม
จากการบัญญัติในรัฐธรรมนูญสู่การศึกษาเรียนรู้ดูงานในพื้นที่หนองฮี
อำเภอหนองฮีเป็นอำเภอขนาดเล็ก แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 4 ตำบล 54 หมู่บ้าน 5,480 หลังคาเรือน ประกอบด้วย 1 เทศบาล และ 3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.) มีประชากรทั้งสิ้น 24,348 คน และผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UC) 15,926 คน
โรงพยาบาลหนองฮี เป็นโรงพยาบาล F3 ขนาด 10 เตียง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดร้อยเอ็ด 78 กิโลเมตร เปิดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 โดยให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เปิดให้บริการผู้ป่วยใน และขึ้นทะเบียนหน่วยบริการคลินิกหมอครอบครัวครอบคลุมพื้นที่ 100 % ในปี 2562 และได้เปิดให้บริการ Home ward ในวันที่ 1กันยายน 2565
ปัจจุบันในปี 2566 มีบุคลากร รวม 112 คน ประกอบไปด้วยแพทย์ 4 คน ทันตแพทย์ 3 คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลวิชาชีพ 27 คน นักกายภาพบำบัด 3 คน นักเทคนิคการแพทย์ 3 คน นักวิชาการสาธารณสุข 4 คน แพทย์แผนไทย 3 คน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีก 62 คน
เส้นทางหมอครอบครัวสู่การเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชนในชนบท
ในปี 2560 แพทย์หญิง รัชฎาพร สีลา เข้ารับตำแหน่งผู้อํานวยการโรงพยาบาลหนองฮี ในขณะที่ช่วงนั้นโรงพยาบาลหนองฮียังคงเปิดให้บริการเพียงผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน ประชาชนในพื้นที่ยังต้องเดินทางไปรับบริการในโรงพยาบาลอำเภอใกล้เคียงที่มีบริการผู้ป่วยใน ซึ่งนับเป็นความยากลำบากของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการ
“พญ.รัชฎาพร” ก้าวเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลหนองฮี ในช่วงเวลาดังกล่าวพร้อมกับภาพฝันและอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ในการมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาระบบให้บริการสุขภาพประชาชนในชุมชนด้วยองค์ความรู้เวชศาสตร์ครอบครัว
แพทย์หญิงรัชฎาพร สีลา กล่าวถึงจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบให้บริการสุขภาพประชาชนในชุมชนด้วยองค์ความรู้เวชศาสตร์ครอบครัวที่โรงพยาบาลหนองฮี ซึ่งทำให้ตนเกิดแนวคิดพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิที่ยั่งยืน (People Centered Integrated Health Care) ให้ประชาชนเป็นเจ้าของสุขภาพตนเอง มีหมอประจำพื้นที่ทำงานร่วมกับทีมสุขภาพและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนด้วยองค์ความรู้เวชศาสตร์ครัว
การดูแลคนไข้ที่บ้านแบบเหมือนอยู่ที่โรงพยาบาล โดยจุดสำคัญของการทำ Home Ward คือกระบวนการทำงานร่วมกัน( Home Ward : Hospital Care at Home)
ในปี 2565 ดำเนินการตามเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่เป็นเลิศด้านการแพทย์ปฐมภูมิ ได้เกิดการเปิด Home Ward คือ การดูแลคนไข้ที่บ้านแบบเหมือนอยู่ที่โรงพยาบาล โดยจุดสำคัญของการทำ Home Ward คือการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ "หมอโรงพยาบาล" ทีมเครือข่ายสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่ "หมออนามัย" ทีมเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภาคีในชุมชน ตลอดจน ผู้ป่วยและครอบครัว "หมอประจำครอบครัว" ทำให้ทีมที่ทำการรักษามีโอกาสได้เห็นความเป็นอยู่ และความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสภาพแวดล้อมของประชาชน รวมไปถึงเมื่อผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาล เขาอาจจะรู้สึกว่าเขาตัวเล็ก แต่เมื่อมีแพทย์มาหาที่บ้านเขาก็จะรู้สึกว่าตัวเขาใหญ่ขึ้นเท่าแพทย์ มีผลลัพธ์ที่สำคัญ ได้แก่ กระบวนการส่งคนไข้ให้คุณหมอ และส่งคุณหมอให้คนไข้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างคนไข้และหมอ พัฒนางานจนเกิดเป็น “หนองฮีโมเดล” ซึ่งมีกลยุทธ์หลักในการพัฒนาการบริการปฐมภูมิและคุณภาพชีวิตอำเภอหนองฮี
โรงพยาบาลหนองฮี พัฒนา Home Ward : Hospital Care at Home จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงาน รวมทั้งยังเป็นที่ปรึกษาทางโทรศัพท์ของโรงพยาบาล ทุกภาคทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘Home Ward’ ยกเตียงจากโรงพยาบาลไปไว้ที่บ้าน สร้างเสริมสุขภาพด้วย ‘เวชศาสตร์ครอบครัวมาการยกระดับเป็น "หนองฮีโมเดล" ต้นแบบการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิระดับประเทศ มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีการสื่อที่ทันสมัย Tele Health, Tele Med ในการดูแลคนไข้ เกิดกระบวนการส่งมอบข้อมูลสุขภาพให้กับชุมชน เป็นการเชื่อมต่อระบบบริการสุขภาพระหว่างครอบครัวและชุมชน กับโรงพยาบาล
เยี่ยมเยือน หนองฮีโมเดล โรงพยาบาลหมอครอบครัว : จากโมเดลพื้นที่สู่นโยบาย
31 มกราคม 2568 นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ อดีตรองประธานกรรมาธิการปฏิรูปด้านสาธารณสุข และ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) รวมทั้ง นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ได้ร่วมกันบัญญัติ การปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวลงในรัฐธรรมนูญ รวมทั้งทีมงานสุขภาพ ได้มีโอกาสไปร่วมแสดงความชื่นชมและยินดี ในงาน “หนึ่งทศวรรษ หนองฮีโมเดล โรงพยาบาลหมอครอบครัว” ในงานดังกล่าวได้เห็นความก้าวหน้าของหนองฮีโมเดล อีกมาก ดังปรากฏในการสรุปรายงานโดย ดร.วรเชษฐ์ เขียวจันทร์
[ หนึ่งทศวรรษ โรงพยาบาลหนองฮี “หนองฮีโมเดล โรงพยาบาลหมอครอบครัว”
the page name “มูลนิธิแพทย์ชนบท Rural Doctor Foundation
ติดตามการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ (Monitoring Primary Health System Reform.)
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=122188456928097829&id=61552934885552 ]
นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้ มาเป็นเวลา 6 ปี ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบ โครงสร้าง ภายในกระทรวงสาธารณสุข คือ การเกิดขึ้นของ คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มี กองสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ(กสป.) ภายใต้ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งเกิด เครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิ จำนวน 4226เครือข่ายทั่วประเทศ ที่ขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ แล้ว
นอกจากนี้ โรงพยาบาลชุมชนระดับอำเภอ โรงพยาบาลทั่วไประดับจังหวัด ได้มีการปรับโครงสร้างภายในรองรับ ตลอดจน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล(รพ.สต.) ได้ถ่ายโอน จากกระทรวงสาธารณสุข ไปอยู่ ภายใต้สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพื่อรองรับภารกิจ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562
สำหรับ มูลนิธิแพทย์ชนบท(มพช.) ได้จัดตั้ง สถาบันสนับสนุนการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชน เพื่อทำหน้าที่ในการเชื่อมประสานภาคส่วนต่างๆ มาทำงานร่วมกันทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สป.สช.)
“…บทบาทที่สำคัญของมูลนิธิฯคือ สนับสนุนการสังเคราะห์องค์ความรู้ระบบสุขภาพปฐมภูมิในระดับพื้นที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด และนำไปปรับใช้ในลักษณะโมเดล หรือ Best Practices ตลอดจนสังเคราะห์ความรู้ในพื้นที่สู่นโยบายระดับต่างๆ…”
นำไปสู่การเกิดปรากฏการณ์การพัฒนาและวิจัย วิจัยและพัฒนา (D and R, R and D) ระบบสุขภาพปฐมภูมิอย่างกว้างขวาง เกิดรูปแบบ หรือ โมเดล หรือ Best Practices ของระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ในบริบทต่างๆ ทั่วประเทศ
ดังเช่น หนองฮีโมเดล ดังกล่าวแล้วข้างต้น นอกจากนี้ยังมี ลำสนธิโมเดล ท่าวุ้งโมเดล อุบลรัตน์โมเดล นาทวีโมเดล เทพาโมเดล และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
การพัฒนาและวิจัย วิจัยและพัฒนา (D and R, R and D) ระบบสุขภาพปฐมภูมิอย่างกว้างขวางในบริบทที่แตกต่างกันไป ในขอบเขตที่ก้าวพ้นสถานบริการสุขภาพแต่เชื่อมโยง จาก Hospital -based สู่ Home- and Community-Based Services ในพื้นที่ทั่วทั้งอำเภอและทั้งจังหวัด ต่อไป
“…แต่ยังขาดการรวบรวมองค์ความรู้ในพื้นที่ปฏิบัติการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ทั่วทั้งอำเภอและทั้งจังหวัด…”
จำต้องบันทึก ประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ไว้ ณ โอกาสนี้ ว่า ท่านนายกอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี สองสมัย ได้กรุณาประสานความร่วมมือไปยังนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วยเหตุดังกล่าว ทางมูลนิธิแพทย์ชนบท จึงได้ร่วมกับทาง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่าย 12 องค์กร (ดูรายชื่อในหมายเหตุด้านล่างนี้) ได้ร่วมกันดำเนิน โครงการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ(และชุมชน) ใน 20 พื้นที่/จังหวัด นำร่อง หรือ แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox)
อีกทั้ง ได้รับความกรุณา จากปูชนียแพทย์แพทยสภาและปูชนียแพทย์แห่งราชประชา สนับสนุนการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิอย่างเต็มที่ คือ ศาสตราจารย์นายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ รามสูต ตามลำดับ
ระบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นระบบที่สำคัญมาก กล่าวได้ว่า เป็นกระดูกสันหลังของระบบสุขภาพไทยทั้งมวล ไม่เพียงสร้างความยั่งยืนของระบบสุขภาพไม่ให้ล้มละลายด้วยค่ารักษาพยาบาลที่เข้าสู่จุดวิกฤต หากยังสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยที่มีความเหลื่อมล้ำสูงในลำดับต้นของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในชุมชนแออัดในเมือง ตลอดจนผู้คนในชนบท จนถึงหัวไร่ปลายนาและสุดเขตแดนสยาม
…………………………………………………………………………………
หมายเหตุ:
1. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA)
2.สถาบันพระปกเกล้า(King Prajadhipok's Institute)
3.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) (Community Organizations Development Institute)
4. สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย(The Provincial Administrative Organizations (PAOs) of Thailand are)
5. ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย(Thai community hospital director association)
6. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)(National Health Commission Office; NHCO)
7. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) National Health Security Office(NHSO)
8. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
(Thai Health Promotion Foundation)
9. สภาองค์กรของผู้บริโภค( Thailand Consumers Council.)
10.สภากาชาดไทย( Thai Red Cross Society.) (กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ)
11.สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(Office of the National Human Rights Commission) (กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ)
12. หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข(กำลังอยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกัน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024
ขบวนการแพทย์ชนบท : การเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบทและอดีตเลขาธิการแพทยสภา นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยแพร่บทความ เรื่อง ขบวนการแพทย์ชนบท : การเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีเนื้อหาดังนี้
รางวัลแมกไซไซ 2567 ขบวนการแพทย์ชนบท กับการพัฒนาระบบสุขภาพไทย
หนึ่งในองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอ ที่มีบทบาทและชื่อเสียงในสังคมไทยมายาวนาน ที่นับจากก่อตัวมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีเส้นทางการทำงานมาถึงห้าทศวรรษแล้ว นั่นก็คือ”ชมรมแพทย์ชนบท”
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง : วัฒนธรรมองค์กรของระบบสุขภาพไทย เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเครือข่ายแพทย์ชนบท
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง : วัฒนธรรมองค์กรของระบบสุขภาพไทย เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเครือข่ายแพทย์ชนบท นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์
'หมอชูชัย' ชงยุทธศาสตร์แก้ PM2.5 หนุน HIA สร้างความเข้มแข็งชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบ
'หมอชูชัย' ชี้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่สำคัญ เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เสนอยุทธศาสตร์สนับสนุน HIA สร้างความเข้มแข็งอบจ.และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ เรียกร้องภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบพัฒนาอย่างยั่งยืน
8 ปัจจัยที่เอื้อต่อผลสำเร็จ ในการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชน ของระบบสุขภาพไทย
นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท เจ้าของรางวัลผู้นำสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยแพร่บทความเรื่อง 8 ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิและชุมชนของระบบสุขภาพไทย มีเนื้อหาดังนี้