รอดพ้น 'โรคห่าลงปอด' พึ่งตัวเองตามหลัก 5 ต.


เพิ่มเพื่อน    

 

โรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากไวรัสโควิด-19 หากย้อนกลับไปในสมัยโบราณแล้ว มีการเรียกขานว่า “โรคห่าลงปอด” หรือบางที่เรียกว่า “โรคห่าตำปอด” ล่าสุด “อาจารย์ยักษ์-วิวัฒน์ ศัลยกำธร” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มาให้ข้อมูลในการพึ่งตัวเองให้รอดผ่านยุทธการ 5 ต. พึ่งตัวเองได้ด้วยวิธีบ้านๆง่ายๆแต่รอดได้จริง

“ การพึ่งด้วยเองด้วยวิธีพื้นบ้านง่ายๆนั้น เป็นเหมือนการกินอาหารแต่ได้ยาเข้าไปด้วย ทั้งนี้สมัยก่อนเราเรียกโควิด-19 ว่าโรคห่า โดยเชื้อจะลงไปที่ปอด ดังนั้นวิธีรักษาคือการทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตกลับมาทำงานดีขึ้น ซึ่งวิธีรักษานั้นเมื่อโลหิตกลับมาทำงานปกติ ภูมิคุ้มกันเราก็จะดีขึ้น และทำให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างปกติ ทั้งนี้ภูมิคุ้มกันในร่างกาย หรือการที่ร่างกายมีเชื้อโรคแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ภูมิคุ้มกันร่างกายก็จะลุกไล่ฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นการกินอาหารให้เป็นยาจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด"

อาจารย์ยักษ์กล่าวว่า เราจะสู้รบกับโควิด-19 ได้ เราต้องมีอาวุธและยุทธโธปกรณ์ อีกทั้งรู้ในการใช้อาวุธหรืออุปกรณ์นั้นๆ ตรงกันข้ามถ้าเรามีอาวุธและแบกไปไหน แต่ใช้ไม่เป็นมันก็ไม่มีประโยชน์ กลายเป็นภาระในที่สุด ดังนั้นความสำคัญคือยุทธการ 5 ต.ซึ่ง ต.ที่ 1.คือการตั้งสติ อย่าตกใจ เราต้องเตือนกันเอง เมื่อเรามีสติ ภูมิคุ้มกันก็จะไม่ตก มันก็สามารถไล่เชื้อโรคต่างๆได้ ส่วน ต ที่ 2.คือการตั้งศูนย์ต่อสู้โควิด-19 ด้วยภูมิปัญญาของเรา เช่น สมุนไพรรอบบ้าน ส่วน ต.ที่ 3. คือการต้มยาด้วยตัวเอง ทั้งดม ทั้งดื่ม กิน และโป๊ะให้หายใจโล่ง และต้องไม่กังวลเพราะยิ่งกังวลสติแตก

ไล่มาที่ ต.ที่ 4.คือ ตากแดด อย่าลืมว่าแดดสร้างวิตามินดี ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันร่างกายของเรา หรือเป็นนักฆ่าประจำตัวของเรา ไม่ว่าเชื้อโรคจะมาในรูปแบบไหน เราจะแข็งแรงขึ้น วัคซีนไม่มาก็อย่าเครียดจนภูมิคุ้นกันตก ปิดท้ายกันที่ ต.ที่ 5.คือการเต้นประกอบจังหวะ ประกอบกับจับจอบ ปัจจุบันคนเป็นโควิดมากขึ้น ดังนั้นการเต้นและขุดสมุนไพรหารายได้ต้องมาก่อน และการปลูกสมุนไพรข้างบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับใครไม่มีพื้นที่ ก็สามารถใช้กระถางปลูกสมุนไพรได้ 5-6 ชนิด

"อย่าลืมว่าที่ไหนมีปัญหา ก็มักจะมียาสมุนไพรแก้ปัญหาเกิดขึ้นที่นั่น และเมื่ออากาศเปลี่ยนในแต่ละพื้นที่ จะมีพืชชนิดใหม่ๆเกิดมา ดังนั้นจึงทำให้แต่ละที่นั้นมีสมุนไพรหลายอย่างเกิดขึ้นมา บางพื้นที่เขาไม่ยอมรับว่า ภูมิปัญญาไทยจะมาสู้กับโรคอุบัติใหม่ได้อย่างไร ซึ่งอันที่จริงแล้วการแพทย์แผนโบราณ บอกว่าไม่ใช่เรื่องที่เกิดใหม่ แต่เป็นโรคที่เกิดมานาแล้วกลับมาระบาดใหม่ เพียงแต่เรียกไม่เหมือนกัน บางที่เรียกห่าลงปอด หรือบางที่เรียกห่าตำปอดนั่นเอง และเขาก็รักษาจนหายขาด ขอให้มั่นใจว่าภูมิปัญญาไทยของเราดี และมาจากจิตวิญญาณที่ดี ดังนั้นเราต้องพึ่งตนเอง อย่างพึ่งหมออย่างเดียว อย่าให้เราอ่อนแอเป็นภาระหมอ แต่ต้องทำให้แข็งแรง และพึ่งตัวเองให้มากที่สุด " อาจารย์ยักษ์กล่าวสรุป

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"