ออกหมายเรียกกว่า 400 รายเอี่ยว'พล.ต.ต.สุทิพย์'มีทั้งพระ-ตำรวจ-ทหาร-ครู-นักธุรกิจร่วมขบวนโกง


เพิ่มเพื่อน    

3 ต.ค.61 - ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 2 ต.ค. พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 และพล.ต.ต.กฤษกร  พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สกบ. (รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่มี พล.ต.ต.สุทิพย์  ผลิตกุศลธัช อดีต รอง ผบช.สกพ. (รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย เป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดี โดยมีผู้เสียหายเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เลย วม 196 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 240 ล้านบาท

พล.ต.ท.สุรชัย  ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4  กล่าวว่า การทำงานของทีมสืบสวน สอบสวน มีความคืบหน้าอย่างมาก แต่คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ความเสียหายกว่าพันล้านบาท ซึ่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับต่างต้องการช่วยเหลือข้าราชการที่เป็นผู้เสียหายและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการดังกล่าว ให้ได้เงินคืนมาโดยเร็ว  โดยอีกไม่เกิน 1 เดือนก็จะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฏหมายได้ ขณะที่การยึดอายัดทรัพย์ก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคืนเงินมาแล้ว13 ล้านบาท  ยึดอายัดทรัพย์มูลค่า 130 ล้านบาท ล่าสุดมีการยึดทรัพย์ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดมูลค่า 40 ล้านบาท พื้นที่จังหวัดขอนแก่น 2 จุด รวม 16 ล้านบาท ทั้งยังมีบุคคลที่คิดว่าตัวเองจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับเงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่เกรงจะมีความผิด นำเงินสดมานอีกวันนี้ 3 ราย รวมเป็นเงินที่ 4,970,000บาท

  
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการ ผบช.สตม.กล่าวว่า  การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง เมื่อทราบชัดเจนถึงความเชื่อมโยงกัน และน่าเชื่อว่ามีส่วนได้เสียจากเงิน ก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนี้มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 33 ราย และยังจะแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 10-20ราย ส่วนการออกหมายเรียกนั้นมีหลายร้อยราย ซึ่งในจุดนี้ถึงแม้จะมีการส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว ในทางคดีก็ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

“ น.ส.ธิญาดา วิภาวรกานต์ หรือ นุช ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีเดียวกับพล.ต.ต.สุทิพย์ นั้น ขณะนี้ทราบว่ากำลังหลบหนี  และยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จึงขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากยังหลบหนีต่อ ก็คงหนีไม่พ้น ตำรวจจะตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นทีมพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวจำนวน 11 ราย ที่ถูกเสนอชื่อเข้าไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ทั้งหมดเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่ บช.ภ.4 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนทำงานด้วย แต่หากพบว่าละเว้นก็จะมีความผิดทางวินัยทันที"

ด้าน  พล.ต.ต.บุญลือ  กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า  ทีมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน จาก สตช.และ บช.ภ.4 ร่วมกันทำงานคลี่คลายคดีการทุจริตโครงการรวมหนี้และโครงการบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย โดยในคดีดังกล่าว มีผู้เกี่ยวข้อง 5,000 ราย มีการออกหมายเรียก จับกุมและแจ้งข้อหาไปแล้ว 17 ราย แต่มีการสืบสวนสอบสวนขยายผล พร้อมออกหมายเรียกเพื่อมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 400 ราย ซึ่งวันนี้มีรายชื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จ.เลย บช.ภ.4 ขอนแก่น 12 ราย เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าว ในข้อกล่าวฉ้อโกงประชาชน ซึ่งการสอบปากคำ ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บางรายยินยอมให้ยึดทรัพย์ และนำเงินมาคืน ดังนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนรับมอบตัว ก็จะแจ้งข้อกล่าวหา พิมพ์มือ และปล่อยตัวชั่วคราว 

"กรณีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องในคดี 400 กว่ารายนั้น มีทั้งทหาร ตำรวจ ครู นักธุรกิจ พระสงฆ์ และประชาชนทั่วไป รวมวงเงินที่ตรวจสอบที่มีความเชื่อมโยงกันของขบวนการเครือข่ายของพล.ต.ต.สุทิพย์ มากกว่า 2,000 พันล้านบาท อีกทั้งในขณะนี้ ป.ป.ง.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ถูกแจ้งข้อหาและบุคคลที่ถูกออกหมายเรียกไปทั้งหมดแล้ว ในความผิดคดีฟอกเงิน"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"