กกต.ล้างวงจรอุบาทว์ จองกฐินคนโกงสกัดห้ามไปนั่งในสภา/‘หลานมาร์ค’อบรมปชป.


เพิ่มเพื่อน    

  กกต.ชุดใหม่ให้นโยบายกับผู้บริหารและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ ประกาศลั่น ต้องหาทางขจัดวงจรอุบาทว์ นักการเมืองเข้าไปโกงแล้วรัฐประหาร "ปกรณ์" จองกฐิน จะทำให้คนที่ไม่สุจริตเข้าไปในสภา โต๊ะเสวนาคนรุ่นใหม่เดือด "ธนาธร" ยันล้างอำนาจ คสช.รื้อโครงสร้างระบบราชการ ด้านหลานชายอภิสิทธิ์ชี้นโยบายประชาธิปัตย์ตอบโจทย์ประชาชนทำให้แพ้เลือกตั้ง ต้องเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีความชัดเจนว่ามีความเป็นประชาธิปไตย 

    ที่โรงแรมพินนาเคิล แกรนด์ จอมเทียน ชลบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต., นายปกรณ์ มหรรณพ,  นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย และนายสันทัด ศิระอนันต์ไพบูลย์ กกต. เข้าร่วมการประชุม ส่วนทางนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดภารกิจ 
    โดยนายอิทธิพรได้กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ภูมิใจดีใจที่มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อทำให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต เที่ยงธรรม และเชื่อว่า กกต.ทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และเห็นว่าการเตรียมการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ของ กกต.ชุดเก่า มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี การมีแผนปฏิบัติการไม่เพียงแค่ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จ แต่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในและนอกประเทศเข้าถึงการเลือกตั้งมีความรู้ความเข้าใจ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสริม 
    "มั่นใจว่าทำให้การออกเสียงเลือกตั้งเป็นไปด้วยความอิสระ ปราศจากอิทธิพลครอบงำ หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีการแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้บริหารเปิดใจกว้างรับฟังเพื่อให้การปฏิบัติงานที่จะมีขึ้นในอนาคตเป็นไปตามกฎหมาย อย่างกรณีการทำงานของผู้ตรวจการเลือกตั้ง จะมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร การจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบภาครัฐเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ขอให้มีการพูดออกมา และขอให้ทุกคนมีเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม เพื่อให้ได้รับการยอมรับทั้งภายในและนอกประเทศ"
    นายอิทธิพรกล่าวมอบนโยบายโดยเน้นย้ำว่า การทำงานขององค์กรต้องมีความเข้มแข็งใน 4 เรื่อง 1.ต้องมีเอกภาพ ต้องมีการพัฒนาความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องทันต่อโลกต่อการพัฒนา มีแนวทางการทำงานชัดเจน ประสานงานเป็นระบบ ทำงานเป็นทีม อยากให้มีการประกวดการทำงานในเรื่องความสามัคคี และเป็นองค์กรที่ได้ที่ 1 ในเรื่องความสามัคคี ถ้าองค์กรเข้มแข็งไม่ว่ากฎหมายจะเป็นอย่างไร การจัดการเลือกตั้งของเราก็จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม เมื่อจัดเลือกตั้งดีแล้วก็จะทำให้พรรคการเมืองซึ่งเป็นผู้เล่นมีคุณภาพ มีความหมาย ประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ อยากให้เน้นให้ความสำคัญกับเยาวชน ตั้งแต่อายุ 11-18 ปี ในช่วง 7 ปีที่ กกต.ชุดนี้มีวาระ ทำให้กลุ่มพลังนี้มีความรู้ มีความเข้าใจ 
คุณภาพ-คุณธรรม
    2.คุณภาพ เราต้องรู้ซึ้งถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องตั้งเป้าการทำงานว่ามีอะไรเข้ามา ต้องทำให้เร็ว ทันเวลา และถูกต้อง การเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การทำงานดียิ่งขึ้น มีความสม่ำเสมอในการประสานงาน ต้องลงพื้นที่ไปพบพรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชนในพื้นที่เพื่อให้รู้ในเชิงภูมิศาสตร์ สำนักงานต้องมีเครื่องมือที่จำเป็น บางสถานการณ์จำเป็นต้องมีวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์เช่นในการเลือกตั้ง
    3.คุณธรรม พนักงานต้องยึดมั่นการทำงานอย่างเป็นธรรม ยุติธรรม เปิดใจกว้าง และ 4.คุณค่า การทำงานต้องยึดและปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ ซึ่งองค์กรจะต้องกล้าหาญ ถ้าเรากล้าหาญและสุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา ขอให้ถือเป็นคุณค่าและค่านิยมขององค์กร
    ด้านนายปกรณ์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า  ท่ามกลางข่าวในช่วงระยะนี้ มีแต่ข่าวเช็กความพร้อมความคาดหวังสำหรับ กกต. ทุกฝ่ายต่างคาดหวังถึงความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่อะไรคือความสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะฝ่ายหนึ่งคาดหวังอย่างหนึ่งอีกฝ่ายก็หวังอย่างหนึ่ง ดังนั้นการทำงานของ กกต.ชุดนี้ เราจะให้ความสุจริตเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ดังนั้นไม่มีทางที่จะได้หากท่านไม่สุจริตมาก่อน 
    ส่วนเรื่องภายในขององค์กรนั้น ตนสนใจระบบความก้าวในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กกต. เพราะตนเคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน ซึ่งจะมีระบบความก้าวหน้าที่ชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต.เองจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้ระบบความก้าวโดยอาศัยหลักอาวุโส หรือจะใช้หลักผลงานที่มาจากการแข่งขันกันด้านความสามารถ ทั้งนี้ ตนมีข้อกำหนดในการทำหน้าที่ว่า หากตนจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อตรวจงานนั้น จะต้องไม่มีการต้อนรับ ไม่มีรถนำ ไม่มีงานเลี้ยงทั้งสิ้น แต่อยากให้เน้นเรื่องความร่วมมือในการทำงานมากกว่า ทั้งนี้ ตนไม่แคร์ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อีกกี่ปี แต่ตนก็จะลองดู จะทำให้ดีที่สุด
    “แม้ผมจะเป็นผู้พิพากษามา 36 ปี โดยการทำงานผู้พิพากษา เมื่อพิจารณาสำนวนที่หลักฐานไม่ชัด ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะต้องปล่อย แต่ผมมาทำงานนี้ หากผมสงสัย ผมจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้ผมไม่มีอำนาจไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้พวกท่านเข้าไปบริหารบ้านเมืองหรืออยู่ในสภา แต่ผมจะทำให้คนที่ไม่สุจริตและคนที่โกงไม่ได้เข้าไป” นายปกรณ์กล่าว
ขจัดวงจรอุบาทว์
    ขณะที่นายสันทัดมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า อยากให้มีความกล้าหาญ อย่างตนก็กล้าที่จะมาสมัครเป็น กกต. เพราะเคยมีคนถามว่าเคยทำอะไรให้กับสังคมบ้าง ดังนั้นความกล้าหาญเป็นสิ่งที่สำคัญ ในเมื่อเราตัดสินใจที่จะทำงานตรงนี้แล้ว ทุกเรื่องย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบเสมอ แต่เราทำอย่างไรจะต้องยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม และโปร่งใส ส่วนการจะทำอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะในต่างประเทศนั้น เพราะเราไม่มีการจัดเลือกตั้งมา 4 ปีกว่าแล้ว จึงเป็นการบ้านที่ทุกคนจะต้องคิด เพื่อให้การเลือกตั้งได้การยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ แต่หากองค์กรเราได้รับการยอมรับก็จบ ดังนั้นเราจะต้องเป็นแม่แบบแม่พิมพ์ที่ดี มีความเป็นกลาง และอยากให้ละวางความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง 
    นอกจากนั้นอยากให้ดูเรื่องโรดแมปทั้งในเรื่องงบประมาณ เรื่องแผนการทำงาน และเรื่องบุคลากร อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวเสริมในการทำงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย และลดความผิดพลาดลง และสุดท้ายเรื่องการมีส่วนร่วม จะทำอย่างไรให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะความขัดแย้งหลายอย่างเกิดจากการขาดการมีส่วนร่วมของคนบางกลุ่ม ซึ่งในเรื่องการเลือกตั้งก็เช่นกัน ตนเชื่อว่าหากประชาชนเข้ามาร่วมรู้เห็น เข้ามามีส่วนร่วมความขัดแย้งจะน้อยลง
    ส่วนนายธวัชชัย มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เราต้องมาหาทางขจัดวงจรอุบาทว์ที่มีการร่างรัฐธรรมนูญก็จัดการเลือกตั้งจนได้รัฐบาล และเข้ามามีการทุจริต แล้วก็เกิดรัฐประหาร สุดท้ายก็เป็นวงจรเดิมๆ ซึ่งหน้าที่ของเราเป็นการทำเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง แต่เราจะไม่ได้ทำเฉพาะจัดการเลือกตั้ง เราต้องพยายามทำหน้าที่เราให้เล็กเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ พยายามมองงานให้แตก เอาหลักงาน งบ ระบบ และคนมาเป็นหลัก 
    กกต.ผู้นี้กล่าวว่า อยากให้มีการทำงานอย่างเป็นระบบ ส่วนการทำงานสิ่งที่ฝากไว้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม รู้รักสามัคคี และต้องปลูกฝังจิตสำนึกให้ประชาชน โดยเฉพาะที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง และเยาวชน รวมถึงเรื่องการมีส่วนร่วมที่เราจะเน้นการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเลือกตั้ง และไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะให้เข้าใจในวิถีชีวิตประชาธิปไตยว่าต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ต้องรับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย ต้องนำหลักพระพุทธศาสนาเรื่องความละอายแก่บาปด้วย ต้องยกเลิกระบบอุปถัมภ์ให้ได้ ทั้งนี้ อยากให้ยึดมั่นความถูกต้อง เที่ยงธรรม และเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำนักงานเพื่อการจัดการเลือกตั้งด้วย อีกทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ใช้งบประมาณคุ้มค่า
        นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า งานการไต่สวนสอบสวนวินิจฉัย อยากให้เน้นการทำงานเชิงรุก ที่ผ่านมาเรามีแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะ เมื่อมีร้องทุกข์มาเราค่อยลุก ต่อไปนี้อยากให้มีการทำงานเรื่องการร้องเรียนด้วยตนเอง และนำเทคโนโลยีมีแผนการติดตามประเมินผลเป็นแผนการที่มีการปรับปรุงตลอดเวลา ที่ผ่านมาเรายังไม่มีการติดตามประเมินผลเลย ต่อไปอยากให้มีการติดตามผลด้วย และงบประมาณใช้อย่างคุ้มค่า ซึ่งเรื่องบูรณาการนั้น ตนเน้น
ให้ทำการบูรณาการกับหน่วยงานอื่น เพราะทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญกับเรา
    นอกจากนี้ นายอิทธิพรยังให้สัมภาษณ์ถึงการหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 20 ส.ค.ว่า ยังไม่ทราบว่ารองนายกฯ จะมีการหารือในประเด็นใดบ้าง แต่ กกต.ในฐานะหน่วยปฏิบัติเราก็พร้อมปฏิบัติ ซึ่งในเรื่องของการทำไพรมารีโหวตหรือการใช้มาตรา 44 แบ่งเขตเลือกตั้ง ทราบจากข่าวว่าเป็นประเด็นที่นายวิษณุจะมาหารือด้วย แต่หลังการหารือจะนำไปสู่การกำหนดวันที่ คสช.จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพรรคการเมืองในครั้งที่ 2 หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะ กกต.ต้องกลับมาหารืออีกครั้งก่อนแล้วจึงจะมีคำตอบอีกครั้ง เพราะของอย่างนี้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา และตนรวมทั้งกรรมการที่เหลือตั้งใจจะไม่ตอบในนามส่วนตัว
    “ในเรื่องของไพรมารีโหวต คิดว่า กกต.ไม่ควรเป็นผู้ตอบว่าควรทำหรือไม่ทำ เชื่อว่ารัฐบาลและพรรคการเมืองรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ส่วน กกต.เห็นว่าควรเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วม” นายธวัชชัย กล่าว
    นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากฝากเรื่องโซเชียลมีเดียให้ กกต.ชุดใหม่ช่วยดู เพราะการเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะมีเรื่องดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวมาก โดยเฉพาะการตัดต่อ ใส่ร้ายป้ายสี ที่จะกระจายไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้น กกต.จะต้องกล้าหาญ หามาตรการที่รวดเร็วและกระชับในการสกัดกั้นข้อมูลที่บิดเบือนทั้งหลาย
    ด้าน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ชุดใหม่ว่า การเลือกตั้งถือเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย คือความเป็นสากลของประเทศ ทั้งนี้พรรคชาติพัฒนาพร้อมให้ความร่วมมือทำงานกับ กกต.อย่างเต็มที่ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย
    นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากไปยัง กกต.ชุดใหม่ คือ กรณีการเดินสายของกลุ่มสามมิตร แม้จะอ้างว่าไม่ใช่พรรคการเมือง แต่สิ่งที่เขาทำเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างชัดเจน ดูดนักการเมืองเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัย กกต.ชุดที่แล้ว และเขาก็ประกาศชัดว่า สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯ ต่อ กกต.ก็ควรเข้าไปดูว่าสิ่งเหล่านี้ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่
สามมิตรไม่ตอบโต้
    นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร  ระบุยินดีชะลอการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ในเรื่องที่อาจก่อความยุ่งยากหรือสร้างความร้าวฉานแก่ประชาชน โดย จะเคลื่อนไหวให้ถูกต้องตามระเบียบกฎเกณฑ์ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ล่อแหลมว่า ขอยืนยันว่ากลุ่มสามมิตรยังคงเดินหน้าเรื่องการลงพื้นที่ แต่จะปรับแนวทางให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ เช่น ให้ชาวบ้านร้องเรียนปัญหาผ่านตัวแทนในพื้นที่ ก่อนจะส่งต่อให้กลุ่มสามมิตร เป็นต้น 
    เขากล่าวว่า สามมิตรไม่เคยคุยเรื่องการเมือง และต้องการรับฟังปัญหาประชาชนต่อไป แต่ยอมรับคำวิจารณ์ของหลายฝ่ายในช่วงที่ผ่านมา เราคงไม่ตอบโต้ เพราะต้องการให้การเมืองได้เดินหน้าประเทศ จะใช้การเมืองแบบเก่าๆ ไม่ได้
        ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับแนวทางเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นไปเพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายการเมืองหรือไม่ นายธนกรปฏิเสธว่า ไม่ได้ต้องการลดคำวิจารณ์ เพราะเรายืนยันในเจตนาที่บริสุทธิ์ เพียงแต่ไม่อยากทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ ที่ผ่านมาประชาชนส่งผ่านปัญหาทางกลุ่มสามมิตร เพราะเห็นว่าเราสามารถ นำปัญหาไปเสนอรัฐบาล และทำให้เกิดการแก้ไขได้จริงๆ
    กรณีนายสมศักดิ์ระบุถึงบิ๊กเซอร์ไพรส์ 2 เรื่องของกลุ่มสามมิตรนั้น นายธนกรกล่าวว่า ไม่ทราบว่า 2 เรื่องดังกล่าวคือเรื่องอะไร แต่ทราบว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนายสมศักดิ์ได้ระบุไปแล้วว่า หลังจากนี้กลุ่มสามมิตรต้องระมัดระวังในการเคลื่อนไหว จึงขอให้รอเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดเผยจะดีกว่า
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากเพจ “ริงไซด์การเมือง” ที่ได้เผยแพร่การสัมภาษณ์นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาของพรรคภูมิใจไทย กำลังให้สัมภาษณ์สดถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทยในด้านต่างๆ 
    ปรากฏว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าไปแสดงความคิดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Anutin Charnvirakul  โดยมีใจความสำคัญ 3 ข้อความ โดยระบุว่า “ง่ายและดีที่สุดคือลุงตู่ลงเลือกตั้งเอง จะได้พ้นข้อครหา”, จากนั้นแสดงความเห็นต่อมาว่า “พร้อมสนับสนุนใครก็ตามที่มาตามครรลองที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย” และปิดท้ายด้วยการแสดงความเห็นว่า  “ถึงจะเป็นนายกฯ ไม่ได้ ก็ทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยในสภาได้ สง่างามกว่าให้ สว.อุ้มมาหลายเท่า”
    ที่ห้องประชุมเกษม สุวรรณกุล อาคารเกษมอุทยานิน คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ จัดเสวนาวิชาการ “การเมืองกับคนรุ่นใหม่” ขึ้น โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายชวน ชูจันทร์ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม
"ธนาธร"ยันล้างคสช.
    นายวราวุธ ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นหนึ่งในพรรคที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ถูกโจมตีจากทั้งสีเหลืองและแดงมาตลอด พร้อมกล่าวติดตลกว่าการถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย ทำให้พรรคอาจจะกลายเป็นสีส้มที่เข้ากับสีสัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่ได้แล้ว 
    เขายืนยันว่า พรรคมีจุดยืนสำคัญอยู่ที่นโยบาย โดยเฉพาะด้านการเกษตร ที่พรรคให้ความสำคัญกับเกษตรกรหรือการแก้รัฐธรรมนูญ ที่พรรคเป็นผู้เสนอแก้จนเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญดีที่สุดของประเทศไทย ส่วนตัวยอมรับว่าพรรคเป็นเพียงพรรคขนาดกลาง ที่อาจต้องยอมรับการเป็นฝ่ายค้าน และไม่ขอมองถึงการได้ที่นั่งนับร้อยในสภา
    นายธนาธรกล่าวว่า คนรุ่นใหม่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง และมีความเป็นไปได้ที่จะต้องอยู่กับอนาคตที่บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย และโอกาสทำมาหากินที่ลำบาก เพราะเราถูกวาดอนาคตโดยกลุ่มคนที่จะไม่อยู่ในอนาคต อย่างที่เห็นว่ามีคนอายุน้อยกว่า 40 ปีเข้าสู่สภาน้อยลงเรื่อยๆ ในการเลือกตั้ง 3 ครั้งหลังสุด ดังนั้น คนรุ่นใหม่ต้องออกมาบอกว่า พอแล้ว อนาคตเราต้องกำหนดเอง แต่จะไปถึงจุดนั้นได้สังคมต้องมีเสรีภาพก่อน
        ”จุดยืนของพรรคที่ไม่ต้องอ้อมค้อมคือ เราต้องการหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. พูดไปเถอะว่าจะกระจายอำนาจ ตราบใดที่ไม่ปรับโครงสร้างระบบราชการ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่ได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลาง ซึ่งไม่ต้องฟังเสียงของประชาชน ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งผูกติดอยู่กับชนชั้นนำแค่ไม่กี่กลุ่ม ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจึงสำคัญว่าเราจะเลือกอยู่กับอะไร อยู่กับการกดขี่หรือเสรีภาพ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าว
    ด้านนายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่ว่าคนรุ่นไหนก็ตาม ตราบใดที่มีเผด็จการ การมีส่วนร่วมทางการเมืองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร มีวันนี้มีคนที่อายุเกิน 18 ปี กว่า 7 ล้านคนที่ยังไม่ได้เลือกตั้ง เราไม่มีโอกาสเข้าไปเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้เลย ดังนั้น วันนี้เราต้องชนะการเลือกตั้ง แล้วเข้าไปแก้ไขอะไรก็ตามที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราต้องกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ
    "ยอมรับว่าตลอดชีวิตของผมนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง แต่การไม่ชนะเลือกตั้งไม่ได้กระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในระบอบประชาธิปไตย ผมมองว่าฝ่ายค้านคือสัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยที่แสดงถึงการถ่วงดุลอำนาจ สำหรับสาเหตุที่ทำให้พรรคไม่ชนะการเลือกตั้ง ผมมองว่าเป็นเพราะนโยบายที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน อย่างไรก็ตาม เราไม่ท้อและเราเรียนรู้"
    หลานชายนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีความชัดเจนขึ้นอย่างมากว่าเรามีความเป็นประชาธิปไตย ในอนาคตต้องไม่มีคำถามนี้กับพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว และยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ พรรค ปชป.ต้องมีนโยบายที่ตอบโจทย์ ปัจจุบันเราอยู่ในโลกของความเปลี่ยนผัน
        ขณะที่ น.ส.ขัตติยาระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีประวัติมายาวนาน เชื่อมั่นว่าผู้แทนของพรรคยึดติดและเข้าถึงประชาชนมากที่สุดพรรคหนึ่ง ทำให้พรรคยังคงคะแนนนิยมได้ดีมาตลอดหลายปี ต่างจากบางพรรคที่แม้จะมีสมาชิกมาก และเป็นผู้ออกกฎมาจำนวนมาก แต่กลับเข้าไม่ถึงประชาชน
       ส่วนนายชวนกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นใหม่ต้องเป็นผู้ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศ เพราะคนรุ่นใหม่เป็นผู้ที่มีความคิด มีวิจารณญาณ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องและครอบคลุม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"