นายกฯ ชินโซ อาเบะ ยืนยันจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำพรรครัฐบาลเสรีประชาธิปไตยอีกสมัยในเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้เขาอยู่บนเส้นทางที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุด

นายกฯ ชินโซ อาเบะ ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ประกาศว่าเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ผู้นำพรรคและผู้นำประเทศไว้ต่อไป / JIJI PRESS / AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2561 ว่านายกฯ อาเบะแถลงข่าวในวันเดียวกันยืนยันว่า เขาตัดสินใจจะเป็นผู้นำญี่ปุ่นต่อไปในฐานะผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) และนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 3 ปี โดยเขาจะลงชิงตำแหน่งผู้นำครั้งต่อไปในการเลือกตั้งเดือนหน้า คาดกันว่าอาเบะจะได้รับเลือกกลับมาเป็นผู้นำพรรครัฐบาลพรรคนี้อย่างง่ายดาย เนื่องจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคยังให้การสนับสนุนเขา โดยมีชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมเป็นคู่แข่งเพียงคนเดียว 

    การชิงดำระหว่างอาเบะกับอิชิบะในวันที่ 20 กันยายนจะส่งให้นายกฯ สายเหยี่ยวรายนี้ครองอำนาจต่อไปอีก 3 ปี และหากอาเบะชนะการเลือกตั้งในพรรคและได้เป็นนายกฯ ต่อไปถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เขาจะดำรงตำแหน่งนายกฯ มากกว่า 2,886 วันจากการเป็นนายกฯ ทั้ง 2 ครั้ง และจะเป็นนายกรัฐมนตรียาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น แทนที่ทาโร คัตซึระ ที่เป็นนายกฯ ตั้งแต่มิถุนายน 2444 ถึงกุมภาพันธ์ 2456.

    อาเบะให้คำมั่นเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะให้ความสนใจต่อประเด็นด้านประชากรศาสตร์จากปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ระหว่างประเทศอย่างอึกทึกครึกโครม

    ทัศนะของอิชิบะก็คล้ายคลึงกับอาเบะ เขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ๆ 2 เรื่องที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ คือปัญหาด้านประชากรศาสตร์ และภัยจากเกาหลีเหนือที่คุกคามความมั่นคงในภูมิภาคนี้

    อาเบะเคยเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรกเมื่อปี 2549 แต่ปัญหาสุขภาพทำให้เขาลาออกจากตำแหน่งในปีถัดมา กระทั่งในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม 2555 อาเบะในฐานะผู้นำพรรคแอลดีพีสามารถนำพรรคชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ทำให้เขากลับสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศอีกครั้ง

    นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้อาเบะในวัย 63 ขณะนี้จะเผชิญมรสุมเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการเล่นพวกพ้องที่ทำให้คะแนนนิยมตกต่ำ แต่เชื่อว่าเขายังได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจาก ส.ส.ในพรรค โดยการเลือกผู้นำพรรคนั้นจะตัดสินด้วยคะแนนจาก ส.ส.ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งเป็นการลงคะแนนโดยสมาชิกพรรคทุกระดับ.