บิ๊กตู่ยกพี่ตูนไอดอล4.0 รับงบรัฐไม่พอหนุนรพ.


เพิ่มเพื่อน    

เปิดทำเนียบฯ โหน "บิ๊กตูน" ประยุทธ์ยกเป็นไอดอลคนรุ่นใหม่ 4.0 ลากพี่ตูนล่มหัวจมท้ายหนุนนโยบายประชารัฐ โบ้ยปมงบสาธารณสุข อ้างอนุมัติเงินให้โรงพยาบาลแต่นำไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน คึก! อยากวิ่งคู่ด้วยหากอายุน้อยกว่านี้ ฝากน้องก้อยดูแลอย่าฝืนร่างกาย วอน ปชช.อย่าเหยียบเท้า ขณะที่ "พี่ตูน" ขอบคุณคนไทยที่ช่วยกัน แพทย์ให้พักยาว 2 วันก่อนลุยต่อ เผยวิ่ง 27 วัน ยอดพุ่งเฉียด 600 ล้าน

เมื่อวันจันทร์ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม ประธานโครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" พร้อมบิดา มารดา นางสาวรัชวิน วงศ์วิริยะ หรือก้อย แฟนสาว และคณะทีมงานก้าวคนละก้าว ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยก่อนเข้าพบ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มาร่วมประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มายืนรออยู่หน้าตึกบัญชาการ 1 เพื่อรอมอบเงินบริจาคให้กับมือของตูน โดยกล่าวกับตูนว่า "ขอบคุณมากจริงๆ ที่ทำเพื่อส่วนรวม" ก่อนจะขึ้นตึกเพื่อรอการประชุม

หลังจากนั้นตูนพร้อมครอบครัวและคณะทีมงานเข้าพบนายกฯ ที่ห้องรับรอง 1 โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณตูน ครอบครัว และทีมงาน ที่ได้เสียสละและตั้งใจทำความดีครั้งนี้ ซึ่งทำให้คนไทยมีความสุข พร้อมระบุว่าดีใจที่ได้มาพบกัน ซึ่งวันนี้เป็นการประชุม ครม.ใหม่นัดแรกด้วย และที่ผ่านมาได้ติดตามมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มวิ่ง และเคยบริจาคเงินไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่วิ่งที่บางสะพาน ส่วนครั้งนี้ระยะทางวิ่งไกลกว่าเดิม หากไม่มีจิตมุ่งมั่นตั้งใจคงไม่มีใครวิ่งได้ขนาดนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอบคุณตูนและทุกคนที่ได้ประสานกับทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่ง ว่าจะทำอะไรล่วงหน้า อย่างไร มีการตรวจสอบเส้นทาง มีคณะทำงาน ถือเป็นสิ่งที่ร่วมมือกันทำทั้งประเทศ สิ่งที่ตูนทำวันนี้ถือว่าไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงของตัวเองตั้งแต่แรก แต่ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนจำนวนมาก ถือว่าสอดคล้องกับแนวนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีหลายภาคส่วนช่วยกันทำงาน และถือได้ว่าตูนเป็นพลเมืองที่มีความมุ่งมั่น ทำเพื่อประโยชน์ชาติ ประชาชน เพื่อการสาธารณสุข

"วันนี้ถือว่าตูนเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว การเป็นก็ว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาต่อไปนั้นมันยากกว่า ยากเหมือนกัน เหมือนกับการได้แชมป์มาแล้ว การรักษาแชมป์จะยากกว่า แต่จากพื้นฐานของตูน ผมมีความเชื่อมั่น ทั้งจากการเรียนหนังสือที่จบคณะนิติศาสตร์จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมด้วย และมีความสามารถพิเศษในด้านดนตรี เป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นคนในศตวรรษใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคน 4.0 คิดแบบ 4.0 แต่ไม่ได้หมายความว่า ตูนจะต้องไปปฎิรูป 4.0 ด้านเศรษฐกิจ มันเป็นคนละเรื่องกัน" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนเองชื่นใจแทนตูน คือ สามารถร่วมกับคนไทยทั้ง 70 ล้านคนทำงาน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของจิตอาสาที่ทำงานเพื่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยอยู่ได้คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หน้าที่ของพวกเราทุกคนคือประชาชน ในส่วนที่สองรัฐบาลพยายามใช้กลไกในการขับเคลื่อนทุกอย่างของประเทศในเรื่องกลไกประชารัฐ

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศมีปัญหามาก ซึ่งตูนก็ได้เข้ามาช่วยลดปัญหาตรงนี้ โดยโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งในโครงการ รัฐบาลก็ดูแลในส่วนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่างบประมาณส่วนใหญ่ก็ต้องไปดูแล เรื่องประกันสุขภาพก็มีปัญหามากพอสมควร เพราะเรายังมีรายได้ไม่มาก ถ้าให้มากไปทั้งหมดก็จะมีผลกระทบกับการพัฒนา แต่กระทรวงสาธารณสุขก็เร่งดำเนินการในส่วนต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงรัฐบาลนี้อนุมัติงบประมาณไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โรงพยาบาลศูนย์ส่วนใหญ่ก็นำไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การจัดหาอุปกรณ์ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขาดความทันสมัย เพราะมีราคาแพง

"สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ถ้าเราใช้จ่ายในเรื่องของคนมาก และยังไม่สามารถหาเงินได้มากพอ รัฐบาลก็จะมีปัญหา ซึ่งวันนี้ตนเองดีใจที่เห็นตูนวิ่งมาได้เกินครึ่งทาง 1,288 กิโลเมตร ที่ผ่านมาก็มีความเป็นห่วงตลอด โดยให้ทหารช่วยดูแลทั้งเรื่องเส้นทางและการรักษาความปลอดภัย พร้อมขอทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยากเข้ามาใกล้ชิดถ่ายรูปกับตูน แต่จะทำให้จังหวะการวิ่งมีปัญหา และอาจเกิดอันตรายได้ สิ่งที่ทุกคนทำวันนี้ทำด้วยใจอันเป็นกุศล ทำให้คนอื่นมีความสุข แต่เราอาจจะทุกข์บ้าง เพราะอาจมีคนบ่นว่า ซึ่งถือเป็นความทุกข์ของเรา แต่เราก็ยึดมั่นและทุกอย่างก็จะสำเร็จ เหมือนนายกรัฐมนตรีที่คิดว่าทำงานเพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเราก็ยอมรับอยู่แล้ว เสียดายหากอายุน้อยกว่านี้จะไปร่วมวิ่งกับตูนด้วย สมัยก่อนก็วิ่งอยู่ทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว เพราะอายุย่างเข้า 64 แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การตั้งความหวังในการวิ่งรวมทั้งระยะทางต่างๆ ถือเป็นการตั้งเอง หากมีอุปสรรคทางร่างกายก็ไม่มีใครว่าอะไร ขออย่าฝืน เพราะหากฝืนอาจทำไม่ได้ต่อไป นายกฯ กล่าวติดตลกด้วยว่า “ผมอ่านข่าวว่ามีการวิ่งข้ามทะเลทราย 250 กิโลเมตร ว่าจะส่งตูนไปลงแข่งขันด้วย ถือเป็นการวิ่งระดับโลก วันนี้วิ่งได้แล้ว 1,288 กิโลเมตร คนอื่นน่าจะสู้ตูนไม่ได้” พร้อมฝากให้ก้อย รัชวิน แฟนสาวคอยดูแลตูนด้วย และขอให้รักกันมากๆ

ด้านตูน บอดี้สแลม ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสและให้เกียรติเข้าพบ พร้อมกล่าวว่า การวิ่งยังล่าช้ากว่ากำหนด 2 วัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และต้องพักตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งการเริ่มต้นโครงการถือเป็นความตั้งใจที่จะช่วยเหลือแพทย์และพยาบาล และไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนออกมาร่วมกันมากมายเช่นนี้ เราเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่พวกเราทั้งหมดอยากจะทำ โดยจะทำให้เต็มที่มากที่สุด ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ และสุดท้ายมันจะเล็กหรือใหญ่ก็ให้เป็นเรื่องธรรมชาติ

“ผมดีใจมาก ในการวิ่งครั้งนี้ ตลอดเส้นทางเริ่มจากเบตงวิ่งขึ้นมา มีแต่รอยยิ้มของคนไทย และเห็นความสุขของคนไทย เด็กบางคนนำกระปุกออมสินที่หยอดมาทั้งปีมาช่วย ผมว่ามันสวยงามและยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่เห็นผมเป็นแรงบันดาลใจ สิ่งที่ได้มามันมากกว่าการช่วยเหลือโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพราะสามารถรวมจิตใจในการให้ของคนไทย ถือเป็นความงดงามที่หาไม่ได้ ขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสเข้าพบในครั้งนี้ ผมและทีมงานขอฝากนายกฯ กราบขอบคุณคนไทยทุกคนที่ออกมาช่วยกัน ซึ่งทั้งหมดได้ตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท เดิมเราตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากได้เงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนเยอะๆ มากกว่าจะได้เงินจำนวนเยอะๆ จากคนจำนวนน้อยนิดเดียว” ตูนกล่าว และว่า ความจริงจะพักวันนี้เพียงวันเดียว แต่คณะแพทย์ขอร้องให้พัก 2 วัน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจแพทย์หญิงสมิตตา สังขะโพธิ์ หรือหมอเมย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระราม 9 ที่ร่วมวิ่งในคณะ พร้อมสอบถามถึงการทำงาน โดยระบุว่า อย่าน้อยใจ การทำอะไรใหม่ๆ ดีๆ ปัญหาจะมีมาก มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่หมอเมย์ก็เป็นคนที่มีความตั้งใจอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อไปคนก็จะรักเราเอง มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย วันนี้ทำดีไม่ต้องทำเด่น และจะไม่เป็นภัย ทำแบบตูนและทีมงาน พร้อมกระเซ้าว่า ถ้าไม่มีงานทำจะฝากให้ทำงานที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้นำเงินส่วนตัวใส่ซองปิดผนึกโดยไม่เปิดเผยจำนวน รวมทั้งเงินบริจาคในส่วนของทำเนียบรัฐบาล และของที่ระลึก มอบให้ตูน ครอบครัว และทีมงาน ก่อนจะเดินจูงมือออกมาส่งตูนด้วยตนเอง และยังกล่าวทิ้งท้ายว่า คนที่ทำเนียบรัฐบาลรอตูนมากกว่าตนเองอีก โดยเฉพาะสาวๆ ก้อยอย่าหึงนะ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้อิจฉาตูนที่มีคนรักจำนวนมาก ใครอยากจะมา อยากจะรักได้เชิญ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าเหยียบเท้าตูน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยระบุว่า พบกับตูน บอดี้สแลม ได้มีการพูดคุยหารือกันหลายประเด็นด้วยกัน ชื่นชมในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีความคิดดูแลสังคม โดยไม่คาดหวังหรือมุ่งหวังอะไร และไม่ได้คิดว่าวันนี้จะมีกระแสตอบรับมากมาย ตนจึงบอกให้รักษาความดีนี้ไว้ ดำรงความมุ่งหมายเดิมเอาไว้ ในฐานะที่เป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ อยากให้นำไปสู่การปฏิบัติเช่นเดียวกันกับอีกหลายๆ คนที่มีชื่อเสียงในสังคมวันนี้ ทำให้ประเทศชาติมั่นคง ปลอดภัย และมีความสุขอย่างยั่งยืน ก็รับปากว่าเราจะช่วยกันทำ ขับเคลื่อนในหลายๆ อย่าง ซึ่งมีศักยภาพในงานด้านมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้จัดทำกล่องรับบริจาค ซึ่งระบุข้างกล่องว่า “ร่วมสมทบทุนทำเนียบรัฐบาล” โดยให้รัฐมนตรีแต่ละคนร่วมใส่เงินตามความต้องการ รวมถึงสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้ทำกล่องบริจาคเพื่อรวบรวมเงินมอบให้กับตูนในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นไปด้วยความคึกคัก ได้มีข้าราชการมารอต้อนรับตูนและทีมงาน พร้อมมอบเงินบริจาคให้กับตูนตลอดเส้นทางจนขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาล

สำหรับกำหนดการของตูน บอดี้สแลม ในวันที่ 5 ธ.ค.จะหยุดวิ่ง 1 วัน และในวันที่ 6 ธ.ค. เวลาเช้ามืด จะใช้เส้นจากพูลแมนคิงเพาเวอร์ รางน้ำ เข้าถนนพญาไท เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีอยุธยา วิ่งตรงผ่านแยกศรีอยุธยา ข้ามทางรถไฟ ผ่านสนามม้านางเลิ้ง วัดเบญจมบพิตรฯ พระลานพระราชวังดุสิต เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอก วิ่งตรงไปบนราชดำเนิน จากนั้นเลี้ยวขวาขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอรุณอัมรินทร์ มุ่งหน้าโรงพยาบาลศิริราช กลับเส้นทางเดิมมุ่งหน้าแยกอรุณอัมรินทร์ ตรงเข้าถนนคู่ขนานบรมราชชนนี (ด้านล่าง) แล้ววิ่งต่อไปเข้าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก เพื่อไปยังพื้นที่จังหวัดนนทบุรีต่อไป

ขณะที่ www.kaokonlakao.com ได้อัพเดตยอดบริจาค ณ เวลา 19.58 น. วันที่ 4 พ.ย.60 อยู่ที่ 531,420,052 บาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"