ทางการศรีลังกาเรียกร้องให้ประชาชนนำอาวุธดาบและมีดขนาดใหญ่ รวมถึงชุดพรางของทหารและตำรวจมามอบให้เจ้าหน้าที่ ท่ามกลางความวิตกว่าผู้ต้องสงสัยในขบวนการโจมตีวันอีสเตอร์จำนวนหนึ่งยังลอยนวล

ทหารเรือศรีลังกาตรวจค้นรถยนต์บริเวณจุดสกัดบนถนนที่ท่าเรือในกรุงโคลัมโบเมื่อวันเสาร์ / AFP

    ทางการศรีลังกายังคงเดินหน้าสอบสวนเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์คริสต์ 3 แห่งและโรงแรมหรู 3 แห่งเมื่อวันอาทิตย์อีสเตอร์ 21 เมษายน 2562 ทำให้มีคนตายมากกว่า 250 คน โดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

    การตรวจค้นนับแต่วันเกิดเหตุ ตำรวจยึดอาวุธไว้ได้แล้วนับพันชิ้น และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจศรีลังกาเรียกร้องให้ประชาชนนำดาบและมีดขนาดใหญ่ที่มีอยู่ในครอบครองมามอบให้เจ้าหน้าที่  โดยยอมยกเว้นมีดที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

    รายงานบีบีซีเมื่อวันอาทิตย์อ้างคำแถลงของรูวาน กุนาเสคารา โฆษกสำนักงานตำรวจด้วยว่า  ตำรวจยังต้องการให้ประชาชนนำเครื่องแบบชุดลายพรางของตำรวจและทหารมามอบให้ที่โรงพักใกล้บ้านด้วย แต่เขาไม่ได้เปิดเผยว่าผู้ที่นำอาวุธมามอบให้เจ้าหน้าที่วันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาจะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่

    ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันเสาร์ว่า มีผู้ต้องสงสัยราว 25-30 คนยังลอยนวล เจ้าหน้าที่สามารถระบุสมาชิกร่วมขบวนการนี้ได้ทั้งหมดแล้ว และกำลังติดตามจับกุม โดยยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย

    ทางการศรีลังกากล่าวโทษกลุ่มอิสลามิสต์ในประเทศ 2 กลุ่มที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก คือกลุ่มเตาฮีดญะมาอัตแห่งชาติ และกลุ่มญะมาตีมิลลาทูอิบรอฮิม ซึ่งเชื่อว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายนอกประเทศ แต่สิริเสนากล่าวว่า เขาเชื่อคำประกาศของไอเอสที่บอกว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

    สิริเสนาเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีหน่วยข่าวกรองของ 8 ประเทศช่วยสอบสวนด้วย และเขาเชื่อว่ากองกำลังความมั่นคงของศรีลังกาจะสามารถกำจัดพวกผู้ก่อการร้ายและฟื้นฟูเสถียรภาพได้ก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำหนดจัดขึ้นช่วงปลายปีนี้.