กราบลาสรีรสังขาร ‘พระจก’เห็น‘พ่อคูณ’


เพิ่มเพื่อน    

  ประชาชนยังไปวางดอกไม้จันทน์และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณกันอย่างเนืองแน่นตลอดทั้งวัน ขณะที่มิจฉาชีพก็ชุกไม่แพ้กัน อธิการบดี มข.เผยมีพ่อค้า-แม่ค้าลักลอบนำเสื้อผ้าหลอกขาย อ้างต้องใส่ชุดขาวเท่านั้นจึงจะร่วมงาน   ยันประชาชนแต่งกายแบบใดก็ได้ ส่งเจ้าหน้าที่ผลักดันให้พ้นรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว "พระจก" บุตรบุญธรรมหลวงพ่อคูณเผยเห็นหลวงพ่อในวิมาน 8 เหลี่ยมสีขาวทั้งหลัง ในมือถือยาเส้นและมีกระโถนตั้งอยู่ 

     เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น  หรือ มข. ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม  หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นกรณีพิเศษ มีการประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ประจำวัน โดยมีพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานฝ่ายสงฆ์ เป็นประธาน มีพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ที่ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในครูใหญ่หลวงพ่อคูณและคนในครอบครัวของครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง เข้าร่วมในการประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ โดยมีพระพิธีธรรม 10 รูป จากวัดหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น สวดพระพุทธมนต์
     ทั้งนี้ ในการสวดพระพุทธมนต์ประจำวันนั้น พุทธศาสนิกชนจากทั่วโลกได้เดินทางมาร่วมประกอบพิธีจนล้นห้องประชุม ซึ่งในช่วงพิธีการนั้น ทุกคนต่างพากันนั่งลงกับพื้นห้องประชุมและบันไดทุกขั้น เนื่องจากที่นั่งที่จัดเตรียมไว้นั้นเต็มทุกที่นั่ง และเมื่อการประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์แล้วเสร็จ ได้เข้าสู่การถวายภัตตาหารเพลพระพิธีธรรมและพระสงฆ์ที่มาร่วมในการสวดพระพุทธมนต์ดังกล่าว 
    ในช่วงของการถวายภัตตาหารเพลนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์ไฟดับทั้งศูนย์ประชุมโดยไม่ทราบสาเหตุ เรียกเสียงฮือฮาจากสาธุชนที่มาวางดอกไม้จันทน์และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการวางดอกไม้จันทน์และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณแต่อย่างใด โดยทุกคนต่างยกมือสาธุและเดินเรียงแถวเข้าวางดอกไม้จันทน์และกราบลาสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ตามเส้นทางที่ มข.กำหนด และนั่งรอในการร่วมสวดพระอภิธรรม ตามรอบที่ มข.กำหนด
     รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. กล่าวว่า มข.ได้เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนและเสียงตามสาย ทั้งที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ฯ และที่ ฌาปนสถานชั่วคราวฯ เพื่อแจ้งเตือนกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีออกอุบายหลอกลวงประชาชนมาในรูปแบบของพ่อค้า-แม่ค้าที่ลักลอบนำเสื้อผ้าเข้ามาวางขายอยู่ภายในรั้ว มข. และโดยรอบศูนย์ประชุม โดยผู้ไม่หวังดีเหล่านี้จะหลอกประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมงานว่า มข.ได้กำหนดให้แต่งกายด้วยชุดขาว-ดำเท่านั้น 
แก๊งหลอกลวงขายเสื้อ
    "เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวกล่าวอ้างโดยเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวกลุ่มไม่หวังดีต้องการจำหน่ายเสื้อ-ผ้าเท่านั้น ทั้งนี้ ผมยืนยันว่าทุกคนที่เดินทางมานั้น สามารถแต่งกายแบบใดก็ได้ โดยทาง มข.ไม่ได้บังคับ แต่ขอให้แต่งกายให้สุภาพ เหมาะสมกับงานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่หลวงพ่อคูณ"
    รศ.ดร.กิตติชัยกล่าวต่ออีกว่า กองอำนวยการร่วม มข., ตำรวจ, ทหารและฝ่ายปกครอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจและผลักดันกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่ลักลอบเข้ามาตั้งจำหน่ายสินค้าภายในรั้วมหาวิทยาลัย โดยให้ออกไปขายด้านนอกรั้วทั้งหมด ซึ่งหากยังคงฝ่าฝืนและมีการตรวจพบ ก็จะทำการผลักดันให้ออกไปทันที   
    รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. มีประชาชนเข้ามาชมนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ ที่ฌาปนสถานชั่วคราวฯ เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยแล้วหลายหมื่นคนต่อวัน ซึ่งหลายๆ คนประสบปัญหาในเรื่องของห้องน้ำ เนื่องจากมีเพียง 10 ห้องและอยู่ไกล ทั้งนี้ เดิมตามแผนในวันที่ 29 ม.ค. จะมีห้องสุขาชั่วคราวจำนวนมาก แต่เนื่องจากมีประชาชนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก จึงได้มีการปรับแผน โดยได้นำรถสุขาเข้าไปใกล้กับฌาปนสถานอีกจำนวน 31 ห้อง และสุขาชั่วคราวที่ทำเอาไว้อีก 20 ห้อง ซึ่งจะเสร็จภายในวันนี้ โดยจะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมรุชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกของเหล่าสาธุชนที่เดินทางมาเป็นจำนวนมาก 
    และสำหรับสุขาที่อยู่รอบองค์พระพุทธรูปภายในพุทธมณฑลอีสาน จะมีอยู่ 30 ห้อง ที่ทิศตะวันออกขององค์พระพุทธรูป และฝั่งทิศตะวันตกอีกจำนวน 12 ห้อง ทั้งนี้ มข.ได้ทำป้ายบอกทางไปสุขาอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสุขาที่อยู่รอบองค์พระพุทธรูปอีก 40 ห้อง คอยรองรับสาธุชนในภาพรวมทั้งหมดแล้ว"
    รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวต่ออีกว่า มข.ยังได้เตรียมทีมอาสาสมัครฝ่ายการแพทย์และพยาบาลอีกกว่า 200 คน ประจำจุดที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อคอยดูแลสุขภาพ เพราะภายในพุทธมณฑลอีสานและที่ฌาปนสถานชั่วคราวฯ มีสาธุชนเป็นจำนวนมากและที่สำคัญคือสภาพอากาศร้อนจัด จึงเสี่ยงต่อการให้สาธุชนนั้นมีอาการหน้ามืดเป็นลมได้ ซึ่งอาสาสมัครแพทย์และพยาบาลจะเข้าไปให้การช่วยเหลือทันที อีกทั้งสาธุชนก็ยังคงสามารถเรียกขอความช่วยเหลือได้โดยตลอดอีกด้วย 
รองรับได้ 6.5 หมื่นคน
    อย่างไรก็ตาม สำหรับที่นั่งของสาธุชนที่จะเข้าร่วมในงานดังกล่าว ได้มีการตั้งเต็นท์อยู่บริเวณองค์พระพุทธรูป ซึ่งสามารถจุคนได้ 65,000 คน และมีการเสริมเก้าอี้อีกจำนวนหนึ่ง และในบริเวณฌาปนสถานชั่วคราวฯ ได้มีผู้ใจบุญบริจาคเต็นท์มาช่วยอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ มข.ได้ทำการประชาสัมพันธ์ออกไป แต่ถึงอย่างไรเต็นท์ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้อาจจะไม่พอ จึงอยากจะขอให้ประชาชนที่เดินทางมาพกร่ม-หมวก รวมทั้งเสื่อและที่รองนั่ง และที่สำคัญคือน้ำดื่ม เพราะอากาศร้อน ที่จะสามารถช่วยแบ่งเบา อุณหภูมิในร่างกายไม่ร้อนจนเกิดอาการหน้ามืดและเป็นลมได้    
    "สำหรับขบวนเรือที่จะใช้ในการลอยอังคารครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้น จากการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปในการกำหนดจุดที่จะลงเรือ,  จุดที่จะล่องเรือ และจุดที่จะลอยอังคาร ไว้ทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ก็มีการกำหนดแผนการจราจรในด้านต่างๆ ซึ่งทุกอย่างก็ได้ดำเนินการเป็นไปตามแผนงานอย่างราบรื่น ได้รับความร่วมมือจากทาง จ.หนองคาย เป็นอย่างดี ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น"
    รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวว่า วันที่ 30 ม.ค. ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีถวายเพลิงครูใหญ่หลวงพ่อคูณแล้วเสร็จในเวลา 06.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเปิดเตา เพื่อนำโลงสเตนเลสซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดของเตา ซึ่งมีการล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา มาทำการห่อด้วยจีวรพระและถวายดอกไม้ จากนั้นจะมีพิธีทางศาสนาตามประเพณี
     จากนั้นในเวลาประมาณ 07.00 น. ขบวนรถจะเดินทางออกจากฌาปนสถานชั่วคราวฯ ไป จ.หนองคาย ทันทีเพื่อลอยอังคารตามพินัยกรรมที่ได้ระบุไว้ โดยจะไม่มีการนำกระดูกมาวาง เพราะกล่องสเตนเลสสำหรับการใส่อัฐิของครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้นทำการล็อกกุญแจทันทีหลังการถวายเพลิงเสร็จสิ้น"
    ทั้งนี้ ในช่วงเช้า พระชาคริสต์ อภิปาโล (ลิ้มชูวงษ์) หรือพระจก อายุ 26 ปี และพระธีทัต ญาณวโร (ลิ้มชูวงษ์) หรือพระทา อายุ 24 ปี สองพี่น้อง ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อคูณ ที่เมตตารับไว้ในอุปการะได้เดินทางมากราบหลวงพ่อคูณ หลังอุปสมบทในโครงการเข้าโครงบรรพชาอุปสมบทเพื่ออุทิศถวายแด่หลวงพ่อคูณ 100 รูป 
เห็นวิมาน 8 เหลี่ยม
    ทั้งนี้ พระทั้ง 2 รูปเล่าถึงความผูกพันกับหลวงพ่อคูณ โดยพระจกเล่าว่า แม่อาตมาไม่มีลูก เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ภายในมดลูก แม่อาตมาไปหาหมอทำกิฟต์หมดเงินไปมากมายก็ไม่สำเร็จ จึงเดินทางไปขอลูกกับหลวงพ่อคูณ ซึ่งท่านบอกกับแม่อาตมาว่าจะให้ลูกเป็นชาย 2 คน แต่จะต้องไปทำศิวลึงค์ที่วัดโพธิ์ตามพิธีกรรม จากนั้นไม่นานแม่อาตมาก็ตั้งครรภ์เกิดอาตมา
    “ท่านตั้งชื่อให้ว่า “จก” หมายความว่า “ล้วง” มาจากขั้นตอนในพิธีกรรม ถัดมาอีก 2 ปี แม่ก็ตั้งครรภ์ และคลอดพระธีทัต ชื่อ “ทา” เป็นไปตามที่หลวงพ่อคูณได้บอกไว้ เท่าที่จำความได้ อาตมาจะคลุกคลีกับท่านในวัยเด็กเสียมาก และเรียกว่าพ่อแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอเลิกเรียนทุกวันก็จะไปหาหลวงพ่อที่วัด ไปเล่นไปดูแลท่านตลอด หลวงพ่อใจดีมาก เวลาดื้อเวลาซน หลวงพ่อจะคอยสั่งสอน ตักเตือนในแบบของท่าน บอกให้ตอบแทนคุณบิดามารดา ผู้มีพระคุณ และสอนให้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ต้องยึดติด ซึ่งอาตมาก็ยึดถือมาใช้ในการดำเนินชีวิต”
    พระจกยังเล่าว่า เมื่อโตขึ้นมาได้เรียนชั้นมัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้มีเวลากลับไปพบหาหลวงพ่อ แต่เมื่อหลวงพ่อคูณอาพาธหนัก ก็เข้าไปดูแล พาเดินกายภาพ ป้อนข้าวป้อนน้ำ กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ท่านได้ลงบันทึกพินัยกรรมไว้ ในเย็นวันเดียวกันท่านก็อาพาธ อาตมาก็เข้าไปพูดคุย และท่านก็บอกว่า “ถ้ากูตาย มึงบวชให้กูหน่อยได้ไหม 3 วัน” ตอนนั้นพวกอาตมาก็ยังเล็ก ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ แต่เพราะท่านเป็นทั้งพ่อและพระที่คนให้ความเคารพนับถือ ดีมีเมตตา มีหรือที่จะไม่ทำให้ อาตมากับพระทาก็ตอบตกลง
    "หลังหลวงพ่อคูณละสังขารไปแล้ว พระจกบำเพ็ญเพียรเข้าศีลตลอด ระยะเวลา 3 ปี ได้พบเห็นท่านอยู่ตลอด ก็พาอาตมาไปดูอยู่ที่ไหน เห็นเป็นวิมาน 8 เหลี่ยมสีขาวทั้งหลัง มีท่านนั่งอยู่รูปเดียว ท่ามกลางวิหาร ในมือถือยาเส้นและมีกระโถนตั้งอยู่ และได้พาไปรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เป็นปกติเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่” 
    พระจกเผยว่า นอกจากหลักธรรมคำสอนสั่งที่ท่านให้ไว้ ก็จะมอบเครื่องรางของขลังไว้ด้วยบ้าง และท่านก็จะบอกว่า ‘กูให้มึง กูให้มึง’ สำหรับอาตมา แค่เป็นลูกบุญธรรมของท่านเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
    ส่วนพระทากล่าว่า หลวงพ่อเป็นพระที่มีเมตตา เป็นผู้ให้อย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นพ่อที่คอยสั่งสอน ดูแลลูก ทั้งอาตมาและหลวงพี่ชาคริสต์จึงได้เข้าโครงบรรพชาอุปสมบทเพื่ออุทิศถวายแด่หลวงพ่อคูณ 100 รูป โดยคณะสงฆ์ จ.ขอนแก่น รับผิดชอบ 50 รูป คณะสงฆ์ จ.นครราชสีมา รับผิดชอบ 50 รูป เพื่อต้องการตอบแทนบุญคุณของท่านที่ทำให้อาตมาเกิดมา
วัดบ้านไร่แทบแตก
    บรรยากาศที่มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายพยุง พวงขุนทด อายุ 50 ปี กรรมการวัดบ้านไร่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ศิษยานุศิษย์จากทั่วทุกสารทิศพากันหลั่งไหลเดินทางมาเพื่อจะวางดอกไม้จันทน์ถวายสักการะสรีระหุ่นขี้ผึ้งจำลองพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่บรรจุประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วตั้งอยู่บนศาลาการเปรียญภายใต้พระอุโบสถวัดบ้านไร่ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้ามาจนถึงขณะนี้ คาดว่าประชาชนที่มานั้นรวมประมาณ 6 หมื่นคน 
    นายข้าวโพด พึขุนทด อายุ 54 ปี เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการยืนแจกรูปภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ซึ่งด้านหลังเป็นคำคม 10 ประการ ของหลวงพ่อคูณ รุ่น “กูให้มึงรวย” กันเลย เผยว่า ตนเองยืนแจกรูปภาพหลวงพ่อคูณแก่ประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่มาเฉพาะ 4 ชม.วันนี้หมดไปทั้งสิ้น 3 หมื่นใบแล้ว ขณะที่นายบุญโรม ปวงขุนทด ผู้ที่ให้บริการดอกไม้จันทน์ ได้เผยว่าตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.62 ที่วัดบ้านไร่จัดให้มีพิธีการวางดอกไม้จันทน์ที่วัดบ้านไร่นั้น หมดดอกไม้จันทน์ไปวันละประมาณ 10,000-20,000 ช่อ แต่วันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุด พบว่ามีประชาชนเดินทางมาปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่า 3 เท่า คาดว่าน่าจะประมาณถึง 6 หมื่นคน
         ต่อมาช่วงบ่าย ทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ได้จัดให้มีพิธีเคลื่อนย้ายโลงแก้วที่บรรจุสรีระหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณจำลองที่เคยตั้งให้ประชาชนสักการบูชาวางดอกไม้จันทน์อยู่ภายในศาลาการเปรียญใต้พระอุโบสถวัดบ้านไร่ โดยมีพระสมศักดิ์และพระสงฆ์ที่อุปสมบทถวายหลวงพ่อคูณ จำนวนกว่า 100 รูปทำพิธีกราบขอขมาร่างสรีระหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณ มีนายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอด่านขุนทด, นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีต รมต.กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงประชาชน ร่วมกันแบกโลงแก้วเดินแห่ไปยังวิหารเทพวิทยาคมวนรอบและเดินแห่มายังสถานที่ตั้งเมรุลอยที่ตั้งอยู่ด้านข้างศาลาการเปรียญพระอุโบสถวัดบ้านไร่ เพื่อให้ประชาชนศิษยานุศิษย์ที่หลั่งไหลเดินทางมาเพื่อกราบสักการะวางดอกไม้จันทน์ได้ร่วมกราบอนุโมทนาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจสรีระร่างหุ่นขี้ผึ้งจำลองไปพร้อมกับพิธีพระราชทานเพลิงหลวงพ่อคูณ พร้อมกับพิธีใหญ่ที่มณฑลพิธี จ.ขอนแก่น ในวันที่ 29 ม.ค.ที่จะถึงนี้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"