กองทัพเกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธที่เชื่อว่าปล่อยจากเรือดำน้ำมาตกในทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันอังคาร ขณะนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นงดหาเสียงรุดกลับโตเกียว กองทัพสหรัฐประณามแต่ย้ำไม่เป็นอันตรายคุกคามสหรัฐและพันธมิตร

แฟ้มภาพ ข่าวโทรทัศน์เกาหลีใต้แพร่แฟ้มภาพการทดสอบจรวดของเกาหลีเหนือที่เชื่อว่าเป็นเอสแอลบีเอ็ม เมื่อเดือนตุลาคม 2562 (Getty Images)

    รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า การทดสอบอาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดในวันเดียวกับที่แอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ มาเยือนกรุงโซล เพื่อประชุมร่วมกับผู้อำนวยการข่าวกรองของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และเกิดขึ้นคล้อยหลังทูตของสหรัฐและเกาหลีใต้พบกันที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ เพื่อหารือเรื่องการเจรจานิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่ชะงักงัน โดยซอง คิม ผู้แทนของสหรัฐ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วย

    คำแถลงของคณะเสนาธิการทหารร่วม (เจซีเอส) ของเกาหลีใต้กล่าวว่า "ขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่สงสัยว่าเป็นขีปนาวุธชนิดยิงจากเรือดำน้ำ (เอสแอลบีเอ็ม)" ถูกยิงจากทะเลนอกชายฝั่งเมืองซินโป ทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี เมื่อเวลาประมาณ 10.17 น.ของวันอังคาร

    ยังไม่ชัดเจนว่า ขีปนาวุธลูกนี้ถูกปล่อยจากเรือดำน้ำหรือจากเรือทดสอบใต้น้ำ แถลงการณ์ของเจซีเอสกล่าวว่า ข่าวกรองของเกาหลีใต้และสหรัฐกำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม

    เมืองนี้เป็นที่ตั้งของอู่ต่อเรือของกองทัพเรือเกาหลีเหนือ โดยภาพถ่ายดาวเทียมก่อนหน้านี้เผยให้เห็นเรือดำน้ำหลายลำที่นี่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าขีปนาวุธลูกนี้ถูกปล่อยจากเรือดำน้ำหรือจากเรือทดสอบใต้น้ำ แถลงการณ์ของเจซีเอสกล่าวว่า ข่าวกรองของเกาหลีใต้และสหรัฐกำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม

    ด้านนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวว่า ญี่ปุ่นตรวจพบการยิงขีปนาวุธ 2 ลูก และว่า "น่าเสียใจ" ที่เกาหลีเหนือทดสอบมิสไซล์หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ เขาตัดสินใจยกเลิกกำหนดการหาเสียงในภาคเหนือ โดยรองรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เผยว่า คิชิดะกำลังเดินทางกลับกรุงโซลเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้  

    ไม่มีคำชี้แจงจากเจซีเอสว่าเหตุใดข้อมูลจำนวนมิสไซล์จึงไม่ตรงกับของญี่ปุ่น

    กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐประณามการยิงมิสไซล์ของเกาหลีเหนือมาตกในทะเลญี่ปุ่นครั้งล่าสุดนี้ และเรียกร้องเกาหลีเหนือละเว้นจากการกระทำที่ทำลายเสถียรภาพเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี กองทัพสหรัฐยืนยันว่า มิสไซล์เกาหลีเหนือไม่ได้เป็นภัยคุกคามจวนตัวต่อบุคลากรและดินแดนของสหรัฐหรือของชาติพันธมิตร

    แหล่งข่าวทางทหารเผยกับรอยเตอร์ว่า มิสไซล์ลูกนี้ร่อนไกล 430-450 กิโลเมตร และขึ้นถึงระดับสูงสุด 60 กม.

    ครั้งสุดท้ายที่เกาหลีเหนือทดสอบเอสแอลบีเอ็มคือเมื่อเดือนตุลาคม 2562 โดยยิงมิสไซล์พุกกุกซอง-3 จากแพลตฟอร์มใต้น้ำ มิสไซล์ร่อนไกล 450 กม. ทำระยะสูงสุด 910 กม.

    เกาหลีเหนือเคยนำมิสไซล์ พุกกุกซอง-4 และเอสแอลบีเอ็ม พุกกุกซอง-5 มาแสดงต่อสาธารณะในพิธีสวนสนามเมื่อเดือนตุลาคมปีแล้วและมกราคมปีนี้ ตามลำดับ ในงานแสดงด้านกลาโหมที่เปียงยางเมื่อสัปดาห์ก่อน เกาหลีเหนือก็นำมิสไซล์ขนาดเล็กกว่าที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน มาแสดงด้วย

    ในวันอังคาร เกาหลีใต้เพิ่งเปิดงานแสดงด้านกลาโหมงานใหญ่ที่สุดของประเทศในกรุงโซล โดยมียุทโธปกรณ์รวมถึงเครื่องบินขับไล่เจเนอเรชันใหม่, เฮลิคอปเตอร์จู่โจม, โดรน และอาวุธล้ำสมัยชนิดอื่นๆ รวมถึงจรวดอวกาศมาแสดงด้วย

    เดือนที่ผ่านมา เกาหลีใต้เพิ่งทดสอบเอสแอลบีเอ็มเป็นครั้งแรก รวมถึงการเปิดตัวมิสไซล์ครูซซูเปอร์โซนิก และในวันพฤหัสบดีนี้ เกาหลีใต้ยังมีแผนจะยิงทดสอบจรวดส่งยานอวกาศครั้งแรกของประเทศด้วย ถึงแม้นักวิเคราะห์จะกล่าวกันว่า จรวดของเกาหลีใต้มีศักยภาพเพียงเล็กน้อยที่จะนำไปใช้เป็นอาวุธ แต่การทดสอบแบบนี้น่าสร้างความขัดใจต่อเกาหลีเหนือ ที่เคยกล่าวโทษนานาชาติว่าสองมาตรฐานเกี่ยวกับโครงการอวกาศของตน.