ฮ่องกงเชือดรายแรกตามกม.มั่นคง หนุ่มแว้นชนตร. ชูธงแยกดินแดน


เพิ่มเพื่อน    

เชือดไก่ให้ลิงดู ศาลฮ่องกงตัดสินคดีจำเลยคนแรกที่โดนฟ้องตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหนุ่มวัย 24 ที่ชูธงปฏิวัติฮ่องกงขณะขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนตำรวจระหว่างการประท้วงปีที่แล้ว โดนตัดสินว่ามีความผิดฐานก่อการร้ายและปลุกระดมการแบ่งแยกดินแดน ชี้โทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต

แฟ้มภาพ ตง อิงกิต ถูกนำตัวมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวนข้อกล่าวหาภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 (Getty Images)

    สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม กล่าวว่า จำเลยรายนี้เป็นอดีตบริกรวัย 24 ปี ชื่อ ตง อิงกิต เป็นบุคคลแรกที่โดนสั่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่จีนบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2563 เขาถูกกล่าวหาว่า ขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนตำรวจปราบจลาจล 3 นาย ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 พร้อมกับถือธงติดคำขวัญของการประท้วงที่ว่า "ปลดปล่อยฮ่องกง การปฏิวัติแห่งยุคสมัยเรา" ซึ่งอัยการกล่าวว่าเป็นความคิดของพวกแบ่งแยกดินแดน

    ข้อหาอีกข้อหนึ่งเรื่องการขับขี่อันตรายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บร้ายแรงไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาด้วยในครั้งนี้ ศาลสูงจะรับฟังคำโต้แย้งเพื่อขอลดหย่อนโทษในวันพฤหัสบดี และคาดว่าจะมีคำพิพากษาโทษในภายหลัง จำเลยรายนี้ ซึ่งปฏิเสธความผิดทุกข้อหา อาจโดนลงโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตตามความผิดในกฎหมายฉบับนี้

    คำพิพากษาคดีนี้ถูกจับตามองว่า จะเป็นแนวทางของการตีความคำขวัญ ซึ่งผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงใช้กันอย่างแพร่หลายระหว่างการชุมนุมใหญ่เมื่อปี 2562 และปรากฏไปทั่วทั้งบนกำแพง, ใบปลิว, หนังสือ, สติ๊กเกอร์, เสื้อยืด หรือแม้แต่ถ้วยกาแฟ เพื่อเป็นคดีตัวอย่างภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ ซึ่งห้ามการโค่นอำนาจ, แยกดินแดน, ก่อการร้าย และสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ

    นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มสิทธิมนุษยชนยังวิจารณ์กระบวนการพิจารณาคดีที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวและไม่มีคณะลูกขุนซึ่งเป็นลักษณะสำคัญในหลักนิติธรรมของฮ่องกง

    ภายหลังการไต่สวนซึ่งใช้เวลา 15 วัน ผู้พิพากษา 3 ท่าน ซึ่งมาจากการเลือกโดยแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวในคำพิพากษาแบบลายลักษณ์อักษรว่า คำขวัญบนธงของจำเลยสามารถยุยงให้บุคคลอื่นก่อการแบ่งแยกดินแดนได้ จำเลยยังมีความผิดในข้อหาก่อการร้ายด้วยเช่นกัน เพราะการขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนตำรวจ "เป็นอันตรายต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยของสาธารณะ"

    ผู้พิพากษาเอสเธอร์ โท กล่าวว่า จำเลยรู้ดีว่าคำขวัญนี้มีความหมายถึงการแบ่งแยกดินแดน และเขามีเจตนาส่งสารนี้ต่อบุคคลอื่นๆ เขายังมีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง และการกระทำของเขาก่อให้เกิดภัยร้ายแรงต่อสังคม "ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงตัดสินว่าจำเลยมีความผิดทั้งสองข้อกล่าวหา"

    ถึงขณะนี้ทางการฮ่องกงตั้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายความมั่นคงกับบุคคลมากกว่า 60 คน บางคนเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี รวมถึงจิมมี ไหล่ เจ้าของหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลีที่ปิดตัวลงแล้ว เกือบทั้งหมดถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี

    ทางการปักกิ่งและฮ่องกงกล่าวย้ำหลายครั้งว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้มีความสำคัญในการนำเสถียรภาพกลับคืนสู่ฮ่องกง ภายหลังการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่บ่อยครั้งเกิดความรุนแรงเมื่อปี 2562 และคำมั่นสัญญาเรื่องสิทธิและเสรีภาพตามข้อตกลงกับอังกฤษในการส่งมอบฮ่องกงกลับสู่ภายใต้การปกครองของจีนเมื่อปี 2540 นั้นยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"