เตรียมประชาพิจารณ์ TCAS62 ปรับระบบคัดเลือกรอบ3


เพิ่มเพื่อน    

 

ทปอ.เตรียมทำประชาพิจารณ์ ระบบ TCAS 62 พร้อมดึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง หารือ ยกเครื่องระบบแย้มระยะเวลาเหลือเพียง 4 เดือน ปรับการดำเนินการรอบ 3  เป็น 4 ตัวเลือกที่มีลำดับ และประกาศผลเพียงสิทธิเดียว และการสละสิทธิ์ทำได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น

 

6ก.ค.61- ที่ห้องประชุมศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร อาคารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สกอ.) - นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวในการแถลงข่าวเรื่อง แนวทางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา (TCAS) ปีการศึกษา 2562 ตอนหนึ่งว่า ตามที่ ทปอ. ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีการศึกษา 2561 มาจนถึงรอบที่ 5 แล้วนั้น ทปอ.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ที่มีนายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบ TCAS ปีการศึกษา 2562 เพื่อการประชาพิจารณ์ โดยมีสาระสาคัญ ดังนี้ 

ในการดำเนินการระบบ TCAS ปีการศึกษา 2562 จะลดระยะเวลาของการคัดเลือกให้สั้นลงจาก 10 เดือน ระหว่างเดือน ตุลาคม – กรกฎาคม เหลือเพียง 4 เดือน ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม ในการดำเนินการรอบ 3 การรับตรงร่วมกัน ให้เปลี่ยนจาก 4 ตัวเลือกที่ไม่มีลำดับ เป็น 4 ตัวเลือกที่มีลำดับ และประกาศผลเพียงสิทธิเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับรอบ 4 Admission 
อีกทั้งสาขาวิชาที่เคยรวมกลุ่มในตัวเลือกของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) จะถูกนับเป็นตัวเลือกหนึ่ง เหมือนกับ สาขาวิชาที่อยู่นอกกลุ่ม กสพท เช่น คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล จะถูกนับเป็นตัวเลือกเช่นเดียวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับการยืนยันสิทธิเมื่อมีการยืนยันแล้ว การสละสิทธิ์เพื่อสมัครและยืนยันสิทธิในรอบต่อไปทำได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิของผู้อื่น อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของ TCAS จะสำเร็จได้ ทปอ. ต้องได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในการคัดเลือก เช่นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันเวลากับแต่ละรอบของการคัดเลือก ทั้งนี้ ทปอ. ได้กำหนดการทำประชาพิจารณ์ต่อทุกกลุ่มกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 6 ภูมิภาค พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานและเว็บไซต์พันธมิตรด้านการศึกษาภายในเดือน กรกฎาคม 2561 นี้จากนั้นจะจัดทำบทสรุปการพัฒนาระบบ TCAS ปีการศึกษา 2562 เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ทปอ. ในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 และคาดว่าจะสามารถ แถลงข้อมูลการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาสาหรับปีการศึกษา 2562 ในเดือน สิงหาคม 2561 ได้ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลดระยะเวลาการคัดเลือกเหลือ 4 เดือน จะต้องปรับตารางสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT)  และวิชาความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (PAT)  9 วิชาสามัญ  และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขั้นนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเชิญนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มาร่วมเป็นประธานการหารือดังกล่าว แต่ในเบื้องต้นระยะเวลาการสอบต่างๆ จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ภายใต้หลักการว่าเด็กจะต้องอยู่ในห้องเรียนจนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การดำเนินการในรอบ 3 รับตรงร่วมกัน เป็นรอบที่เกณฑ์การคัดเลือกแต่ละคณะมีความแตกต่างกัน ทำให้ ทปอ.ไม่สามารถให้นักเรียนเลือกแบบเรียงลำดับได้ ในปีนี้ ทปอ.จะมีวิธีการเรียงลำดับอย่างไร นายประเสริฐ คันธมานนท์ เลขาธิการ ทปอ. กล่าวว่า เกณฑ์การคัดเลือกของแต่ละคณะในรอบที่ 3 มีความแตกต่างกันเช่นเดิม  ดังนั้นวิธีการเรียงลำดับจะไม่เหมือนวิธีการของรอบที่ 4 แอดมิชชั่นใช้ โดยจะต้องได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยที่ร่วมรับในทีแคสรอบ 3 ให้จัดลำดับบางอย่างที่ต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้ ทปอ.สามารถนำมาใช้ในการเรียงลำดับได้ จากเดิมที่ปีนี้ คณะส่งรายชื่อให้ทปอ.ว่าจะรับหรือไม่รับใครเท่านั้น สำหรับปีหน้า การเรียงลำดับจะทำได้ โดยทุกมหาวิทยาลัย ทุกสาขาวิชา จะต้องจัดเรียงลำดับทุกคนตามจำนวนที่คณะต้องการจะรับ จนถึงคนสุดท้ายของเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือถึงจุดหนึ่งที่มหาวิทยาลัยบอกว่าจะไม่รับคนที่ต่ำกว่าเกณฑ์นี้ นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลง และเป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกันมากขึ้นแน่นอน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"