'อ้อยใจ แดนอีสาน' เกือบพลาดเล่น 'กรงกรรม' เพราะตาบอด!


เพิ่มเพื่อน    

 

          นาทีนี้คงไม่มีละครเรื่องอะไรโด่งดังไปกว่า “กรงกรรม” อีกแล้ว ด้วยเนื้อเรื่องและตัวละครมากฝีมือทำเอาคนดูติดกันงอมแงม และสร้างความประทับใจมาจนถึงตอนจบแล้ว ซึ่งหนึ่งในตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเรื่องนี้นั่นก็คือ ประนอม รับบทโดยนักร้องลูกทุ่งสาว อ้อยใจ แดนอีสาน ที่หายหน้าไปนานถึง 7 ปี แต่ล่าสุดเธอมาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางรายการคุยแซ่บSHOW ว่าเหมือนได้ชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง

          “ก็ไม่รู้ความดังมันเป็นยังไง ก็ธรรมดา แต่ว่าไปไหนก็มีแต่คนเรียกชื่อเต็มๆ แบบของดีสระบุรี ตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าเขาเรียกเรา ไปเติมน้ำมันก็มีคนมาถ่ายรูป เราก็งงว่าเราดังหรอ ก็ดีใจมากๆเลย เราหายไป 7 ปีเลย ตอนนี้ลูกทุ่งมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย มันเป็นแนวย้อนยุคมากกว่า ย้อนยุคต้องใช้เสียงเยอะ แล้วคนนั่งฟังก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว

          ที่มาเล่นละคร เคยคิดนะ ฟลุคหรือเปล่าไม่รู้ เคยเห็นคุณพงษ์พัฒน์เขาทำละครดี แต่ไม่เคยดู เพราะเปิดไม่เป็น โทรศัพท์ก็ยังใช้ไม่เป็นเลย แต่ได้ยินเขาพูดหนาหูมากว่าคุณพงษ์พัฒน์เขาสร้างละครดี เราก็คิดในใจว่าอยากเล่น อยากรู้จักคุณพงษ์พัฒน์ แต่คงไม่มีวาสนาหรอก เคยไปไหว้พระอธิฐานนานแล้ว ประมาณ 3 ปีกว่า เพื่อนก็พาไปดูดวงกับหลวงพ่อ เขาก็บอกว่าดวงจะมานะ แต่อีก 3 ปี

 

 

          ตอนนั้นก็มีสาวประเภทสองโทรมาก็บอกว่า นี่คุณนายจะให้เล่นละครตามหาตั้งนานแล้ว เบอร์ไม่มีใครให้เลย เขาก็บอกว่าอยากเล่นไหมถ้าไม่เล่นฉันเล่นเอง ตอนนั้นเราคิดว่าไม่จริงหรอก พอพูดเสร็จก็หายไปประมาณ 4 เดือน แล้วทีนี้เราไปคุยกับคนที่ขายยำแหนมว่าคุณพงษ์พัฒน์เขาอยากให้เราไปเล่นละคร เราก็บอกว่าดีสิถ้าได้เล่น ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าพูดไปเขาไม่ติดต่อมาเราเขินแย่ เขาบอกว่าให้เล่นเป็นบท ประนอม แต่ไม่ทราบว่าเล่นกับใคร เรื่องโสเภณีเราก็มารู้ตอนเล่น ซึ่งเราอ่านหนังสือไม่ออก แต่เราก็รับไว้ก่อน มีคนคิดว่าเราเป็นโสเภณีจริงๆไหมเหรอ ตอนนี้เยอะเลย แล้วเราอ่านหนังสือไม่ออก ให้น้องเฟรชบอกว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ก็มีคนอ่านให้แม่ฟังแล้วแม่ก็จำเอา

 

 

          เกือบไม่ได้เล่น ตาบอดเลย บอดไปแล้ว ตามองไม่เห็นแล้ว ก่อนที่ละครจะถ่ายเนี่ย คิดว่าเขาคงไม่เอาแล้ว เกิดจากพอดีขับรถมอเตอร์ไซค์ไปให้อาหารหมา ปกติใส่หมวกอีโม่งไม่ให้ใครเห็นกลัวดำ แต่วันนั้นไปถอด พอถอดรถหินอยู่ข้างหน้ากระเด็นมาใส่ตา ตอนแรกคิดว่ามันไม่เป็นอะไร แล้วไปขยี้มัน 3-4 วันก็ไม่ดีขึ้น พอนอนก็ต้องแหกตานอน ไม่ได้หลับ แล้วก็ไม่ได้ไปหาหมอคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรมาก แล้วทีนี้เลือดมันไหลก็ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าไม่เห็นมีอะไรเดือนหน้ามาใหม่อีกที เราก็รอไม่ไหวก็เปลี่ยนเป็นหมอเฉพาะทาง ทีนี้หมอก็ถามว่าไปทำไรมา เราก็บอกว่าหินมันกระเด็นเข้าตาหมอบอกทำไมเพิ่งมา หมอบอกว่ารู้ไหมมันบอดแล้วเนี่ย ตอนคุณหมอพูดเราใจเสียแล้ว หมอบอกแล้วแต่เวร แต่กรรม เขาก็ถามอีกว่าทำบุญไว้เยอะไหม หนูก็บอกว่าก็ทำนะ พวกหมูๆ หมาๆ ทำเยอะเขาพูดไม่ได้ เราก็เลยไปขอเวลาไปให้อาหารหมาก็ยกมือไหว้หมา ขอให้ดวงตาแม่หายนะ แม่จะได้เอาข้าวมาให้หนูกิน ขอทุกวันเลย ถามว่ากี่วันหาย ก็พอดีละครโทรมาตอนนั้นจางๆลง แล้วมองเห็น โอ๊ย ดีใจมากเลย ถ้าบอดจริงๆ เรานึกถึงภาพคนที่เขาตาบอดทั้งสองข้างเขาคงทรมาน เราแค่ข้างเดียวก็มองไม่ชัดแล้ว คิดว่าถ้าบอดคงทำใจไม่ได้”

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"