
17 พ.ย.61 - ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธวัชชัย อนามพงษ์ และนายแสนคม อนามพงษ์ อดีตส.ส.จันทบุรี เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. โดยนายธวัชชัย กล่าวภายหลังสมัครเป็นสมาชิกพรรคถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า วันนี้ได้นำทีมมา 3 คน จากจันทบุรี ซึ่งมีมาสมัครก่อนหน้านี้แล้วคือ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา โดยก่อนมาสมัครตนได้ฟังเสียงประชาชน ส่วนมากประชาชนในพื้นที่อยากให้มาอยู่ พปชร. เพื่อช่วยรัฐบาลแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ที่ขณะนี้มีปัญหาเยอะ และรัฐบาลเองอยากได้ส.ส. เมื่อตนได้ฟังเสียงประชาชนจึงอยากมาอยู่ ดังนั้นประชาชนในพื้นที่เข้าใจดีและอยากให้มา ขณะเดียวกันได้เดินสายรับฟังทั้งในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอัญมณี รวมทั้งข้าราชการและท้องถิ่นก็อยากให้มาอยู่พปชร. เพื่อจะได้ช่วยจังหวัดจันทบุรีด้วย
เมื่อถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาไม่สามารถช่วยเหลือปากท้องประชาชนได้เต็มที่ใช่หรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ตนเป็นส.ส.มา 8 สมัย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นฝ่ายค้านเยอะมาก ส่วนกระแสของประชาธิปัตย์ในพื้นที่ลดลงหรือไม่นั้น ตนไม่อยากพูด แต่ก็ดีกัน ซึ่งตนเองก็ได้ไปลานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์มาตลอด และเคยสังกัดพรรคประชากรไทย อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งไปลานายอภิสิทธิ์ ท่านพูดน้อยมาก เพียงขอให้โชคดี แต่ในตอนหลังก็มีการส่งคนมาชักชวนอีก แต่ตนไม่เอาแล้ว พอแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ได้เกลียดท่าน
เมื่อถามว่า แสดงว่าการออกจากพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ออกมาด้วยความไม่พอใจกันใช่หรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า "ก็นิดหน่อย แต่ก็บอกท่านแล้วว่ายุคนี้ทำไมต้องทำโพลด้วย 8 สมัยแล้ว ซึ่งหลานผมก็ลงบัญชีรายชื่อแสนสี่หมื่นคะแนน ทำไมต้องทำโพลด้วย ถามว่าทำเมื่อไหร่ ไม่ได้ว่าท่านนะ แต่ทำเมื่อปี 60 ดังนั้นไม่ไหว ก็ลาออก ไม่มีอะไรมาก"
ถามว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งหน้าจะมีปัญหาหรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ไม่มี เพราะครั้งนี้คิดว่าเป็นการเลือกที่ตัวบุคคลไม่ใช่เลือกที่พรรค ดังนั้นต้องไปคุยให้ชาวบ้านเข้าใจ ซึ่งปัญหาชาวบ้านคือเรื่องปากท้องและเรื่องเศรษฐกิจรากหญ้า เราก็เข้าไปคุยว่าจะเป็นส.ส.เพื่อเข้าไปช่วย เมื่อถามต่อว่า ทำไมมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ครองพื้นที่มานาน กับพรรคใหม่อย่างพปชร. จะไปเปลี่ยนความคิดประชาชนได้ นายธวัชชัย ตอบว่า ได้คุยกับชาวบ้าน ซึ่งเขาทราบดีว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ครองพื้นที่มานานมีตนเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งตนก็ได้ไปขอลาออกจากนายอภิสิทธิ์เอง เพราะประชาชนเรียกร้องจริงๆ
เมื่อถามอีกว่า มีความมั่นใจหรือไม่ว่าการลงสมัครครั้งใหม่นี้ จะได้กลับเข้ามาอย่างแน่นอน นายธวัชชัย กล่าวว่า มั่นใจ และมั่นใจยกทีม และคิดว่าคนจันทบุรีจะไม่ให้บทเรียนอะไรจากการย้ายพรรคครั้งนี้ เพราะเขาเข้าใจดี ซึ่งตนเล่นการเมืองก็ไปตามกระแสเรียกร้อง
เมื่อถามว่าเหตุใดต้องย้ายมาพลังประชารัฐในเมื่อหากพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถมาร่วมงานได้อยู่ดี นายธวัชชัย กล่าวว่า "ไม่แน่ใจ แต่เมื่อผมมาอยู่กับใครแล้วก็ไม่อยากพูด เพราะท่านอภิสิทธิ์ก็ดีกัน แต่ตอนไปลาท่านก็พูดน้อย พูดแค่ว่าโชคดี ส่วนนายชวน หลีกภัย นั้น ผมไม่ได้พบ แต่ผมเองก็เป็นเพื่อนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ"
ถามว่า แสดงว่าที่มีปัญหา เนื่องจากประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาลจึงทำให้การทำงานในพื้นที่ลำบากใช่หรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า "ก็แบบนั้น เที่ยวที่แล้วก็แบบนั้น เวลาเป็นรัฐบาลทีเราของบประมาณไปจันทบุรีเยอะมาก แต่เวลาเป็นฝ่ายค้านทำงานลำบาก ผมเน้นการทำงาน ตอนนี้มาอยู่ในพลังประชารัฐก็ขอโครงการไปเยอะ เพราะชาวบ้านอยากได้ เช่น การแก้ปัญหารถติด การแก้ปัญหาปากท้อง ราคายางพาราตกต่ำช่วงนี้ เราก็จะเข้าไปช่วย อย่างไรก็ตาม การเล่นการเมืองยุคนี้ต้องให้ชาวบ้านร้องเรียนปัญหามา ซึ่งผมกำลังจะเชิญนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ไปดูในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีคนหลากหลายอาชีพ ขณะนี้ท่านกำลังดูตารางเวลาที่จะลงไป เพื่อให้เห็นภาพในพื้นที่ที่แท้จริง"
เมื่อถามว่า หากครั้งนี้ไม่ได้เป็นตามที่คาดหวังไว้ จะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ หรือมีแนวทางอย่างไร นายธวัชชัย กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูก่อน แต่ตนคิดว่าเสียงประชาชนตอบรับเยอะมาก ซึ่งเราได้บอกว่าจะลงไปช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายธวัชชัยและนายแสนคม ได้เปิดรูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ขณะไปลานายอภิสิทธิ์ ให้สื่อมวลชนดูด้วย
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |