ปูดเกาหลีเหนือโขกค่ารักษา 'วอร์มเบียร์' จากสหรัฐกว่า 60 ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

เกาหลีเหนือเรียกร้องให้สหรัฐจ่ายเงิน 2 ล้านดอลลาร์เป็นค่ารักษาพยาบาล "ออตโต วอร์มเบียร์" นักศึกษาอเมริกันที่ป่วยโคม่าในคุกเกาหลีเหนือและถูกส่งกลับไปตายที่สหรัฐ ขณะทำเนียบขาวไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ

แฟ้มภาพ เฟร็ดและซินดี วอร์มเบียร์ พ่อ-แม่ของออตโต วอร์มเบียร์ แถลงข่าวที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 / AFP

    รายงานของวอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน อ้างแหล่งข่าวหลายรายที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งถูกบังคับให้ต้องลงนามหนังสือยินยอมชำระค่าบริการทางการแพทย์จำนวน 2 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 64 ล้านบาท) ก่อน เกาหลีเหนือจึงจะยอมให้สหรัฐนำตัววอร์มเบียออกจากเปียงยางเมื่อวันที่ 2560 รายงานของโพสต์ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ผู้นี้ลงนามหนังสือยินยอมไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐได้จ่ายเงินค่ารักษาก้อนดังกล่าวแล้วหรือไม่

    เอเอฟพีกล่าวว่า นักศึกษาหนุ่มจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียรายนี้โดนคุมขังภายหลังถูกกล่าวหาว่าฉีกแผ่นป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่ติดไว้ภายในโรงแรมที่เขาเข้าพักระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาหลีเหนือ ภายหลังเดินทางกลับถึงสหรัฐด้วยอาการโคม่า คณะแพทย์กล่าวกันว่า วอร์มเบียร์ได้รับความกระทบกระเทือนที่สมองระหว่างโดนคุมขังในเกาหลีเหนือ เขาเสียชีวิตภายหลังกลับมาตุภูมิได้ไม่กี่วัน

    รัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวอ้างของครอบครัววอร์มเบียร์ว่าชายหนุ่มโดนเกาหลีเหนือทารุณทรมาน แต่บอกว่าเขามีอาการติดเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการเป็นพิษ ขณะที่เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ที่ชันสูตรศพของวอร์มเบียร์กล่าวว่า พวกตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับชายหนุ่ม

    ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวให้ทัศนะเกี่ยวกับรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์เพียงว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ให้ทัศนะเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเรื่องตัวประกัน ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้การเจรจาประสบความสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้

    ทรัมป์ให้ความสำคัญกับการสานสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในนโยบายขึ้นชื่อของเขา และได้จัดการประชุมสุดยอดกับคิม จองอึน มาแล้ว 2 รอบ หนล่าสุดคือที่กรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ที่นั่นทรัมป์กล่าวว่า ตนยอมเชื่อคำกล่าวอ้างของคิมที่บอกว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวอร์มเบียร์ในคุก ทั้งที่คดีนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากเป็นพิเศษ

    มีรายงานด้วยว่า ระหว่างเยือนรัสเซีย คิมได้กล่าวถึงการประชุมที่ฮานอยซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลว โดยสำนักข่าวเคซีเอ็นเอเผยว่า คิมกล่าวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าสหรัฐมีทัศนคติที่ไม่บริสุทธิ์ใจ "สันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีล้วนขึ้นอยู่กับทัศนคติในอนาคตของสหรัฐ และเกาหลีเหนือจะเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ทุกอย่าง" สื่อของทางการเปียงยางอ้างคำกล่าวของคิม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"