6 ก.พ. 62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ร้องเรียนกรณีสะพานข้ามห้วยบังกอ ริมตลิ่งแม่น้ำโขง  ช่วงบ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า ซึ่งเป็นรอยต่อกับ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม หลังเพิ่งสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่เดือน มิ.ย.2560  ได้เพียง 1 เดือนเศษ  ก็พังถล่มลงมาได้รับเสียหายเกือบหมด  ชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้รับเหมาใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานหรือไม่  เวลาผ่านมาร่วม 2 ปี สะพานดังกล่าวยังไม่ได้รับการซ่อมแซมแก้ไข  สร้างความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาระหว่าง 2 ตำบล แม้จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ลงมาตรวจสอบ และแจ้งให้ผู้รับเหมาซ่อมแซมแก้ไข  แต่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในสภาพเดิม กลายเป็นสะพานด้วนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้  

นายอนุชา  พิลาสุ อายุ 32 ปี ชาวบ้านบ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 เปิดเผยว่า สะพานแห่งนี้มีความยาว 60 เมตร ตั้งอยู่บริเวณห้วยบังกอ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่เชื่อมรอยต่อระหว่าง 2 ตำบล คือบ้านท่าค้อ หมู่ 6  ข้ามไปบ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า และพังครืนลงมาช่วงหน้าฝนเดือน มิ.ย. 2560 มีความเสียหายเป็นระยะทาง 16 เมตร ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาฯ ตรวจสอบแล้วพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นดินอ่อน ซึ่งจะต้องวางแผนในการซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง ระหว่างนั้นชาวบ้านต้องนำไม้ไผ่มาผูกเป็นสะพานไม้ไต่เดิน ตรงบริเวณใต้สะพานที่สูงชันและลึก เพื่อให้สัญจรไปมาชั่วคราว   ส่วนสาเหตุที่ผู้รับเหมาไม่ยอมมาซ่อมแซมนั้น นายอนุชาก็ไม่ทราบเหตุผล  ชาวบ้านอยากให้เร่งมาซ่อมแซมกลับสู่สภาพเดิม   

ด้าน น.ส.ณัฐมน  วรราช อายุ 32 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่เดือนร้อน  กล่าวว่า  สะพานแห่งนี้มีความสูงจากพื้นดินร่วม 10 เมตร หลังพังถล่มเสียหาย  ก็สร้างความหวาดเสียวให้ชาวบ้าน  รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านสัญจรไปมาได้ร่วม 2 ปี  ส่วนที่ผู้รับเหมาและผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่มาซ่อมให้ก็ไม่ทราบว่าติดขัดอะไร  แต่หากจะซ่อมเฉพาะส่วนที่เสียหาย โดยเฉพาะตอม่อและคานรวมทั้งโครงสร้างเกรงว่าจะถล่มอีกรอบ  น่าจะรื้อและทำให้ใหม่ทั้งหมด  เพื่อความมั่นคงแข็งแรง 

ส่วน นางนวลตา  โทเสริฐ อายุ  51 ปี กล่าวเพิ่มเติมว่า  การทำมาหากินของชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลไปมาหาสู่กันยากลำบาก  ต้องขับรถอ้อมไปไกลกว่า 3-4 กิโลเมตร โดยเฉพาะพื้นที่บ้านกุดข้ามปุ้น มีเกษตรกรปลูกต้นหอมและปลูกผักหลายชนิด  พลอยได้รับผลกระทบในการสัญจรเพราะเสียเวลาอ้อมไกลมาก  ส่วนสาเหตุที่ซ่อมแซมล่าช้า ต้องถามผู้รับเหมาติดขัดอะไร ผ่านมา 2 ปีปล่อยเรื่องเงียบหายไปเฉยๆ  มีเพียงแค่นำดินมาเทช่วงคอสะพาน เพื่อไม่ให้ตลิ่งทรุดช่วงหน้าฝนเวลาน้ำไหลหลากเท่านั้น  

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสะพานถล่มใหม่ๆ ปี60 นั้น  นายสุด  ชำนาญนารถ  ช่างคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า  สะพานข้ามห้วยแห่งนี้ยาว 60 เมตร ผิวจราจรกว้าง 8 เมตร เป็นสะพานในโครงการโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม เริ่มลงมือก่อสร้างเดือน พ.ค.2559 ใช้งบสร้าง 7 ล้านกว่าบาท แล้วเสร็จเมื่อเดือน พ.ค.2560  ส่งมอบและตรวจรับงานไปแล้ว  หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จากโยธาธิการและผังเมืองฯ ได้เดินทางมาตรวจสอบ  เพื่อวางแผนซ่อมแซม แต่ช่วงนั้นทำอะไรไม่ได้  เพราะดินยังอ่อนตัวหวั่นทรุดทะลายลงมาอีก  ต้องรอถึงฤดูแล้งจึงจะสามารถซ่อมแซมได้ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 2 ปี สะพานแห่งนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข.