23 มี.ค.62 - ที่สนามเทพหัสดิน สนามกีฬาแห่งชาติ(ช่วงค่ำวานนี้) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค. “เปิดใจประชารัฐ รวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” มีผู้บริหารและแกนนำพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์

โดยก่อนเริ่มปราศรัย นายอุตตม เดินตรวจความเรียบร้อยของเวทีปราศรัย และเวทีขนาดเล็กกลางสนาม ซึ่งจะเป็นจุดไฮไลท์ที่จะให้แกนนำปรากฎตัวและพูดคุยกับประชาชนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบริเวณโดยรอบสนาม ซึ่งพรรคได้จัดเก้าอี้ไว้รองรับประมาณ 15,000 คน ขณะที่การรักษาปลอดภัยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน ดูแลความเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ตรวจวัตถุต้องสงสัย ขณะที่ด้านหลังเวทีมีส่วนล่วงหน้าทีม รปภ. ดูแลความปลอดภัยเข้ามาดูโดยรอบพื้นที่ สนามเทพหัสดินตั้งแต่ช่วงบ่าย

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรค ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในกทม.ของพรรค กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอให้ประชาชนคิดอย่างรอบคอบว่าต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ไม่ควรเลือกเอาสนุกตามกระแส เราจะฝากอนาคตลูกหลานไว้กับใคร บางคนอาจลืมไปแล้วว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา กทม.เกิดอะไรขึ้น มีการสุมไฟก่อจราจล ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.เข้ามา ก็ไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีก ถามว่าเราอยากให้ลูกหลานมีความเสี่ยงอีกหรือ เราอยากให้คนกทม.ปลอดภัย สงบสุข ซึ่งก่อนหน้านี้สองพรรคใหญ่ผลัดกันเป็นรัฐบาลแล้วสร้างความวุ่นวายให้ประเทศไทย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เอาเปรียบใคร เราเดินหาเสียงเหมือนกับทุกพรรค และได้กำลังใจอย่างดีจากประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้แตกต่างจากแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่น ที่ผ่านมามีแต่การสร้างวาทกรรมว่าเราสืบทอดอำนาจ เอาเปรียบพรรคอื่น เพราะพรรคอื่นกลัวแพ้เลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าพรรคเราจะปักธงในกทม.ได้แน่นอน 

“ใครก็ตามที่คิดทำร้ายประเทศไทยคุณเจอกับพวกเราทุกที่ ทุกเวลา ขอให้พวกเรามารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำเพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของพวกเรา ตอนนี้มี 2 พรรคการเมืองกำลังปราศรัย โดยพรรคแม่ใช้สนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง และพรรคลูกใช้สนามกีฬาเวศน์ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไปอยู่ด้วยกัน ทำไมไม่มาใช้เวทีที่นี้ด้วยกัน กลัวอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ หรือจะบอกว่าจัดข้างๆกันเมื่อถึงเวลาเช็คบิลจะได้เช็คกับนายใหญ่คนเดียว ส่วนพรรคเรายืนยันไม่มีนายใหญ่ ไม่มีนายทุน และไม่มีเจ้าของ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกของประเทศ ที่จะนำพาประเทศก้าวไปสู่อนาคต

จากนั้นเวลา 19.45 น. นายอุตตมได้ประกาศบนเวทีต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยตะโกนว่า "ลุงตู่สู้ๆ" ดังลั่นสนามฯ พร้อมกับเปิดเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาพูดบนเวทีประมาณ 5 นาทีก่อนที่จะเดินทางกลับทันที พร้อมกับเปิดเพลง จับมือไว้ โดยมีแกนนำเดินไปส่งขึ้นรถ และจบการปราศรัยทันทีในเวลา 20.00 น.