ไขความลับ! รถไฟญี่ปุ่นทำไมถึงเป๊ะปัง และไทยจะเอาอะไรมาปรับใช้ได้บ้าง


เพิ่มเพื่อน    

ถ้าถามถึงประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบรถไฟดีสุดในโลก หลายคนต้องนึกถึง “ญี่ปุ่น” ทันที ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหัวจรวดชินคันเซ็นสุดล้ำ รถไฟท้องถิ่นสุดเป๊ะ หรือแม้แต่รถไฟในเมืองก็ยังตรงเวลาแบบหาใครเทียบยาก ถ้ามีประกวด “ระบบขนส่งที่เป๊ะสุดในจักรวาล” ญี่ปุ่นน่าจะได้ถ้วยไปนอนกอดก่อนใคร

เอาเข้าจริง ใครที่เคยนั่งรถไฟในญี่ปุ่นคงเคยสงสัยว่า เขาทำได้ยังไงนะ ถึงวิ่งฉิวๆ ไม่มีเลท ขบวนสะอาด คนแน่นก็ยังไม่วุ่นวายเลย วันนี้จะพาเจาะลึกให้เห็นภาพ พร้อมชวนคอเดินทางไทยว่ามีอะไรบ้างที่เราน่าหยิบมาปรับใช้กับโปรเจกต์รถไฟบ้านเรา — แถมใครที่ชอบหาความตื่นเต้นระหว่างเดินทาง ลองแวะเข้าไปสนุกกับ 12bet ทางเข้าเว็บเดิมพันออนไลน์ที่ตอบโจทย์สายกีฬาและคนชอบเกมออนไลน์ บอกเลยว่าสะดวก คลายเบื่อได้ทุกที่!

ทำไมรถไฟญี่ปุ่นถึงเทพขนาดนี้? เคล็ดลับที่หลายประเทศยังไล่ไม่ทัน

ก่อนจะไปถึงลิสต์หลักๆ อยากชวนทุกคนลองนึกบรรยากาศสถานีรถไฟญี่ปุ่นกันก่อน: คนแน่นแต่เป็นระเบียบ รถไฟเข้าตรงตามเวลาเป๊ะ ฝนตก หิมะมา ก็ยังไม่ค่อยเห็นรถไฟดีเลย์มากนัก เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วยแน่ๆ แต่เป็นเพราะระบบคิดมาดีและวัฒนธรรมที่สร้างกันมานาน

มาเจาะกันเลยว่า อะไรคือหัวใจของรถไฟญี่ปุ่น!

● ตรงเวลาสุดชีวิต: ถ้าในไทย “5 นาทีเอง เดี๋ยวรถไฟมาก็รอไปก่อน” ที่ญี่ปุ่นขบวนไหนเลทเกิน 1-2 นาทีถือว่า “ขอโทษนะครับ” กันยกใหญ่ ระบบการวางตารางเวลาถูกคิดมาอย่างละเอียด พนักงานแต่ละตำแหน่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองแบบไม่มีพลาด

● เทคโนโลยีสุดล้ำ: ญี่ปุ่นบุกเบิกชินคันเซ็นมาตั้งแต่ปี 1964 แล้วก็ไม่เคยหยุดพัฒนา ทั้งระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือน ระบบหยุดฉุกเฉินเมื่อเจอแผ่นดินไหว ยันเทคโนโลยีตรวจสภาพรางทุกคืน

● งานบำรุงดูแลคือหัวใจ: ขบวนไหนจอดปุ๊บ มีทีมช่างมาตรวจทันที ตั้งแต่ล้อ ราง เบรค ยันอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้เช้าต่อไปไม่เกิดปัญหา

● วินัยแบบญี่ปุ่น: ถ้าใครเคยไปต่อแถวขึ้นรถไฟที่โตเกียวจะรู้ว่า ไม่มีเบียด ไม่มีผลัก ไม่โวยวาย ผู้โดยสารเองก็ต่างช่วยกันรักษากฎ ไม่ว่าคนจะแน่นแค่ไหน

ไทยจะเอาอะไรจากญี่ปุ่นมาใช้กับรถไฟบ้านเราได้บ้าง?

ช่วงหลังๆ ไทยก็เริ่มสนใจรถไฟมากขึ้น มีทั้งโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงหลายเส้นทาง ว่ากันตรงๆ ถ้าอยากยกระดับระบบขนส่งบ้านเราให้น่าใช้เหมือนญี่ปุ่น ก็ต้องกล้าปรับวิธีคิดหลายด้านเหมือนกัน ลองดูว่าจริงๆ แล้วไทยน่าจะทำอะไรได้บ้าง

ก่อนเข้าใจเรื่องนี้ อยากชวนให้คิดว่าการพัฒนาไม่ใช่แค่สร้างรางใหม่ หรือเอาเทคโนโลยีมา แต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดตั้งแต่ระบบจนถึงคน

● บำรุงรักษาให้เข้ม: แค่สร้างใหม่แต่ไม่ดูแล ก็พังไว รถไฟญี่ปุ่นเขาตรวจสภาพและซ่อมแซมทุกคืน ไทยควรมีทีมช่างเฉพาะทาง และงบประมาณดูแลระบบให้เดินหน้าเต็มร้อย

● ฝึกพนักงานให้มืออาชีพ: วินัย ความรับผิดชอบ และการเทรนพนักงานที่เข้มข้นจะทำให้บริการเป๊ะขึ้น พนักงานไทยเก่งอยู่แล้ว แต่ถ้าได้รับการพัฒนาสไตล์ญี่ปุ่น รับรองเป๊ะ

● เน้นออกแบบสถานีให้ผู้โดยสารใช้ง่าย: สถานีต้องอ่านป้ายง่าย มีพื้นที่รองรับคนเดินทางเยอะๆ และมีระบบจำหน่ายตั๋วที่ทันสมัย

● เส้นทางไหนต้องเริ่มก่อน? กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-อีสาน (เช่น หนองคาย) คือเส้นทางที่ควรเร่งพัฒนา เพราะเชื่อมทั้งท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาคใหญ่ ช่วยลดรถติด เพิ่มโอกาสธุรกิจในภูมิภาค

รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง จะยกระดับไทยได้แค่ไหน?

ถ้าเอาจริง ไทยมีศักยภาพมาก ถ้ารถไฟทางคู่และความเร็วสูงเกิดเต็มระบบจะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง กระจายความเจริญจากเมืองหลวงไปต่างจังหวัด และทำให้การเดินทางไปไหนในไทยง่ายกว่าที่เคย แถมยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศด้วย

แต่สิ่งสำคัญคือต้องตั้งมาตรฐานสูงและไม่ลดทอนเรื่องคุณภาพ พอระบบดี คนก็กล้าเลือกใช้ แล้วมันก็จะเป็นวงจรที่พัฒนาได้อย่างยั่งยืน

สรุปส่งท้าย

ญี่ปุ่นสร้างระบบรถไฟที่ “ใครๆ ก็อยากก๊อป” ได้เพราะทั้งเทคโนโลยี วัฒนธรรม และความใส่ใจในรายละเอียด ถ้าไทยกล้านำจุดเด่นเหล่านี้มาปรับใช้ ตั้งแต่การดูแลรถไฟ พัฒนาคน ไปจนถึงการออกแบบเส้นทางสำคัญ รับรองว่าอนาคตระบบขนส่งสาธารณะของบ้านเราจะเปลี่ยนไปแบบก้าวกระโดด

ลองคิดดูสิ... หากในอนาคตคุณนั่งรถไฟหัวจรวดจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่แบบสบายๆ พร้อมดูหนัง ฟังเพลง หรือหาเกมสนุกๆ เล่นระหว่างทาง (อย่างที่หลายคนชอบใช้เวลาเล่นกับ 12bet) มันคงจะเป็นประสบการณ์เดินทางที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ของคนไทยในยุคใหม่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"