เกิดเหตุมือปืนบุกเข้าไปกราดยิงภายในมัสยิด 2 แห่งบนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ระหว่างที่ชาวมุสลิมมาทำพิธีละหมาดวันศุกร์กันอย่างเนืองแน่น ฆ่าเหยื่ออย่างน้อย 49 ราย เผยนักกีฬาคริกเก็ตทีมชาติบังกลาเทศรอดตายหวุดหวิดจากมัสยิดที่เกิดเหตุ นายกฯ จาซินดา อาร์เดิร์น ระบุเป็นวันอันมืดมนที่สุดอีกวันหนึ่งของนิวซีแลนด์

ภาพจากทีวีนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2562 เผยภาพตำรวจติดอาวุธที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งภายหลังเหตุกราดยิงในมัสยิดที่เมืองไครสต์เชิร์ช / AFP

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2562 อ้างคำกล่าวของตำรวจและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หลายรายว่า เห็นร่างผู้เสียชีวิตหลายศพที่มีเด็กๆ ปนอยู่ด้วย ตำรวจนิวซีแลนด์เตือนด้วยว่า มีวิดีโอที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และขอประชาชนอย่าได้แชร์ลิงค์ของคลิปนี้

    เอเอฟพีกล่าวว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวชาย 3 คน และหญิง 1 คนไว้ และพบระเบิดแสวงเครื่องจำนวนหนึ่งโดยได้ทำลายทิ้งแล้ว ตำรวจยังได้ปิดเมืองไครสต์เชิร์ชทั้งเมืองและปิดโรงเรียนทุกแห่ง ระหว่างที่สถานการณ์ยังไม่ยุติ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่บนท้องถนน ทั้งยังเตือนชาวมุสลิมทั่วประเทศให้ยกเลิกการเดินทางไปมัสยิดทุกแห่งในนิวซีแลนด์เพื่อทำละหมาดวันศุกร์ นอกจากนี้ การแข่งขันระหว่างทีมคริกเก็ตบังกลาเทศกับทีมชาตินิวซีแลนด์ก็ถูกยกเลิกแล้วด้วย

    โฆษกรายหนึ่งกล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่นักกีฬาจำนวนหนึ่งลงจากรถบัสของทีมแล้วและเตรียมจะเข้าไปภายในมัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ชแห่งนี้ แต่ทุกคนปลอดภัย แม้จะมีอาการตกใจ สมาชิกในทีมคริกเก็ตถูกขอให้กลับไปอยู่แต่ภายในโรงแรม

    วิดีโอคลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งน่าจะถ่ายโดยมือปืนคนหนึ่งและโพสต์สดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เผยภาพที่ชายผิวขาวใบหน้าเกลี้ยงเกลาผมสั้นขับรถมาที่มัสยิดแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เดินเข้าไปแล้วเปิดฉากยิงสุ่มใส่ผู้คนที่อยู่ภายใน ที่พื้นมัสยิดมีร่างของคนตายหรือไม่ก็บาดเจ็บนอนอยู่

ผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล / AFP

    นายกฯ อาร์เดิร์นแถลงว่า เธอยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้ แต่ชัดเจนว่าวันนี้เป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดของนิวซีแลนด์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการใช้ความรุนแรงที่ผิดธรรมดาและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต่อมาเธอระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้ายที่วางแผนมาอย่างดี โดยมือปืนรายนี้เป็นชายชาวออสเตรเลียที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าจับตาของนิวซีแลนด์

    เวลาต่อมา ไมค์ บุช ผู้บัญชาการตำรวจนิวซีแลนด์ สรุปว่า มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 49 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 20 ราย โดยเหยื่อ 41 รายถูกฆ่าตายที่มัสยิดอัลนูร์ อีก 7 รายเสียชีวิตที่มัสยิดอีกแห่ง โดย 3 รายโดนฆ่าตายที่ด้านนอกอาคาร เหยื่อที่เหลืออีก 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเปิดเผยด้วยว่าผู้ตายมีเด็กๆ รวมอยู่ด้วย

    เหตุการณ์กราดยิงสังหารหมู่ปรากฏไม่บ่อยครั้งนักในนิวซีแลนด์ ซึ่งออกกฎหมายจำกัดการครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเมื่อปี 2535 หรือ 2 ปีหลังเกิดเหตุชายจิตฟั่นเฟือนยิงคนตาย 13 คนที่เมืองอาราโมนาบนเกาะใต้.