เด้ง15ตร.พันสุทิพย์ ผู้พิพากษามอบตัว บิ๊กแป๊ะให้ออกอีก3นาย


เพิ่มเพื่อน    

  ตำรวจสูบเลือดตำรวจ ยิ่งสาวลึก ยิ่งฟอนเฟะ "บิ๊กแป๊ะ" เร่งกวาดบ้าน ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 3 นายตำรวจ ตั้งแต่รอง ผบก.เลย ผกก. และสารวัตร ขณะที่อีก 15 นายนำทีมโดยรอง ผบช.ภ.4 ถูกเด้งพ้นพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบ ผู้พิพากษาสมทบกับลูกสาวเข้ามอบตัวหลังเจอหมายจับร่วมแก๊ง "สุทิพย์" บิ๊กโจ๊กลั่นผิดจริงเอาตายทั้งอาญา-วินัย คาดไม่เกินเดือนสรุปสำนวนได้

    เมื่อวันที่ 18 กันยายนนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เผยแพร่เอกสารคำสั่ง ลงนามโดย พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงวันที่ 17 ก.ย.61 ระบุว่า จากพฤติการณ์ที่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ซึ่งถูกให้ออกราชการ พร้อมพวก มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายให้เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหนี้กับสถาบันการเงิน โดยตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายกำหนด อันเป็นความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากนั้น 
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการ ได้แก่ พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็กทอง รอง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ขนาดนิด รอง ผบก.กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ, พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เจียมศิริ สว.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ และ ร.ต.อ.อาดัม รอเหมมัน สว. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.สตูล เป็นกรรมการ โดยให้รายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทราบโดยเร็ว
    นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังมีคำสั่งเลขที่ 524/2561 ให้ข้าราชการออกจากราชการไว้ก่อน จากกรณีการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในเรื่องต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.เลย, พ.ต.อ.อุดร ชูก้าน ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.เลย และ พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ สว.อก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 
    คำสั่งที่ 525/2561 ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ขาดจากต้นสังกัด ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4, พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.ภณกช หรรษา ผกก.สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี, พ.ต.อ.สุจินต์ นาวาเรือน ผกก.สภ.วังสะพุง จ.เลย, พ.ต.อ.วินัย ไทยผึ้ง ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.จักรพงศ์ ธรรมวงศ์ ผกก.ฝ่ายบริการการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรม ตร.ภ.4, พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ วารีสดใส รอง ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสำนวน 2 กองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี, พ.ต.ท.สุกี พลดงนอก รอง ผกก.ฝ่ายปกครองป้องกัน สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู, พ.ต.ท.มนตรี สุปะคำ รอง ผกก.ฝ่ายปกครองป้องกัน สภ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น, พ.ต.ท.ไกรทอง ชัยสิงห์ รอง ผกก.สิบสวน สภ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม, พ.ต.ท.ศิริศักดิ์ ชนะกาญจน์ สว.อก.ภ.จว.เลย, พ.ต.ท.อรรคเดช บุญงาม สว.อก.สภ.นาดินดำ จ.เลย, พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ พนมชัยจิรกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู, ร.ต.อ.สุนทร ย่อยชา รอง สวป.สภ.เมืองขอนแกน และ ด.ต.ศร เตจ๊ะนัง ผบ.หมู่ กก.สส.2 บก.สส.ภ.5
    เช้าวันเดียวกัน ที่ บช.ก.4 พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เดินทางเข้าสอบปากคำนางสุภาศรี อาจราชกิจ ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ และ น.ส.อนันทนา อาจราชกิจ บุตรสาว เครือข่าย พล.ต.ต.สุทิพย์ กรณีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจกว่า 200 ล้านบาท และเชื่อมโยงเครือข่ายแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชนร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ที่เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผู้ต้องหา 2 คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ที่พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิด
    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน บางส่วนได้ถูกออกหมายจับและเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนตำรวจ 3 นายที่ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เบื้องต้นพบการกระทำผิดชัดเจน มีเส้นทางการเงินพัวพันกับเครือข่ายนี้ ขณะที่ตำรวจอีก 15 นายที่ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการที่ สตช. พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหา หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทุกนาย หากไม่พบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดจะพิจารณาให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่หากว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
    รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีส่งให้กับอัยการ เพื่อดำเนินการส่งฟ้องศาล โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
    นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้พิพากษาถูกดำเนินคดีมีส่วนพัวพันการฉ้อตำรวจจังหวัดเลย ว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้พิพากษายื่นลาออกตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทุกคนต่างรู้ว่าในสำนักงานศาลไม่เคยปกป้องคนที่ทำไม่ถูก โดยได้ดำเนินการตรงไปตรงมาตลอด เพื่อรักษาชื่อเสียงองค์กรไว้ทั้งหมด แต่เราไม่ได้อยากบอกว่าเราทำอะไรไปบ้าง จริงๆ แล้วเราทำก่อนคนอื่นทั้งหมด เราไม่ช่วยเหลือคนที่ทำผิด หากใครทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำไว้ ตนได้อาศัยอำนาจหน้าที่ของตัวเองดำเนินการทุกอย่างกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
    พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนคดีทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยนั้น ได้ส่งมอบให้คณะทำงานที่ สตช.แต่งตั้งแล้ว ส่วนตำรวจ 15 นายที่มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ทราบว่าขณะนี้ได้ทยอยไปรายงานตัว สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 17 ราย ทั้งหมดได้เข้ามอบตัวและพบกับพนักงานสอบสวนแล้ว มีทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม และนักธุรกิจ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"