แก๊งปฏิปักษ์รบคสช. รวมก๊วนนปช.ตัั้งกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตยปลุก4ภูมิภาค


เพิ่มเพื่อน    

 อดีตนักการเมืองไทยรักษาชาติรวมก๊วนนปช. เมินคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ เซาะกร่อนบ่อนทำลาย เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตั้งกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย ถ่ายโอนเสียงให้ตระกูลเพื่อ ท้ารบ คสช.ทั่ว 4 ภูมิภาค "ณัฐวุฒิ" เชื่อปาฏิหาริย์มีจริงล้มเผด็จการสำเร็จ "แม้ว-ปู" วนเวียนอินโดนีเซีย

    ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส ถนนหลานหลวง เมื่อวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)? ประกอบไปด้วย นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายนิคม ไวยรัชพานิช,  นายพิชัย นริพทะพันธุ์, นายประภัสร์ จงสงวน, นายอุเมส ปานเดย์ และนายพชร ธรรมมล ร่วมแถลงแนวทางทางการเมือง 
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า ตั้งใจสื่อสารชี้แจงถึงสิ่งที่เราจะทำต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมามีความตั้งใจทำให้ ทษช.เป็นพรรคที่ทำหน้าที่ทำให้เกิดประชาธิปไตยในบ้านเมือง และหวังว่าช่วยหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ?และเผด็จการ และส่งเสริมตั้งรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งตนรู้สึกเสียดายพรรคที่ ทษช.ถูกยุบและยุติบทบาทของกรรมการบริหารพรรค 
    ส่วน ส.ส.แบ่งเขตและบัญชีรายชื่อทั้งหมดต้องหยุดสถานะสมาชิกพรรค ดังนั้นจึงเหลือสถานะประชาชนและนักการเมือง แต่ยังมีสิทธิ์เสียงฐานะประชาชน หากจะไปสมัครสมาชิกพรรคและหาเสียงตามที่ กกต.กำหนด
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะมีบทบาทอย่างไรให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ดังนั้นตนและสมาชิกส่วนหนึ่งจึงมีความเห็นว่า เมื่อมีเจตนารมณ์ชัดเจนทางการเมืองตั้งแต่ต้น แม้ไม่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจะดำรงจุดหมาย และจะแสวงหาบทบาททางการเมืองตามจุดมุ่งหมายเดิม โดยจะเปิดเวทีสื่อสารกับประชาชน เพื่อจะใช้สิทธิ์แสดงความเห็นทางการเมือง ได้ร่วมกันทำภารกิจสำคัญตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งทำกิจกรรมภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ 
    ส่วนมีเสียงเรียกร้องไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ นั้น ต้องประเมินต่อไป และต้องศึกษากฎกติกาของ กกต. ยืนยันว่าทำงานเต็มที่ และไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ โดยคำนึงถึงสถานการณ์และความจำเป็น
    "การโอนคะแนนไปยังพรรคอื่นๆ นั้น ไม่ได้สามารถทำกันง่ายๆ เพราะต้องขึ้นอยู่กับประชาชน ยืนยันอดีตผู้สมัครไทยรักษาชาติในเขตต่างๆ อาจจะเชิญชวนสนับสนุนพรรคการเมืองรายใดรายหนึ่ง จึงขึ้นอยู่ดุลยพินิจและการตัดสินใจเป็นของประชาชน" 
    นายจาตุรนต์ขอไม่แสดงความเห็นว่าการยุบพรรคครั้งนี้จะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ในการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งไม่ขอตอบว่าเหตุการณ์ยุบพรรคในครั้งนี้จะกลายเป็นเกมทางการเมืองหรือไม่ อีกทั้งไม่รู้สึกเสียดายใดๆ ที่ได้ตัดสินใจทางการเมืองในเส้นทางนี้
ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย
    เขายืนยันขณะนี้ไม่มีประสานแกนนำพรรค และอาจจะมีประสานผู้สมัครพรรคไปร่วมกับพรรคอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เชื่อว่าโค้งสุดท้ายพรรคการเมืองฝ่ายต่อต้านเผด็จการจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครคนอื่นๆ จะไปพรรคไหนก็ไม่สามารถบังคับได้ แต่เชื่อมั่นว่าผู้สมัครทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน
    ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า แม้เส้นทางในสนามเลือกตั้งยุติลงแล้ว แต่เส้นทางต่อต้านรัฐประหารและนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศยังไม่ยุติ และต้องเดินหน้าต่อไป และต้องทำภารกิจร่วมกัน ยืนยันภารกิจครั้งนี้ไม่รวมตัวกลุ่มบุคคล แต่รวมกลุ่มภารกิจ เพื่อทำภารกิจที่ชื่อว่า “ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งการจัดเวทีเป็นกิจกรรมทางการเมือง คาดว่าจะจัด 4 เวที 4 ภูมิภาค 
    ส่วนจะจัดเวทีเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนและการสนับสนุน ยืนยันเคารพจิตวิญญาณและความคิดของอดีตสมาชิกพรรคทุกคน แต่พวกเราเห็นว่าจะต้องเดินหน้าทันที ส่วนกำหนดการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หากหลังจากวันนี้มีเหตุผลความจำเป็นต้องปรับรูปแบบภารกิจสอดคล้องสถานการณ์จะต้องหารือและดำเนินการร่วมกัน หวังว่าประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรค ทษช.จะตอบรับภารกิจนี้ และเดินหน้าพร้อมประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองระบอบประชาธิปไตย
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เบื้องต้นจะไม่มีรณรงค์โหวตโน เชื่อว่าคะแนนประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เอาชนะกติกาฝ่ายเผด็จการได้ เชื่อว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และย้ำว่าเราไม่มีพรรคสาขาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องดูหลักการที่ไม่สนับสนุนสืบทอดอำนาจ และไม่เอาพรรคการเมืองสนับสนุนสืบทอดอำนาจหรือแทงกั๊กทั้งสิ้น
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่อดีตนักการเมืองพรรคไทยรักษาชาติอ้างว่าจัดกิจกรรมต่อไปเพื่อ ประชาธิปไตย ไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจ ขณะที่คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานั้น ระบุเอาไว้ชัดเจน พรรคไทยรักษาชาติกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  
    ทั้งนี้ คำพิพากษาบางตอนสะท้อนให้เห็นว่าพรรคไทยรักษาชาติทำในทางตรงข้ามกับประชาธิปไตย เช่น
 "จะส่งผลให้ระบอบการเมือง การปกครองของประเทศไทยแปรเปลี่ยนไปสู่สภาพการณ์อันเดียวกับระบอบการเมืองที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของรัฐ และมีพระบรมวงศานุวงศ์ทำหน้าที่ใช้อำนาจทางการเมืองในการปกครองประเทศ สภาพการณ์เช่นนี้ย่อมมีผลให้หลักการพื้นฐานของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย ที่ถือว่าพระมหากษัตริย์ทรงราชย์ แต่มิได้ทรงปกครอง ต้องถูกเซาะกร่อน ทำลาย บ่อนทำลายให้เสื่อมทรามไปโดยปริยาย" 
เซาะกร่อนบ่อนทำลาย 
    “ผู้ถูกร้องมีหลักฐานชัดเจนว่าได้กระทำไปโดยรู้สำนึก และโดยสมัครใจอย่างแท้จริง ซึ่ง กก.บห.พรรค ทษช.ย่อมทราบดีว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว แต่ยังดำรงในฐานะที่เป็นสมาชิกแห่งพระบรมจักรีวงศ์ การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์เป็นฝักใฝ่ในทางการเมือง ทั้งยังเป็นการกระทำที่วิญญูชนและคนไทยทั่วไปย่อมรู้สึกได้ว่า สามารถทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยที่เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติต้องถูกนำมาใช้เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองอย่างแยบยล ให้ปรากฏผลเหมือนเป็นฝักใฝ่ทางการเมือง 
    และมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงหลักการพื้นฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียสถานะที่จะต้องอยู่เหนือการเมือง และดำรงความเป็นกลางในการเมือง อันเป็นจุดประสงค์เริ่มต้นของการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรมเสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง เข้าลักษณะของการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรค 1 (2) อย่างชัดแจ้งแล้ว จึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองผู้ถูกร้อง ตามมาตรา 92 วรรค 2”"
    วันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์รูปภาพคู่นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ Yingluck Shinawatra ระบุว่า "วันนี้มาทานกาแฟตอนเช้ากับพี่ชายที่อินโดนีเซีย ก็ยังคุยกันเลยว่า การแข่งขันขณะนี้สูง วิธีการค้าขายก็ยังเปลี่ยนไป 
    แม้กระทั่งร้านกาแฟก็ยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอความคิดที่แตกต่าง เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจ จึงอยากโพสต์รูปภาพให้แฟนเพจได้เห็นกันว่า ถ้วยกาแฟที่ร้านนี้ทำลักษณะคล้ายถ้วยดินเผาบ้านเรา แต่จริงๆ ทำด้วยคุกกี้และเคลือบด้วยช็อกโกแลตด้านในถ้วยเพื่อให้ใส่กาแฟด้านในได้โดยที่คุกกี้ไม่ละลาย แถมด้วยมาร์ชเมลโล่สำหรับคนที่ชอบทานหวาน และนี่คือหนึ่งในตัวอย่างของเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ค่ะ"
    สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเมืองปัจจุบันมีเพียง 2 ขั้ว คือขั้วที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในการต่อท่ออำนาจ แม้จะมีบางพรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยังไม่ประกาศตัว จึงถือว่าอยู่ใน 2 ขั้วอำนาจด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าคะแนนในส่วนดังกล่าวจะยังอยู่ที่ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ 
"มาร์ค"เตือนอย่าจุดไฟ
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ธรรมชาติของคนที่ตั้งใจเลือกไทยรักษาชาติ อาจจะไม่มองพรรคประชาธิปัตย์มากนัก จึงไม่ได้เจาะจงไปที่กลุ่มคะแนนเสียงของไทยรักษาชาติอย่างเดียว แต่ก็อยากจะให้ดูนโยบายของทุกพรรค และนำมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะตัดสินใจ จากผลการสำรวจบอกว่ายังมีคนไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใดก็เยอะ คนที่เลือกตอบว่าจะเลือกพรรคไหนแล้วยังมีโอกาสเปลี่ยนใจก็เยอะ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแข่งขันกันสูงมาก 
    "สถานการณ์การเมืองก็ทำให้มีความรู้สึกสับสนอยู่บ่อยๆ เมื่อเข้าสู่สัปดาห์สุดท้าย พบว่า การตกผลึกทางความคิดก็จะมี ผมยังยืนยันหากฝากอนาคตไว้กับประชาธิปัตย์ มั่นใจได้เลยว่าเศรษฐกิจจะฟื้นโดยเร็ว เพราะมีนโยบายที่เป็นรูปธรรม และไม่ให้การเมืองกลับมาวนอยู่ตรงนี้"
    เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบไทยรักษาชาติ จะทำให้บรรยากาศก่อนเลือกตั้งมีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ดูจากสถานการณ์ขนาดนี้ ไม่น่าจะมีอะไร
    “ผมยังเป็นห่วงว่าขณะนี้มีการดำเนินการทางกฎหมาย และอาจบานปลายไปสู่ความขัดแย้งได้ถ้าไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ผมอยากให้พรรคการเมืองเวลาหาเสียง อย่าไปจุดประเด็นขัดแย้งที่ไปเกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นๆ ทั้งกองทัพ หรือหน่วยงานของรัฐใดๆ อย่าไปสร้างบรรยากาศความขัดแย้ง เพราะอาจบานปลายจนสุดท้ายประชาธิปไตยจะเดินไม่ได้"
    ส่วนกรณีที่หลายคนเป็นห่วงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อาจจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่าทำอะไรให้เกิดความขัดแย้งกัน เพราะประชาชนมีความคาดหวังกันอยู่ว่าจะได้เลือกตั้ง และหวังว่าจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ผมยังมั่นใจว่า 24 มีนาคมยังมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
    ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้กองทัพอย่างดุเดือดว่า วันที่ 8 มี.ค.62 กองทัพภาคที่ 1 ได้ขึ้นภาพจอ LED ข้อความว่า “ถ้าไม่มีปฏิวัติครั้งที่แล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีมาจากนักการเมือง ผมก็ไม่ได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”
          ข้อความดังกล่าวเป็นการบิดเบือน ส่อเจตนาใส่ร้ายป้ายสี เพราะเป็นการตัดตอนเอาคำพูดเพียงบางช่วงมาสื่อให้เกิดการเข้าใจผิดว่าได้รับตำแหน่ง “เพราะจากการปฏิวัติ”
          แต่เนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญต่อจากนั้นคือ “เพราะว่านายกรัฐมนตรีชื่อสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นองคมนตรี จะมีคุณธรรมมากกว่านักการเมือง” ความหมายคือ “เพราะผู้ปกครองที่มีคุณธรรม”
    นายธีระพงษ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ทั้งโลกตะลึงกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ  ตนน้อมรับในคำตัดสินของศาล แต่พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลกระทบในความรู้สึกของประชาชน 13 ปี ที่ผ่านมา ฝ่ายเผด็จการที่อยากแย่งอำนาจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศทำการรัฐประหารแย่งชิงอำนาจ 2 ครั้ง ยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ประชาชนสนับสนุนมา 3 พรรค เฉลี่ย 4 ปียุบ 1 ครั้ง แต่การรัฐประหารและการยุบพรรค 2 ครั้งที่ผ่านมาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประชาชน 2 ฝ่ายได้สำเร็จ เพราะวิธีการที่เผด็จการทำเป็นวิธีการที่เหมาะกับยุคอุตสาหกรรม ไม่เหมาะกับยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบัน 
     นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ไม่มีการยกหู ไม่มีแกนนำของพรรคอนาคตใหม่คนไหนโทร.ไปคุยเรื่องขอคะแนนจากพรรคไทยรักษาชาติอย่างแน่นอนตามที่แหล่งข่าวอ้าง เราไม่ทราบว่าแหล่งข่าวคนนี้เป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรกับการปล่อยข่าวในลักษณะดังกล่าว พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของประชาชน ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของเสียงของตัวเอง มีเจตจำนงเสรีในการเลือก ไม่มีใครสามารถบังคับซ้ายหันขวาหันให้ไปเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ได้อย่างแน่นอน 
    แต่ที่แน่ๆ ที่เรารู้และยืนยันได้นั่นก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการความเปลี่ยนแปลง และต้องการใช้เสียงของพวกเขาผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ เพื่อ 1.ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2.ยุติวงจรรัฐประหาร และ 3.ยุติการเมืองแบบเก่า ซึ่งเป็นการเมืองแห่งความกลัว การเมืองที่ใส่ร้ายป้ายสีปล่อยข่าวทำลายกัน และเราจะเริ่มสร้างการเมืองแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ เป็นการเมืองแห่งความหวัง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"