ยอมสึกแล้ว! อดีตพระแก๊งแครอทถูกขับพ้นวัด อ้างจำใจลาสิกขา ลั่นไม่หยุดเคลื่อนไหว


เพิ่มเพื่อน    

26 มิ.ย.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชิษณุพงษ์ ไพรพารี หรือ เอิร์ท อดีตพระภิกษุแก๊งแครอท สังกัดวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อำเภอเมือง จังหวัดศรีษะเกษ ซึ่งได้เข้าร่วมการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มราษฎร ขณะนี้ได้ลาสึกขาเป็นฆราวาสแล้วในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ หลังจากมีหนังสือจากพระราชกิตติรังษี เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม สั่งให้ออกจากวัดและพ้นจากสังกัดตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยหนังสือคำสั่งเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ฉบับที่ ๐๑/ ๒๕๖๔ เรื่อง ให้ออกไปเสียจากวัด ระบุดังนี้ ด้วย พระชิษณุพงษ์ ฉายา ชยนุตธารี นามสกุล ไพรพารี สังกัดวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ขออนุญาตไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยศาสนศึกษา และพักที่น้ำทองสิกขาลัย วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ภายหลัง ทราบว่า พระชิษณุพงษ์ ชยนฺตธารี มีพฤติกรรมเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมการเมืองที่กรุงเทพมหานครหลายวาระ

เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ได้มีหนังสือเรียกกลับและให้มารายงานตัว 2 วาระแล้ว และขอให้งดพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง แต่ยังคงมีพฤติกรรมกลับมาเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองอีก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสมณสารูป ขัดต่อคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕

จึงสั่งให้ พระชิษณุพงษ์ ชยนุตธารี ออกไปเสียจากวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม และพ้นจากสังกัดตั้งแต่วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีหนังสืออีกฉบับ ระบุว่า ด้วยปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ท่านได้เข้าร่วมการชุมนุม และได้ขึ้นเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อทำการปราศรัยหลายวาระ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสมณสารูป เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อพระพุทธศาสนา ต่อวัดต้นสังกัด และคณะสงฆ์โดยส่วนรวม นอกจากนี้ยังเป็นการขัดต่อคำสั่งของมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ ด้วย

เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม จึงได้มีหนังสือเรียกกลับและให้มารายงานตัว 2 วาระแล้ว และขอให้งดพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง แต่ยังปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ท่านคงมีพฤติกรรมเข้าร่วมชุมนุมกับผู้ชุมนุมทางการเมืองอีก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  ในการนี้ เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ได้พิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งให้ท่านออกไปเสียจากวัดและให้พ้นจากสังกัดวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตั้งแต่วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป 

นายชิษณุพงษ์ ได้โพสต์รูปภาพพิธีลาสิกขา พร้อมกับโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ข้าพเจ้าลาสิกขา "ขอให้โลกจดจำไว้ว่า รัฐกำจัดข้าพเจ้าทิ้งไป"

ก่อนหน้านี้ นายชิษณุพงษ์ โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า "การที่สำนักงานพระพุทธศาสนาและมหาเถรสมาคมใช้กฎหมายอยุติธรรมเป็นเครื่องมือกำจัดผมในครั้งนี้ ผมไม่จำเป็นต้องดื้อแพ่งครองสมณเพศต่อไปกับเกมที่ผ่านการออกแบบมาอย่างรอบด้านในการกำจัดพระที่เป็นภัยต่อระบอบศักดินา แต่เรื่องที่ผมออกมาพูดและผลักดันนั้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อศาสนาพุทธหรือศาสนาใดศาสนาหนึ่งให้มีอำนาจโดยชอบธรรมผ่านอำนาจรัฐ ดังนั้น ถึงแม้ว่าพวกท่านจะพรากเอาสมณะเพศออกไป แต่ก็ไม่อาจพรากเอาความเป็นพุทธบริษัทได้ และการเปิดเผยความจริงของอำนาจรัฐกับศาสนาจะยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคฤหัสถ์แล้วก็ตาม"

ทั้งนี้ นายชิษณุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กกับจอม เพชรประดับก่อนที่จะตัดสินใจทำการลาสิกขา ว่า "เจ้าอาวาสได้รับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐ จนต้องออกหนังสือเพื่อให้ตนได้พ้นไปจากวัด เพราะผิดกฎหมายเถรสมาคมที่ห้ามพระยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ทั้งที่จริงแล้วคณะสงฆ์ไทยทั้งหมดก็ล้วนยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะเป็นเครื่องมือทางการเมืองฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด และเพื่อไม่เป็นปัญหากับวัดใด เพราะแม้จะไปอยู่วัดอื่นก็จะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐอีก จึงจำใจต้องลาสิกขาบทในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนนี้ หลังจากออกมาเป็นฆราวาสแล้วก็จะเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพต่อไป"
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"