เตือน8จว.ใต้รับมือฝนถล่ม   เมืองสุไหงโก-ลกน้ำท่วมซ้ำอีกรอบชาวบ้านหนีจ้าละหวั่น


เพิ่มเพื่อน    

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน 8 จว.ภาคใต้รับมือฝนตกหนัก ชายฝั่งมีคลื่นลมแรง เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกจมน้ำอีกรอบหลังฝนถล่มหนักติดต่อ 3 วัน

            เมื่อวันที่ 14 มกราคม กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 10 เรื่อง "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2561)" แจ้งเตือนสภาพอากาศดังนี้ 1.ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ในช่วงวันที่ 14-15 มกราคม มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง

            ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

            2.อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 14-15 มกราคม ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-2 องศาเซลเซียสในบริเวณภาคเหนือ ส่วนบริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องในระยะนี้

            ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 วัน ล่าสุดบรรยากาศบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้มปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ แต่ไม่หนักมากนักเหมือนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกล้นตลิ่ง และได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ที่ราบลุ่มตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก จำนวน 4 ชุมชน คือ ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง และชุมชนท่าชมพู่ ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวน 40 ครัวเรือน

            ทั้งนี้ มีน้ำท่วมขังโดยภาพรวมสูงเฉลี่ย 40-50 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในระลอกที่ 2 โดยประชาชนได้อพยพขนสิ่งของและสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำท่วมไปอาศัยอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้านพักของแต่ละคน และใช้เรือเป็นพาหนะแทนรถยนต์และรถจักรยานยนต์

            อย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้อาจจะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติได้ในช่วง 1-2 วัน หากฝนที่ตกลงมามีความเบาบางลง และมวลน้ำก้อนนี้กำลังระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยด้านอำเภอตากใบ ก็จะส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมลดลงตามลำดับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"