แจงยิบเพิ่มโทษใบขับขี่ อ้างตปท.คุ้มครองชีวิต


เพิ่มเพื่อน    

 ตำรวจผนึกขนส่งทางบกแจงเพิ่มโทษเกี่ยวกับใบขับขี่ ก็เพื่อคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน อ้างญี่ปุ่น-สหรัฐโหดกว่าไทย ขึงขังเอาตายสีกากีใช้เป็นช่องรีดไถ ต่อไปตำรวจนินจาคลุมหน้ามิดชิดก็ห้ามมี อดีต ส.ส.ปชป.ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคมทบทวน ไม่เชื่อน้ำมนต์ขจัดเจ้าหน้าที่ทุจริต รองเลขาฯ  ภูมิใจไทยชี้อาจขัด รธน.มาตรา 77 ด้านรองประธาน  สนช.เผยยังไม่มีการพิจารณา และต้องรับฟังความเห็นประชาชนด้วย

    ท่ามกลางเสียงคัดค้านอื้ออึงถึงร่างกฎหมายเพิ่มโทษขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ส่งผลให้ตำรวจและกรมการขนส่งทางบกผู้ดำเนินการร่างกฎหมายดังกล่าว ต้องเปิดแถลงอย่างเป็นทางการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กฎหมายด้านการขนส่งทางบกฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ซึ่งการขอแก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 จำเป็นต้องมีการปรับเนื้อหาให้มีความทันสมัยและให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีส่วนในการสร้างความตระหนักและรับผิดชอบต่อสังคม เนื่องจากข้อมูลศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย พบว่า กลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ มีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 34  ซึ่งสูงกว่ากลุ่มผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ถึงสองเท่า และจากข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 15-19 ปี เป็นกลุ่มอายุที่มีการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนสูงสุด เฉลี่ยปีละ 1,688 คน 
    "จากการศึกษาจากต่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เช่น ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา พบว่ากรณีความผิดเกี่ยวกับการขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถในประเทศญี่ปุ่น มีโทษปรับไม่เกิน 300,000 เยน หรือประมาณ 88,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี และถูกตัดแต้ม 12 คะแนน ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา มีโทษปรับไม่เกิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 800,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี และถูกบันทึกประวัติตลอดชีวิตด้วย"
    นายกมลกล่าวว่า การแก้กฎหมายครั้งนี้ ได้รวมกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าวเข้าไว้ด้วยกัน และปรับบทลงโทษ ได้แก่ ความผิดขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตขับรถ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท,  ส่วนความผิดเกี่ยวกับการขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพัก หรือถูกเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ขณะที่ความผิดขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตเมื่อเจ้าพนักงานขอดู ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบกฉบับใหม่ อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ทั้งนี้ จากการเสนอแก้ไขปรับเพิ่มโทษในความผิดดังกล่าว การพิจารณาโทษอยู่ในดุลพินิจของศาล ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่ตระหนักและปฏิบัติตามกฎจราจรมากขึ้น  
    พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 กล่าวว่า พ.ร.บ.ที่จะออกมาใหม่ เพื่อคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในภาพรวมบนถนนสาธารณะ จึงมีความจำเป็นที่ต้องรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดมาตรการที่ชัดเจนคือ มีการดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยหากพบการทุจริต อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติสนับสนุนในเรื่องกระบวนการของใบขับขี่ควรจะส่งไปที่ศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณา โดยคดีมีอัตราโทษจำคุกเกิน 1 เดือน ให้ส่งฟ้องศาล ถ้าไม่เกิน 1 เดือน หรือโทษปรับ ให้จบที่เจ้าพนักงาน ส่วนใครที่ขับรถไม่มีใบขับขี่ ให้ส่งศาลเป็นผู้พิจารณาปรับเช่นเดียวกัน
    "ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าจะเป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รีดไถประชาชน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับมาแล้วว่าห้ามเกิดขึ้นเด็ดขาด ถ้าใครนอกลู่นอกทางถูกดำเนินทั้งวินัยและอาญา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกปฏิบัติงาน ห้ามเป็นตำรวจนินจาที่ใส่ผ้าคลุมใบหน้ามิดชิด อนุโลมให้ใส่เฉพาะหน้ากากกันฝุ่น เมื่อพูดคุยกับประชาชนต้องเปิดหน้าอย่างชัดเจน" พล.ต.ต.เอกรักษ์กล่าว
    ด้านนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 กล่าวว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกฉบับที่ผ่านมา สนช.พิจารณาอย่างรอบคอบรอบด้านอยู่แล้ว ขอให้ใจเย็นๆ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของ ครม.พิจารณา ยังไม่ได้มีการบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. หรือถ้ามีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้ามาที่ สนช. ก็ยังต้องผ่านขั้นตอนการรับฟังความเห็นประชาชนตามมาตรา 77 อีกด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าสนช.พร้อมรับฟังทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนผู้ขับขี่บนท้องถนน หรือเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กติกา
    ขณะที่นายเรวัต อารีรอบ อดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เพื่อขอให้ทบทวนการเพิ่มโทษความผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถในร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.... โดยตนเห็นว่า บทบัญญัติดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสมที่กำหนดโทษหนักเช่นนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน และยังเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงกับสาระสำคัญ โดยเฉพาะเป็นการเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่มากจนเกินความพอดี เกรงจะเป็นการเปิดช่องให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิด ยอมจ่ายสินบนเพื่อไม่ต้องรับโทษ และไม่ต้องการชำระค่าปรับในราคาสูงลิ่ว ซึ่งจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ที่สมควรได้ตามกฎหมาย   
    ส่วนนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทันทีที่เห็นร่างกฎหมาย สิ่งที่กังวลคือโทษที่เพิ่มขึ้น สำหรับประชาชนนับว่าหนักมาก เมื่อการจ่ายค่าปรับ ไปจนถึงต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว ประชาชนย่อมหาทางออกหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ หรือการสู้ในกระบวนการยุติธรรม เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่แย่ๆ บางคนใช้โอกาสตรงนี้หารายได้ ดังนั้น แทนที่จะแก้ปัญหาวินัยการจราจร มันจะกลายไปเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าหน้าที่เลวๆ แทน 
    นายศุภชัยกล่าวว่า ความพยายามแก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522   อาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ที่ระบุว่า รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จําเป็น และยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจําเป็น หรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดํารงชีวิตหรือการประกอบอาชีพ โดยไม่ชักช้า เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน และดําเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตัวบทกฎหมายต่างๆ ได้โดยสะดวก และสามารถเข้าใจกฎหมายได้ง่าย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
    ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้งเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์นั้นต่อประชาชน และนํามาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว รัฐพึงจัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายทุกรอบระยะเวลาที่กําหนด โดยรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วย เพื่อพัฒนากฎหมายทุกฉบับให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
    "ที่ผ่านมา การแก้ไขกฎหมายที่กำลังเป็นประเด็นข้างต้น ไม่เคยมีการรับฟังความเห็นของประชาชน ทั้งยังเป็นกฎหมายที่อาจไม่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เพราะมีค่าปรับที่สูงเกินไป" นายศุภชัยระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"