องค์กรลูกจ้างฮือ 1มิ.ย.บุกทำเนียบ ต้านระเบียบคลัง


เพิ่มเพื่อน    

  รัฐบาลมีสะดุ้ง! "20 องค์กรลูกจ้าง" พร้อมใจ "ชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กร" นัด 1 มิ.ย.บุกทำเนียบฯ จี้เลิกระเบียบคลังใหม่ใช้เงินนอกงบประมาณจ้างพนักงาน หวั่นกระทบ "ลูกจ้าง-บุคลากร รพ." ทั้งระบบ "บิ๊กตู่" สั่งกระทรวงคลังทำความเข้าใจทุกฝ่าย เปิดช่องปรับแก้ไขได้อีก

    เมื่อวันที่ 28 พ.ค. กลุ่มเครือข่ายองค์กรลูกจ้างกว่า 20 องค์กร อาทิ สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.), เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน(คปค.), องค์การแรงงานแห่งประเทศไทย, กลุ่มพลังเพื่อนแรงงาน, เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ,  กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ, มูลนิธิอารมณ์พงศ์พงัน,  มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย, สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย ฯลฯ แถลงข่าวเรื่องขับเคลื่อนการเข้าถึงสิทธิและบริการของกองทุนเงินทดแทนของลูกจ้างหน่วยงานภาครัฐ พร้อมออกแถลงการณ์ขอให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง โดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ.2561
    นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.) และประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่...) พ.ศ.... เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2561 ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ขยายความคุ้มครองแก่ลูกจ้างของส่วนราชการ ที่มิใช่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าลูกจ้างของกระทรวง ทบวง กรม ทุกหน่วยงานมีลูกจ้างที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมจำนวน 904,759 ราย จากหน่วยงานรัฐทั้งหมด 9,361 แห่ง และยังมีลูกจ้างเหมาบริการ 475,828 ราย ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับสิทธิสวัสดิการใดๆ เลย ก็จะเข้ามาอยู่ในกองทุนนี้ด้วย รวมแล้วกว่า 1.4 ล้านคน
    นายมนัสกล่าวว่า การออกระเบียบกระทรวงการคลังฯ ดังกล่าว ทำให้ลูกจ้างในส่วนนี้ทั้งหมดกว่า 1.4 ล้านคน ถูกลิดรอนสิทธิ โดยลูกจ้างเหมาบริการ เดิมไม่ได้สิทธิสวัสดิการใดๆ อยู่แล้ว และลูกจ้างส่วนราชการที่เข้าประกันสังคม เราไม่รู้ว่ามีสัญญาจ้างแบบใด ปีต่อปี 3 ปี หรือ 4 ปี ซึ่งระเบียบกระทรวงการคลังระบุว่า การว่าจ้างจะต้องสิ้นสุดในปีงบประมาณนั้นๆ และเมื่อพนักงานหรือลูกจ้างลาออก หรือส่วนราชการหมดความจำเป็นในการจ้างให้ยุบเลิกตำแหน่งพนักงานหรือลูกจ้าง ก็จะกลายเป็นมีการตกงานเพิ่มขึ้นอีกใช่หรือไม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าเห็นใจอย่างมาก
    "เครือข่ายองค์กรลูกจ้างทั้ง 20 องค์กร ได้หารือและมีมติเห็นชอบร่วมกันที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์ที่ 1 มิ.ย.นี้ เพื่อขอให้ลูกจ้างส่วนราชการทั้งหมดต้องได้รับความคุ้มครอง ทั้งจากกองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน และตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะกองทุนเงินทดแทนที่เมื่อเวลาลูกจ้างภาครัฐประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน ควรได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับลูกจ้างภาคเอกชน รวมทั้งขอให้กระทรวงการคลังยกเลิกระเบียบ และขอให้ลูกจ้างส่วนราชการทุกประเภทที่มีการจ้างงานในปัจจุบันได้มีการว่าจ้างตามระบบถูกต้องและเข้าสู่สิทธิที่ควรได้อย่างเหมาะสม ลดความเหลื่อมล้ำในระบบราชการไทย" นายมนัสกล่าว
    ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายองค์กรลูกจ้างรายนี้ระบุว่า จากการประมาณการว่าอัตราการจ่ายต่ำสุดของนายจ้างหรือหน่วยงานภาครัฐต่างๆ คือ 0.2% จากฐานเงินเดือนของลูกจ้างที่ต่ำสุดคือ 9,000 บาท ไม่เกิน 20,000 บาท หน่วยงานรัฐนั้นต้องอุดหนุนงบประมาณเข้ากองทุนประมาณ 18-40 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งจากประมาณการตัวเลขลูกจ้างส่วนราชการกว่า 1.4 ล้านคน หากคิดจากอัตราสูงสุดก็อยู่ที่ประมาณ 56 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำจากการจ้างงานและเพิ่มความเป็นธรรมได้
    เช่นเดียวกับ นายธนพล ดอกแก้ว ประธานเครือข่ายชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กร ออกแถลงการณ์สนับสนุนการเคลื่อนไหวของวิชาชีพสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข โดยชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพอื่นๆ ที่คัดค้านระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรวบอำนาจการจ้างลูกจ้างเงินนอกงบประมาณไปไว้ที่กระทรวงการคลัง 
    นายธนพลกล่าวว่า ระเบียบกระทรวงการคลังฉบับนี้ กระทบต่อผู้ป่วยและผู้รับบริการของโรงพยาบาลต่างๆโดยตรง หากโรงพยาบาลมีกำลังคนไม่เพียงพอหรือการจัดจ้างบุคลากรไม่มีประสิทธิภาพ ต้องรออนุมัติหรือพิจารณาอย่างไม่เข้าใจงานของกระทรวงการคลัง ย่อมสร้างผลกระทบมหาศาล
    "ขอเรียกร้องให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลังฉบับรวบอำนาจนี้ในทันที หากไม่ยกเลิก เราจะไปร่วมการชุมนุมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ด้วย" ปธ.เครือข่ายชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กรระบุ 
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้นำการเรียกร้องยกเลิกระเบียบกระทรวงการคลัง ห้ามจ้างและขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง โดยใช้เงินนอกงบประมาณหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกันในระเบียบที่ออกมาโดยกรมบัญชีกลาง ซึ่งจริงๆ แล้วออกมาครอบคลุมการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ให้คุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน ประหยัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อตกลง มีข้อยกเว้นให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของกระทรวงสาธารณสุข 
    "ในที่ประชุม ครม.วันนี้ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร สามารถดำเนินการได้ เพียงแต่ต้องมีแผนงานให้ชัดเจนว่าจะใช้เงินอย่างไร เพราะเงินนอกงบประมาณก็มีความสำคัญ ถึงแม้จะไม่ใช่เงินของรัฐก็ตาม ซึ่งเงินจำนวนนี้มีหลายอย่างด้วยกันที่ต้องนำมาใช้ ทั้งเรื่องการพัฒนาโรงพยาบาล รักษาสภาพ เครื่องมือต่างๆ ใช้ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลประชาชนตามหลักประกันสุขภาพ และการจ้างลูกจ้างพนักงาน ซึ่งมีความขาดแคลนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นต้องไปดูสัดส่วนการใช้งบประมาณดังกล่าวให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะพากันลากไปทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญควรจะเน้นเรื่องการป้องกัน การรักษาพยาบาล การใช้ระบบออนไลน์ แม้กระทั่งการดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่มีหลายเทคโนโลยีออกมา ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จัดหมอ แพทย์ชุมชนลงไปข้างล่าง และในเรื่องการใช้ระบบออนไลน์ในการปรึกษาโรค รักษาพยาบาลในขั้นต้น สำหรับผู้มีรายได้สูงก็สามารถใช้อุปกรณ์หุ่นยนต์เฝ้าคนไข้ก็เลือกได้ แต่รัฐบาลก็อยากให้ทุกอย่างมากกว่านี้ เพราะเป็นโครงการที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องทำอย่างไรไม่ให้งบประมาณสิ้นเปลืองมากเกินไปจนทำอย่างอื่นไม่ได้เลย จนพอกหางหมูไปเรื่อยๆ 
    "รัฐบาลจะลำบาก 5 ปี 10 ปี เป็นสังคมผู้สูงอายุอีก ก็ต้องดู อย่างไรก็ตาม วันนี้กระทรวงการคลังจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ เพื่อรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน หาทางการแก้ปัญหาข้อติดขัด ความไม่เข้าใจกันในเรื่องกฎระเบียบตรงนี้ ถ้าจำเป็นก็แก้ไข ก็ไม่ได้หมายความว่าทำให้ทุกอย่างทำไม่ได้ ทำได้  แต่ควรจะทำอย่างไร ไม่ต้องการเพิ่มภาระให้ทุกคน" นายกฯ กล่าว
    ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ระเบียบกระทรวงการคลัง ห้ามจ้างและขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง โดยใช้เงินนอกงบประมาณ ไม่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข เพราะมีข้อตกลงตรงกับกระทรวงการคลังแล้ว ดังนั้นบรรดาหมอ พยาบาล หมอ เภสัชกรทั้งหลาย รวมทั้งผู้บริหารโรงพยาบาล ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"