23 ส.ค.61 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62  หรืออย่างช้า 5 พ.ค. 62 ว่า ถือว่าชัดในเบื้องต้น เพราะทราบอยู่แล้วว่าถ้าเดินตามกรอบของกฎหมาย คำนวณดูแล้วก็น่าจะประมาณระหว่างก.พ.-พ.ค. 62 ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการธรรมชาติ แต่สิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติอยู่ในขณะนี้ คือ การที่พรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมายต่างๆ เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งได้  ตัวอย่างเช่น ที่ผ่านมาพรรคการเมืองอย่างประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องทำงานบนสมมติฐานว่า กฎหมายที่รัฐบาลผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ออกมาว่าจะทำไพรมารีอย่างไร เขาก็เตรียมการทำอย่างนั้น แต่มาวันนี้การที่ยังไม่ปลดล็อก รัฐบาลและคสช.ก็กำลังจะคิดเอาเองว่าจะต้องแก้ไพรมารีอย่างไร แล้วไม่ได้บอกให้ใครรู้

“ผมสันนิษฐานว่าเดี๋ยวจะแก้กฎหมายอีกแล้ว แล้วผมก็ต้องมานั่งเปลี่ยนแผนว่า ที่ตั้งใจจะปฏิบัติตามกฎหมายนี้ก็คงจะต้องเปลี่ยนอีกว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายที่แก้อีกแล้วนี้อย่างไร ตอนสมาชิกพรรคก็เป็นอย่างนี้มาทีหนึ่งแล้ว จริงๆการปูทางเพื่อให้เกิดความราบรื่นที่สุดล็อคที่ต้องปลดก่อนเพื่อนตอนนี้ คือ การทำอย่างไรให้ กกต. สามารถเร่งแบ่งเขตเลือกตั้งได้ ตรงนั้นสำคัญ เพราะการแบ่งเขตเลือกตั้งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าการเตรียมการสำหรับไพรมารี การที่จะต้องไปหาสมาชิกเพื่อจะมาทำไพรมารี การที่จะมีสาขาพรรคที่จะมาจัดการเรื่องไพรมารี จะจัดให้ลงล็อคกับพื้นที่ที่แบ่งเป็นเขตเลือกตั้งอย่างไร ฉะนั้นสิ่งแรกถ้าอยากจะแก้ แก้ตรงนี้นะครับ ถ้ายังไม่ยอมที่จะคลายล็อคให้พรรคเขาดำเนินการตามกฎหมายได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเร่งให้มีความชัดเจนเรื่องเขตการเลือกตั้ง ถ้าตรงนี้ชัดเจนแล้ว คลายล็อคแล้ว ผมก็ยืนยันว่าอย่างอื่นปฏิบัติกันได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลยังไม่คลายล็อค เพราะกลัวพรรคการเมืองหรือเปล่า  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามเขาว่าเขากลัวอะไร เพราะตอนหลังๆ ก็ได้ยินจากหลายๆ ฝ่ายบอกว่าทุกอย่าง รวมถึงความมั่นคง ก็เรียบร้อยดี ตนยืนยันอยู่แล้วว่านักการเมือง กลุ่มการเมือง พรรคการเมืองใครก่อความวุ่นวาย มีผลกระทบต่อความมั่นคง รัฐบาลก็ใช้กฎหมายอื่น รวมทั้งอำนาจตามมาตรา 44 ในมืออยู่แล้ว ในการที่จะจัดการได้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าพรรคจะประชุมใหญ่ได้ เพื่อแก้ข้อบังคับได้หรือไม่  และไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะให้ประชาชนเขามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้หรือไม่.