ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net และแล้วความหนาวหรือความเย็นที่มีอยู่น้อยนิดก็จางหายไปกับฝุ่นพิษ PM 2.5 กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว คาดการณ์ว่าจะยาวไปถึงกลางเดือน พ.ค.ทีเดียว แต่คงไม่เกี่ยวกับฤดูเลือกตั้ง เพราะอุณหภูมิทางการเมืองมันร้อนแรงอยู่แล้วไม่ว่าจะเดือนไหนๆ ที่หนักกว่าเพื่อนน่าจะเป็นพรรคย่านแจ้งวัฒนะ ถ้อยคำใน 8 ประเด็นที่ไทยรักษาชาติยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญสู้คดียุบพรรค สะท้อนชัดว่า ทษช.ไม่ได้สำนึกกับพฤติการณ์ที่กระทำไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. หนำซ้ำยังกล่าวหากลับว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขยายความพระราชโองการ! นอกเหนือจากเอกสารร่วม 20 หน้าแก้ต่าง ยังหอบเอากรรมการบริหารทั้งหมด 14 คนเป็นพยาน พ่วงบุคคลภายนอก 5 ปาก ที่อุบเงียบ แว่วว่าอาจเป็นนักวิชาการสายเสื้อแดง แต่การันตีไม่มีบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นแคนดิเดต

      ๐ สิ่งที่ต้องจับตาจากนี้คือ การประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้นัดประชุมกันในวันพุธที่ 27 ก.พ.นี้ โดยมีข่าวว่า ทางที่ประชุมก็คงจะนำเอกสารที่พรรคไทยรักษาชาติชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาพิจารณา จากนั้นจะได้หารือเพื่อกําหนดประเด็นและลําดับประเด็นที่จะพิจารณาวินิจฉัย  คาดว่าจะรู้ได้ในวันดังกล่าว ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวางแนวการวินิจฉัยคดีอย่างไร จะให้มีการเปิดห้องไต่สวนคำร้องหรือจะพิจารณาแค่ปัญหาข้อกฎหมายแล้วมีการไต่สวนหาข้อเท็จจริงโดยไม่มีการไต่สวนเรียกพยานมาเบิกความ จากนั้นจะมีการนัดประชุมเพื่อให้ตุลาการทั้งหมดอ่านคำวินิจฉัยส่วนตนและลงมติที่จะใช้เสียงข้างมากเป็นมติของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

      ๐ กระบวนการพิจารณาคดีนี้ มีการอธิบายหลักการไว้อย่างน่าสนใจจาก "สุพจน์ ไข่มุกด์" อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตรองประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 และอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่พูดถึงหลักการถึงกระบวนการพิจารณาไต่สวนคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญว่า "การวินิจฉัยคดีเป็นอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะวางหลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องที่ส่งมายังศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะใช้การพิจารณาคำร้องแบบใด ในมาตรา 58 ของ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาคำร้องโดยพิจารณาแค่ข้อกฎหมายอย่างเดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีการเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนคำร้องไปเรียกพยานหากเห็นว่าข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับชัดเจนเพียงพอ ก็สามารถพิจารณาและมีคำวินิจฉัยได้เลย"  ก็ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วศาลรัฐธรรมนูญใช้วิธีการพิจารณาคำร้องโดยดูแค่ปัญหาข้อกฎหมาย แล้วลงมติวินิจฉัยเลยว่าจะยุบหรือไม่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ หากออกมาสูตรนี้ ก็เชื่อว่าคดีจะจบก่อนวันหย่อนบัตร 24 มีนาคมค่อนข้างแน่

      ๐ โพลเช็กกระแสสนามเมืองกรุงปลิวว่อนไลน์พลพรรคเพื่อแม้ว อ้างว่ามาจากสำนักสันติบาล จากทั้งหมด 30 เขต ประชาธิปัตย์เข้าวิน 19 ที่นั่ง เพื่อไทยกวาด 11 ที่นั่ง เรียกว่าไม่มีเหลือแบ่งปันพรรคอื่น ไม่ว่าจะเป็นพรรคลุงตู่ พรรคเสี่ยหนู พรรคกำนัน พรรคฟ้ารักพ่อ แห้วรับประทานกันหมด ที่น่าสนใจคือ เขต 26 (บางบอน-หนองแขม) โพลฟันธงว่า "วัน อยู่บำรุง" ลูกชายสุดที่เลิฟของพ่อเหลิม เบียดโค่นแชมป์เก่าตระกูลม่วงศิริของประชาธิปัตย์ ศึกครั้งนี้พ่อเหลิมทุ่มหมดหน้าตัก สำหรับลูกวันก็ถือว่าเป็นนัดล้างตาก็ว่าได้ เพราะเป็นพื้นที่เดียวกันกับเลือกตั้งปี 2554 (เขต 28 เดิม) ครั้งนั้นวันสอบตก แพ้ไปเพียง 1,218 คะแนน โดยได้ 40,588  คะแนน ขณะที่ พ.ต.อ.สามารถ ม่วงศิริ ได้ 41,806 คะแนน ก็เรียกว่าสูสี แต่กว่าจะเลือกตั้งก็อีก 1 เดือน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้านำตลอดจนถึงเส้นชัย ลูกวันก็จะได้เข้าสภาครั้งแรก กู้หน้าพ่อเหลิมที่เที่ยวนี้รับทำหน้าที่ประธานหาเสียงของพรรค แถมเจ้าตัวประกาศทิ้งทวนเป็นสมัยสุดท้ายในชีวิตการเมือง.