หลงกลแก๊งคอลเซ็นเตอร์สูญร่วมแสน


เพิ่มเพื่อน    

แม่ค้าสาวใหญ่โร่แจ้งความตำรวจ เสียรู้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นนายพลตำรวจโทร.ขู่พัวพันแก๊งยาเสพติดก่อนตะล่อมให้คายข้อมูลส่วนตัว นำไปโอนเงินจากบัญชีแบงก์ผ่านมือถือ สูญไปเกือบแสน 
    เมื่อวันที่ 18 มกราคมนี้ นางรุ่งทิพย์ นครังสุ อายุ 49 ปี ชาวขอนแก่น ประกอบธุรกิจส่วนตัว เข้าแจ้งความ ร.ต.ท.หญิงจุฑารัตน์ โคตรจันทึก รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ระบุว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์, ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอ้างเป็น พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ อดีต ผบช.ภ.4 หลอกเอาข้อมูลต่างๆ จนสูญเงินไปจำนวน 99,218 บาท เหลือทิ้งไว้ในบัญชีแค่ 37 บาทเท่านั้น
    นางรุ่งทิพย์เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะเตรียมตัวจะออกไปจำหน่ายสินค้าตามปกติ ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 0-3222-6237 โทร.เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยปลายสายบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่ามีพัสดุตกค้างเป็นชื่อและเบอร์โทร.ตนเอง แต่ที่อยู่ไม่ใช่ของตนเอง เป็นที่อยู่บ้านเลขที่ 334 ถนนพิทักษ์ชาติ ต.อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงยืนยันไปว่าไม่ใช่ ชายคนดังกล่าวจึงโอนสายไปให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อีกคน และสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับพัสดุ ซึ่งนางรุ่งทิพย์ก็ยืนกรานว่าไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย เพราะไม่เคยสั่งของ    จากนั้นชายคนที่สองก็บอกว่านางรุ่งทิพย์น่าจะถูกผู้อื่นเอาชื่อไปแอบอ้าง ให้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ เพราะข้างในพัสดุพบว่ามีบัตรเอทีเอ็ม 30 ใบ สมุดบัญชี 30 เล่ม และเงินสดจำนวน 2,300,000 บาท แล้วถามว่าสะดวกเดินทางมาที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์หรือไม่ ซึ่งนางรุ่งทิพย์ตอบว่าไม่สะดวก บุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์คนที่ 2 จึงทำการโอนสายบอกว่าให้คุยกับตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์"
    นายรุ่งทิพย์เปิดเผยว่า พอรับสาย ผู้อ้างเป็นตำรวจก็ระบุว่าคือ พล.ต.ท.พัฒนา เทพศยนาวิน ประจำ สภ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่ากล่องพัสดุดังกล่าวเจ้าของคือหญิงคนหนึ่งเป็นชาวกรุงเทพฯ แต่ถูกจับแล้วเนื่องจากเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยในระหว่างการสนทนา บุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำชับว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ให้อยู่คนเดียว จะได้คุยเรื่องนี้ได้สะดวก ด้วยความกลัวและเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจจริง นางรุ่งทิพย์จึงได้ให้ข้อมูลไปทั้งหมด ทั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชีเงินฝาก และที่สำคัญก่อนที่จะบอกถึงสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ไปนั้น บุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกว่า หากไม่ให้ความร่วมมือ ในวันพรุ่งนี้จะมี พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ อดีต ผบช.ภ.4 ไปตรวจสอบที่บ้านด้วย และยังคงระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวนี้คล้ายกับการมีส่วนพัวพันในคดี "เบนซ์ เรซซิ่ง" ที่ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยความกลัว นางรุ่งทิพย์จึงยอมทำตามที่บุคคลดังกล่าวแอบอ้าง
    "เมื่อคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จบแล้ว ก็ได้โทรศัพท์หาลูกสาวแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง ลูกสาวจึงบอกว่าถูกหลอกแล้ว ให้รีบอายัดบัญชีกับทางธนาคาร ซึ่งโดยส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จึงโต้เถียงกับลูกสักพัก ก่อนที่จะรีบโทรศัพท์ไปยังสายด่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่ออายัดบัตรและตรวจสอบยอดเงิน ซึ่งก็พบว่าบัญชีธนาคารที่มีอยู่นั้นถูกคนร้ายโอนออกไปผ่านทางแอปพลิเคชันมือถือ จำนวน 3 ครั้ง ครั้งแรก 10,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 50,000 และครั้งที่ 3 จำนวน 39,500 บาท ไปยังบัญชีไทยพาณิชย์สาขาคลองแงะ จ.สงขลา ชื่อนายมาหะมะ คามิ โดยเหลือเงินสุทธิในบัญชีให้ดูต่างหน้าเพียง 37 บาทเท่านั้น" นางรุ่งทิพย์ระบุ
    ด้าน พ.ต.ท.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผกก. (สส.) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเป็นจำนวนมาก โดยพฤติกรรมก็มีลักษณะเหมือนกัน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เข้ามาหลอกถามข้อมูลไป แล้วก็นำไปทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันทางมือถือ โอนเงินเข้าบัญชีตัวเองแล้วกดเงินออกไป ขอฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากมีใครมาหลอกเอาข้อมูลแบบนี้ไม่ต้องกลัว เพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการสอบถามเอาข้อมูลสำคัญอย่างแน่นอน ในกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"