มืดฟัามัวดิน!แห่ฟัง'พปชร.'ปราศรัยที่โคราช


เพิ่มเพื่อน    

28 ก.พ.62 - ที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย โดยมีแกนนำพรรค เช่น นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง และนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน สลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ท่ามกลางประชาชนกว่า 10,000 คน 

นายวิรัช ปราศรัยตอนหนึ่งว่า หากพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล จะเสนอให้ชาวนาได้ค่าเก็บเกี่ยวข้าวไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 20 ไร่ นอกจากนี้ยังเพิ่มนโยบายใหม่ คือค่าปลูกข้าว ไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่  รวมทั้งสิ้นชาวนา จะได้เงินทั้งหมดจากค่าปลุก และค่าเก็บเกี่ยว 70,000 บาท  ซึ่งยังไม่รวมกับค่าขายที่ขายให้โรงสี  ขณะเดียวกันพรรคยังมีนโยบายพรรคพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ดังนั้นหากอยากได้นโยบายเหล่านี้ต้องเลือก ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ

ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า สำหรับค่าปลูกข้าว ไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่ ตนเองจะนำเสนอให้ผู้บริหารพรรคทันทีหากกลับไปถึง กทม.เพื่อเป็นนโยบายแก้ปัญหาปากท้องให้ชาวนา  ส่วนนโยบายที่พรรคอยากนำเสนอ คือ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน เป็นระยะเวลา 3 ปี และระหว่างนี้ ก็ตั้งกองทุนใหม่ คือกองทุนประชารัฐ ให้พี่น้องประชาชน ไปกู้เงินมาจับจ่ายใช้สอย ดูแลลูกหลาน และทำมาค้าขาย พร้อมยืนยันว่า หากพรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ก็จะมีทีมเศรษฐกิจ ที่มีความรู้ ความเชียวชาญ เข้าไปทำงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ เมื่อประเทศมีรายได้มากขึ้นหนี้ที่พักไว้ก็อาจจะถุกลบหนี้ได้ นี่คือสิ่งที่ พปชร.ตั้งใจทำ นอกจากนี้สำหรับคนโคราช หากพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล ก็จะสร้างโรงงาน เพื่อให้ลูกหลานคนโคราช กลับมาทำงานที่บ้านเกิด เป็นการสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ ดังนั้นหากเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 14 เขตของโคราช โคราชก็จะเจริญอย่างแน่นอน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า   พปชร.มี แก้ว 3 ดวงในการไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่าง จ.นครราชสีมา เรามีผู้สมัคร อย่างตระกูลรัตนเศรษฐ ที่อยู่มานานและคนโคราชให้ความไว้วางใจ ดังนั้นเรามั่นใจว่า โคราชเราจะได้รับชัยชนะทุกเขต  ดวงที่สอง ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน มีนโยบายที่ตอบโจทย์ภาคประชาชน เรามีสวัสดิการประชารัฐไม่ให้ประชาชนห่วงหน้า พะวงหลัง มีบัตรประชารัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้านและอาจยกหนี้ให้หากเศรษฐกิจดี ต้องมีที่ดินทำกินอย่าง สปก 4.0 สามารถโอนสิทธิ์ จำนอง ได้ นอกจากนี้ ประชาชนต้องมีบ้านอยู่ ตามนโยบายสร้างบ้านล้านหลัง เราดูแลประชาชนตั้งแต่ในครรภ์ ตามนโยบายมารดาประชารัฐ ให้เด็กเกิดมามีคุณภาพที่ดีที่สุด นโยบายของพรรค เรากำลังผลักดันอีสาน 4.0 ผลักดันโคราชเป็นเมืองหลวงอีสาน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงทุนในโครงสร้างพื้นบานทั้งถนนมอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูง เราจึงคัดสรรผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์  มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ  เพราะลุงตู่คือหลานย่าโม หากไม่เลือกคนของเราจะเลือกใคร ดังนั้น 24 มี.ค.ต้องเข้าคูหากาพลังประชารัฐ เราจะเดินหน้าไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 

นายอนุชา กล่าวว่า วันนี้เราจะต้องร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฝันเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ต่อสู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง รัฐบาลปัจจุบันนำโดยพล.อ.ประยุทธ์  เป็นผู้นำพาความสงบและเป็นแสงสว่างให้ประเทศไทย ดังนั้นต่อจากนี้ไป พปชร.  ได้เข้ามามีโอกาสดูแลพี่น้องประชาชนให้กินดีอยู่ดี เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะพี่น้องชาวไร่ ชาวนา หากพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล จะช่วยค่าเกี่ยวข้าว ไร่ละ 2 พันบาท จำนวน 20 ไร่   และค่าปลุก 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่ เพราะพรรคเชื่อว่าหากชาวไร่ ชาวนาไม่มีเงิน อย่าหวังว่าเศรษฐกิจประเทศจะดีขึ้น หากชาวไร่ ชาวนาไม่มีตังค์ พ่อค้าแม่ค้าก็ขายของลำบาก ดังนั้น พปชร.  จะดูแลอย่างดี อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย และหาก 4 ปี ยังทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากไม่ได้ จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เพราะหากเป็นนักกการเมืองแล้วช่วยประชาชนไม่ได้ ก็ไม่เป็นซะดีกว่า วันนี้คนโคราชโชคดีที่มีครอบครัวเก่ง อย่าง รัตนเศรษฐ แต่อยากจะฝากอีกคนไว้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเกิดที่โคราช ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"