ชงนิรโทษฯกัญชา3กลุ่ม 16ตำรับ‘ยาไทย’ใช้ก่อน


เพิ่มเพื่อน    

 คณะกรรมการยาเสพติดผ่านแล้ว กฎหมายลูกนิรโทษฯ ผู้ครอบครองกัญชาในบุคคล 3กลุ่ม พร้อมปรับเพิ่มใช้ประโยชน์จากของกลางแทนทำลายทิ้ง ชง รมว.สาธารณสุขลงนาม คาดประกาศใช้สัปดาห์หน้า ย้ำไม่ถึงขั้นปลูกเสรี และหากจะปลูกเพื่องานวิจัยก็ต้องมีรายละเอียดชัดเจน อนุญาต 16 ตำรับยาไทยที่เข้ากัญชานำมาใช้ได้ก่อน เป็นกลุ่มบำบัดอาการปวดและนอนไม่หลับ

    ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการยาเสพติดให้โทษประชุมพิจารณาร่างอนุบัญญัติเกี่ยวกับกัญชาเพื่อรองรับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 หลังจากนั้น นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างอนุบัญญัติทั้งหมด 6 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษฯ ผู้ครอบครองกัญชา ในบุคคล 3 กลุ่ม คือ กลุ่มหน่วยงานวิจัยภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และผู้ประกอบวิชาชีพ กลุ่มผู้ป่วย และกลุ่มบุคคลอื่น ที่จะต้องมาแจ้งภายใน 90 วัน ซึ่งได้มีการแก้ไขตามที่รับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2562 ดังนั้น วันเดียวกันจะเสนอ รมว.สาธารณสุขลงนามในร่างประกาศ และคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาและบังคับใช้ต่อไปได้
          นพ.ธเรศกล่าวว่า ส่วนอีก 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข การขออนุญาต และการอนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดตำรับยาที่ให้เสพเพื่อรักษาโรคและศึกษาวิจัยได้ และร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้าน ซึ่งก็ได้เห็นชอบเช่นเดียวกัน และให้นำไปรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 26 ก.พ.2562 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์
         ขณะที่ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่สืบค้นได้กว่า 20,000 ตำรับ มีประมาณกว่า 200 ตำรับที่มีกัญชาเข้าสูตร จึงร่วมกับสภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้เชี่ยวชาญมาพิจารณา ก็พบว่าทั้งกว่า 200 ตำรับมีความทับซ้อนกันบ้าง เหลือประมาณ 96 ตำรับ นำมาแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่ม ก. สูตรมีความชัดเจน มีวิธีการปรุงและผสมชัดเจน รวมถึงมีประสิทธิผลในการนำมาใช้ได้ มีจำนวน 16 ตำรับ ซึ่งจะให้นำมาใช้ก่อน โดยจะประกาศลงในร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดตำรับยา ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้รักษากลุ่มอาการปวด นอนไม่หลับ เป็นต้น โดยแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบวิชาชีพทั้งแผนไทยและแผนไทยประยุกต์สามารถนำ 16 ตำรับนี้ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยได้ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย
     นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า กลุ่ม ข. เป็นกลุ่มที่สูตรชัดเจน แต่วิธีการปรุงผสมยังไม่ชัด ต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อนำมาพิจารณาใช้ภายหลัง, กลุ่ม ค. คือสูตรยังไม่ชัดเจน ก็ต้องไปศึกษาวิจัยเพิ่มเติม และกลุ่ม ง. กลุ่มที่ยังติดขัดในข้อกฎหมายอื่นๆ เช่น อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส โดยมีสมุนไพรบางตัว หรือสัตว์บางชนิดที่เข้าสูตรอยู่ 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงร่างประกาศนิรโทษฯ มีการแก้ไขตามที่รับฟังความเห็นอย่างไรบ้าง นพ.ธเรศกล่าวว่า ในส่วนของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงานวิจัยและผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ เดิมทีกำหนดให้ยึดของกลางและนำไปทำลายทิ้ง ก็มีความเห็นว่าถ้าจะให้เป็นประโยชน์กับประเทศ แทนที่จะทำลาย ก็เพิ่มบทบัญญัติว่า กรณีต้องการนำไปใช้ประโยชน์ สามารถขอใช้จากคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ เช่น นำไปวิจัยหาสารสำคัญ ศึกษาสารปนเปื้อน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังให้ผู้ป่วยแจ้งการใช้ต้น ใบ ดอก เพิ่มจากที่เป็นตำรับสำเร็จแล้ว หรือน้ำมันที่สำเร็จแล้ว เพื่อให้กว้างขึ้น ทั้งนี้ ย้ำว่าผู้ป่วยที่มาแจ้งการครอบครอง สามารถแจ้งปริมาณการใช้จำนวนเท่าไรก็ได้ ไม่ได้กำหนดว่าปริมาณการใช้ต้องเป็น 90 วันตามเวลาที่ให้มาแจ้งการครอบครอง อาจแจ้งปริมาณการใช้ตามความจำเป็นมากกว่า 90 วันได้ก็สามารถครอบครองและใช้ต่อได้ เพื่อไม่ให้กระทบการดูแลสุขภาพ
    "แพทย์ที่สามารถใช้กัญชาได้คือแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทยหรือแผนไทยประยุกต์ รวมถึงกลุ่มหมอพื้นบ้าน ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำลังรอระเบียบใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาวิชาชีพแพทย์แผนไทย ถ้าเรียบร้อยจะเสนอ รมว.สาธารณสุขลงนาม โดยหมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยไปแล้วจำนวน 3,000 คน ก็ต้องเข้าสู่ระเบียบใหม่นี้เช่นกัน" นพ.ธเรศระบุ
    ถามว่า ในส่วนของกลุ่มจิตอาสาจะทำให้ถูกต้องได้อย่างไร นพ.ธเรศกล่าวว่า ในทางกฎหมายก็มีช่องที่จะเข้าคือ เป็นหมอพื้นบ้าน ซึ่งจริงๆ ก็ตรงกันเมื่อไปดูตามระเบียบหมอพื้นบ้าน คือทำในพื้นที่ชุมชน ได้รับการยอมรับมาเป็นสิบปี  
       นพ.ธเรศกล่าวด้วยว่า ในการผลิตจะกำหนดไว้ว่า ใครจะผลิตได้บ้าง เช่น หน่วยงานรัฐ แพทย์ มหาวิทยาลัย รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน จะต้องขออนุญาตการผลิตกัญชาจากคณะกรรมการยาเสพติด  และใน 5 ปีแรกจะต้องทำร่วมกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น หากเป็นภาคเอกชนจะต้องเป็นเอกชนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายไทย หากเป็นนิติบุคลลจะต้องมีสัดส่วนการลงทุนที่ 2 ใน 3 ต้องเป็นคนไทยถือครอง เพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะอยู่ในระบบการดูแล
          เมื่อถามว่า ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองหาเสียงโดยชูนโยบายปลูกกัญชาเสรี กฎหมายทำได้แค่ไหน นพ.ธเรศกล่าวว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับใหม่ ระบุว่า ผู้ที่จะได้รับอนุญาต เช่น หน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร หรือวิสาหกิจชุมชน โดยหลักการไม่ได้อนุญาตให้ปลูกเสรี ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรหรือวิสาหกิจชุมชนก็ต้องไปร่วมกับหน่วยงานรัฐในการที่จะปลูก และกฎกระทรวงก็กำหนดไว้ว่า การจะปลูกต้องมีวัตถุประสงค์ในการปลูก เพราะหลักใหญ่คือวิจัยทางการแพทย์ และใช้ในผู้ป่วย ผู้จะขออนุญาตปลูก นอกจากคุณสมบัติตามหน่วยงานที่กำหนดแล้ว หากบอกว่าปลูกเพื่อทำการวิจัย ก็ต้องมีโครงการการวิจัย และไปร่วมกับใครที่ทำการวิจัย เช่น มหาวิทยาลัยอะไร ใช้วิจัยประมาณเท่าไร หรือปลูกเพื่อสกัดเป็นยา ส่งให้แพทย์แผนไทย ก็ต้องมีข้อตกลงจากบริษัทที่จะทำก่อน คล้ายๆ Contract Farming หลักการคือเพื่อให้ปริมาณของกัญชาที่ได้รับอนุญาตเหมาะสมกับทั้งประเทศ เพื่อให้ควบคุมระบบได้ ไม่ออกไปนอกระบบ และไทยยังอยู่ภายใต้สนธิสัญญายาเสพติดระหว่างประเทศ จึงต้องแจ้งโควตาการผลิต การส่งออก การจำหน่าย ให้กับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์
    ด้านท่าทีของพรรคการเมือง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล จะแก้กฎหมายและผลักดันการใช้กัญชาใน 4 แนวทางคือ 1.เพื่อการแพทย์ 2.เพื่อการพาณิชย์ 3.ประชาชนสามารถปลูกได้ 6 ต้นต่อครอบครัว และ 4.ให้แพทย์แผนไทยใช้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ประเทศปีละประมาณ 303,000 ล้านบาท
    ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถึงภาครัฐจะยอมให้กัญชาสามารถนำไปผลิตเป็นยาสำหรับรักษาโรคได้ แต่ยังไม่ยอมให้ประชาชนปลูกได้อย่างเสรี เพราะกฎหมายของรัฐ ใครจะปลูกต้องมีเงินสำหรับซื้อใบอนุญาตถึง 30 ล้านบาท แตกต่างจากนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่จะเปิดโอกาสให้ทุกครัวเรือนสามารถปลูกกัญชาได้คนละ 6 ต้น หาเงินเข้าบ้านได้ปีละกว่า 400,000 บาท เมื่อกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ทุกคนต้องมีโอกาสใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"