เตือนสิงห์อมควันไทย 2.6 ล้านคน ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 5 โรค

เกือบ 3 ใน 10 ของสิงห์อมควันไทย ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 5 โรค ชี้เลิกสูบบุหรี่ดีที่สุด ลดความรุนแรงของโรค ลดโรคแทรกซ้อนได้

27 ก.พ. 2565- ศ.นพ.วิชัย เอกพลากร ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี หัวหน้าโครงการการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563 เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจสุขภาพคนไทยพบว่า 27.0% ของผู้สูบบุหรี่ไทยที่มี 9.9 ล้านคน หรือ 2,679,184 คน มีโรคเรื้อรัง โรคใดโรคหนึ่งใน 5 โรค คือ เบาหวาน ความดันสูง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากรวมผู้สูบบุหรี่ที่มีโรคเรื้อรังอื่น ๆ ทั้งหมด อาทิ โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม วัณโรค สัดส่วนผู้สูบบุหรี่ไทยที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวอาจสูงถึง 1 ใน 3 ของผู้สูบบุหรี่ทั้งหมด

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า แม้จะเป็นเรื่องดีที่อัตราการสูบบุหรี่ในผู้ป่วยโรคเรื้อรังจะต่ำกว่าในประชากรไทยทั่วไป ซึ่งอัตราการสูบบุหรี่ของชายไทยในการสำรวจนี้เท่ากับ 29.5% ผู้ป่วยเบาหวาน 21.0% โรคหัวใจ 16.2% ความดันสูง 27.4% แต่ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวทุกโรค การสูบบุหรี่จะทำให้การรักษาโรคที่เป็นอยู่ยากขึ้น เกิดโรคแทรกซ้อนเร็วและรุนแรงขึ้น ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น คนเป็นโรคเบาหวาน การสูบบุหรี่จะทำให้คุมระดับน้ำตาลได้ยากขึ้น ต้องใช้ยามากขึ้น มีโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจหรือสมองตีบ ไตวายเกิดเร็วขึ้น หรือคนที่ความดันสูงแล้วสูบบุหรี่ ต้องใช้ยามากขึ้นในการคุมความดัน และจะเกิดโรคหัวใจ และเส้นเลือดสมองเร็ว ไตวาย และรุนแรงขึ้น

“คนที่มีโรคประจำตัวทุกโรค การเลิกสูบบุหรี่มีความสำคัญที่สุดที่จะลดความรุนแรงของโรค ลดการเกิดโรคแทรกซ้อน ผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกชนิด จึงต้องพยายามเลิกบุหรี่ รวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้าให้ได้ ขณะที่ครอบครัวต้องช่วย ด้วยการให้กำลังใจผู้สูบบุหรี่ในการที่จะเลิก สิ่งที่สำคัญคือ ผู้สูบบุหรี่และครอบครัวต้องร่วมกันกำหนดให้ไม่มีการสูบบุหรี่ในบ้าน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่สูบน้อยลง และทำให้เลิกสูบง่ายขึ้น” ศ.นพ.ประกิต กล่าว

พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล กล่าวว่า มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ กำหนดให้ผู้ให้บริการสุขภาพทุกคน ต้องมีการซักประวัติการสูบบุหรี่ ลงบันทึกการวินิจฉัยโรคว่ามีภาวะติดนิโคติน และต้องวางแนวทางการรักษาพยาบาลด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมถึงการให้ครอบครัวผู้ป่วยมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งสถานพยาบาลและผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามมาตรฐานใหม่นี้ เพื่อให้ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ทุกคนได้รับการรักษาเพื่อเลิกบุหรี่ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งการเลิกสูบบุหรี่จะส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งผู้ป่วยด้วยโรคอื่น ๆ และผู้ที่ป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ จึงขอประชาสัมพันธ์มาตรฐาน HA ใหม่นี้ เพื่อสถานพยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวมีความเข้าใจตรงกัน และให้ความร่วมือในการปฏิบัติตามมาตรฐานใหม่นี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘หมอยง’ ย้ำโควิดยังสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ไม่รุนแรง หายไข้-ไอมาก 1 วัน ใส่แมสทำงานได้

โควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงลดความรุนแรงลง จนปัจจุบันความรุนแรงเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ RSVและเป็นการระบาดตามฤดูกาล

โควิดพุ่ง! ไทยติดเชื้อใหม่รอบสัปดาห์ 630 ราย ดับเพิ่ม 5 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 630 ราย

ส่องสุขภาพ'มอเตอร์ไซด์รับจ้าง'ใน กทม.

“มอเตอร์ไซด์รับจ้าง” เป็นอาชีพที่ใกล้ชิดกับชาวกรุงเทพฯ ทั้งรับส่งผู้โดยสารและเอกสาร ผลจากปัญหาจราจรและความเร่งรีบในการเดินทางของคนเมือง  แม้จะเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายบนท้องถนนกรุงเทพฯ แต่พวกเขาก็ไม่บอกลางานอิสระนี้ เพราะประกอบอาชีพได้ง่าย

เปิดตัวเลขความสูญเสียเปิดสถานบริการถึงตี 4 ผงะ! เพิ่มขึ้นทั้ง 5 จว. จี้ถึงเวลาทบทวน

นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่บทความเรื่อง ความสูญเสียจากนโยบายนำร่องเปิดสถานบริการผับบาร์ถึงตี 4 ถึงเวลาทบทวนหรือยัง? มีเนื้อหาดังนี้