'มาร์ค'ชี้พรรคพลังประชารัฐ กำลังหลบเลี่ยงเจตนารมณ์รธน.


เพิ่มเพื่อน    

1 ต.ค.61 - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐ ในรายการ “ต้องถาม” ว่า ขณะนี้มีประเด็นวิจารณ์กันมากว่า สิ่งที่พรรคประชารัฐทำมีความถูกต้องตามเจตนารมรณ์ของรัฐธรรมนูญ และปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผู้ร่างมีเจตนาให้ผู้มีอำนาจขณะนี้ทั้ง คสช. รัฐบาล,สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รวมถึง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่เข้ามามาวางรากฐาน และกติกาเพื่อที่จะเปิดให้พรรคการเมืองกลับมาแข่งขันกัน โดยที่ไม่ได้หวังว่าจะเป็นผู้เล่นเอง แต่ถ้าจะบอกว่ามีเจตนาเปิดช่องให้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของที่สภาไม่สามารถเลือกนายกฯได้ จนต้องไปเลือกคนนอกกระบวนการการเลือกตั้งเข้ามา อีกทั้งยังมีบทเฉพาะกาล ที่ระบุว่าผู้ที่มีอำนาจในขณะนี้ จะต้องลาออกจากตำแหน่ง 90 วัน หลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้

นายอภิสิทธ์ กล่าวอีกว่า บทบัญญัตินี้หมายความว่า ใครที่ไม่ลาออกในตอนนั้น ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับการส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง โดยตามปกติแล้วในช่วงเลือกตั้ง ใครมีอำนาจรัฐก็จะถูกจำกัดอำนาจทันที ทั้งเรื่องการโยกย้ายข้าราชการ รวมถึงใช้งบประมาณผูกพันธ์ไม่ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง แต่ก็ยังมีบทเฉพาะกาลยกเว้นให้กับรัฐบาลชุดนี้ เหตุผลเพราะว่าเพราะมีบทบัญญัติใครที่อยากเลือกตั้งก็ต้องลาออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

“แต่วันนี้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชารัฐก็คือ กำลังหลบเลี่ยงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งความเสื่อมทางการเมือง และปัญหาวิกฤติในอดีตก็เป็นเพราะ มีการหาช่องโหว่ของกฎหมาย เราไม่ดูเจตนารมณ์ ไม่ยึดถือเรื่องของมารายาท และธรรมาภิบาล ดังนั้นวันนี้คนที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าไปบริหารพรรคการเมือง ซึ่งมีส่วนได้เสียในการเลือกตั้งโดยตรง ก็ต้องแสดงให้เห็นว่ายังเชื่อในหลักธรรมาภิบาล หรือเคารพในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มากกว่าที่จะบอกว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ หรือไม่ผิดกฎหมาย ประเด็นที่สำคัฐก็คือ เรากำลังอยู่ในสถานการณ์การที่ยังไม่ปลดล็อคทางการเมือง แต่งานของรัฐบาลมีงานการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่ได้ถูกจำกัดด้วย ดังนั้นรี้ตนว่าตอบยากจริงๆ ว่าบุคคลเหล่านี้ต้องการมีส่วนได้เสียในการแข่งขัน เหตุใดจึงไม่ทำตามเจตนารมณณ์รัฐธรรมนูญ แล้วสวมหมวกสองใบ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 

นายอภิสิทธ์ กล่าวอีกว่า ต้องบอกกันตรงๆว่า พวกเขากล้าปฏิเสธไหมว่า ไม้ได้มีการใช้สถานของตัวเองสร้างความได้เปรียบทางการเมือง หรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดูดอดีตนักการเมืองเลย หรือมีข้อตกลงเรื่องของตำแหน่ง และงบประมาณ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็ชัดเจนแล้วในกรณีของนายสนธยา คุณปลื้มอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ตรงนี้เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ ถ้าเขาบอกว่ากฎหมายระบุว่าลงสมัคร ส.ส. ไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ลงด้วย ตนกำลังจะบอกว่า เจตนารมณ์คือการไม่เอาเปรียบทางการเมือง การพยายามไปตีกรอบว่าเป็นเรื่องการเลือกตั้งอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งคนที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค สามารถเป็นรัฐมนตรีอีกได้ ถ้ายิ่งเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งชัด ว่าการมีส่วนได้เสียในการเมืองอย่างชัดเจน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"