กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ประชาชนรักษากับหมอพื้นบ้าน ควรตรวจสอบใบรับรองตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้านพ.ศ. 2562 ออกให้ หวั่นเกิดอันตรายต่อสุขภาพ หากรักษากับหมอเถื่อน ขณะที่ผู้แอบอ้างโพสต์ข้อความโอ้อวดสรรพคุณ อาจเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง มีความผิดตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556
4 เมษายน 2568 - นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์แอบอ้างเป็นหมอพื้นบ้าน สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยประชาชนได้ ว่า กรณีดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนมายังกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากปรากฏว่ามีผู้แอบอ้างสามารถรักษาอาการเจ็บป่วย อวดอ้างสรรพคุณมีภูมิปัญญาโบราณพื้นบ้าน จึงได้มอบหมายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อมูล ทำการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว เพราะหากไม่ได้เป็นหมอพื้นบ้านตามที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองนั้นอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนหลงเชื่อไปรับการรักษา ทำให้ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง เป็นอันตรายต่อสุขภาพ บางรายอาจทำให้พิการหรือเสียชีวิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อหมอพื้นบ้านตัวจริง ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นในภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายแพทย์สมฤกษ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของหมอพื้นบ้าน จึงได้จัดทำระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้านพ.ศ. 2562 มีการกำหนดคุณสมบัติต่างๆ อย่างเข้มข้น ทั้งอายุ คุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญจากการสืบทอดภูมิปัญหาที่สืบทอดมาต้องไม่น้อยกว่า 10 ปีเป็นที่รู้จักและได้รับยอมรับจากคนในชุมชน ผ่านการเสนอชื่อจากคณะกรรมการหมู่บ้าน ชุมชน ท้องถิ่นและรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ได้หมอพื้นบ้านตัวจริง
ดังนั้นหากประชาชนมีความประสงค์รักษาโรคกับหมอพื้นบ้าน ต้องสอบถามให้แน่ใจว่าบุคคลดังกล่าว มีหนังสือรับรองการเป็นหมอพื้นบ้านจากกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ และหมอพื้นบ้านคนดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคด้านใด สอดคล้องกับโรคของตนเองที่ต้องการไปรับการรักษาหรือไม่ หรือหากเกิดข้อสงสัยสามารถสอบถามกับแพทย์แผนไทยหรือบุคลากรสาธารณสุขในหน่วยบริการของรัฐได้ทั่วประเทศ หรือติดต่อโดยตรงที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กและไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ด้าน ดร.นันทศักดิ์ โชติชนะเดชาวงศ์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย กล่าวว่า ตามมาตรา 31 แห่ง พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามไม่ให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์หากฝ่าฝืนจะมีความผิด ตามมาตรา 53 และต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การโฆษณาการรักษาโดยไม่มีใบอนุญาต อาจเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริงหรือหลอกลวงผู้บริโภคและการเผยแพร่เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะการรักษาผ่าน TikTok หรือ Facebook โดยไม่มีใบอนุญาต อาจเข้าข่ายการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการอ้างสรรพคุณ ในการรักษาโรค หรือ อาการต่างๆ
นอกจากนี้หากมีการเผยแพร่ภาพหรือวิดีโอของผู้ป่วยโดยไม่ได้รับความยินยอม อาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 16 ซึ่งระบุว่าการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย กรณีมีอาการรุนแรงหรือฉุกเฉิน
เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก ควรรีบพบแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ควรเชื่อคำกล่าวอ้างเกินจริง เช่น “รักษาได้ทุกโรค” หรือ “ไม่ต้องไปโรงพยาบาลอีก”หมอพื้นบ้านที่โฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดีย ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อน เช่น มีการแสดงใบรับรอง หรือได้รับการแนะนำจากหน่วยงานท้องถิ่น
ทั้งนี้หมอพื้นบ้านไทย มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งเป็นพลังสำคัญของระบบสุขภาพไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมแพทย์แผนไทยฯ ปั้นแหล่งท่องเที่ยวสมุนไพรทั่วไทย ดึงนักท่องเที่ยว–เสริมรายได้ชุมชนกว่า 256 ล้าน
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชูจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร หวังเป็นจุดหมาย
‘ไทย’ ประกาศความพร้อมเป็นผู้นำ ‘การแพทย์ดั้งเดิมอาเซียน’ ในเวที ASEAN Health Cluster 3 ที่บรูไน
กรมการแพทย์แผนไทยฯ โชว์วิสัยทัศน์ประกาศความพร้อมเป็นผู้นำการแพทย์ดั้งเดิมอาเซียน ในเวที ASEAN Health Cluster 3 ที่บรูไน ชูขับเคลื่อน 3 โครงการหลัก ย
กรมแพทย์แผนไทยฯ จัดเวิร์กช็อป หนุนคุ้มครอง-ต่อยอดภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้าน
กรมการแพทย์แผนไทยฯ ติดอาวุธทางวิชาการ จัดเวิร์คช็อป การคุ้มครอง-ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและแพทย์พื้นบ้าน หวังยกระดับภูมิปัญญาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ชง ‘กระชายดำ–กระท่อม’ ขึ้นแท่นสมุนไพรแห่งปี ดันส่งออกหมื่นล้าน
คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ชง “กระชายดำ-กระท่อม” เป็น “Herb of the year” ดั


