'มัลลิกา'ลั่นใครเป็นรัฐบาลก็จะทวงเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลี พืชเศรษฐกิจจากต่างประเทศที่กระทรวงคลังเสียโอกาสหลายหมื่นล้าน


เพิ่มเพื่อน    

10 พ.ค.62 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่าในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านและในฐานะ2ในกรรมการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2562 ตามคำสั่งที่7/ 2562 ของพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกภูมิใจมากที่พรรคประชาธิปัตย์ในปี 2562 มีผู้สมัครหัวหน้าพรรคและทีมที่มีคุณภาพทั้ง 4 คณะ และจะเป็นครั้งแรกของพรรคประชาธิปัตย์ที่สมาชิกซึ่งมีอำนาจการตัดสินใจลำบากใจในการจะเลือกมากเพราะทั้ง 4 คนที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคมีคุณสมบัติความรู้ความสามารถด้วยกันทั้งหมด

รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาเห็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองเห็นลีลาท่าทางของผู้มีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลในแต่ละฝ่ายแล้วรู้สึกอมยิ้มเล็กน้อยเพราะในฐานะที่เคยทำงานร่วมกับพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดิฉันสัมผัสได้ว่าบรรดาตัวแทนของผู้มีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลแต่ละฝ่ายปัจจุบันนี้เดินกันงกๆเงิ่นๆสะเปะสะปะโฉ่งฉ่างไม่มีของจริงสักคน ปล่อยุให้คนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจอ้างชื่อผู้มีอำนาจตัดสินใจเดินกันขวักไขว่รู้สึกสะเทือนใจประเทศชาติจริงๆ

" ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ของจริงยังไม่ขึ้นแสดงเพราะของจริงจะมีบทบาทกันเต็มสูบก็ต่อเมื่อหลังวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ดังนั้นกี่คนและกี่ฝ่ายก็ตามที่เดินกันสะเปะสะปะสะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองซึ่งเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ปัจจุบันนี้ทั้งคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นไหนอยากเข้ามาเปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์กันทั้งนั้นแม้สถานการณ์พรรคจะตกต่ำย่ำแย่ก็ยังอยากจะเข้ามาพัฒนาพรรคการเมืองเก่าแก่นี้เพื่อให้เปลี่ยนไปตามยุคสมัยและกาลเวลา" 

นางมัลลิกา กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของแต่โครงสร้างอำนาจจะอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค และประชาธิปัตย์ไม่มีลูกหลานเหลนโลนมาสืบทอดอำนาจการบริหารจัดการพรรคแม้จะมีความพยายามของคนหลายตระกูลแต่ก็ต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้งเป็นผู้แทนจากประชาชนมาให้ได้ ขณะเดียวกันนอกจากโครงสร้างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคแล้วสถาบันการเมืองแห่งนี้ก็ยังมีโครงสร้างของคณะทำงานพรรคหรือ Back office ร่วม 100 คนรวมทั้งผู้สนับสนุนพรรค และคณะผู้บริหารที่มีคุณสมบัติมากเพียงพอที่จะเข้าดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองในโครงสร้างของฝ่ายบริหารรัฐบาลในอนาคตซึ่งจะเป็นผู้แทนฯหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นในสถาบันการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพื้นที่จำลองของประเทศทั้งประเทศนั่นคือจะมีบุคลากรทั้งฝ่ายตุลาการ-บริหาร-นิติบัญญัติ อยู่ในโครงสร้าง 

" ดิฉันอาจจะรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อยที่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ไม่ได้ไปต่อ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและมีแนวโน้มที่เฉพาะตัวเขาอาจจะไม่ได้เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีในโครงสร้างอำนาจที่จะเห็นหลังวันที่ 15 นี้คำว่าเสียดายของดิฉัน คือ เพียงแต่หากเป็น"นายอภิสิทธิ์" ดิฉันเป็นหนึ่งคนที่จะทวงและลงมือปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ให้กันไว้ นั่นคือสิ่งแรกที่จะต้องปฏิบัติคือการให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลีหรือพืชเศรษฐกิจจากต่างประเทศที่ถูกละเลยมาเป็นเวลาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันทำให้ประเทศชาติสูญเสียรายได้ไปจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ประชาชนซึ่งเป็นเกษตรกรเสียโอกาสทำให้เกิดปัญหาทางสภาวะเศรษฐกิจปากท้องของเกษตรกรมาหลายปีโดยที่รัฐบาลชุดที่มี "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" เป็นรองนายกรัฐมนตรีและคุมทีมเศรษฐกิจของประเทศนี้ใน "รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" โดยสืบทอดคำสั่งคณะรัฐมนตรีของ "รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ด้วยการใช้ครม.ยกเลิกละเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลีละของกลุ่มนายทุนอาหารสัตว์ ต่อเนื่องกันมา " นางมัลลิกา กล่าว 

นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า เคยทำหนังสือชี้แจงและเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากนั้นนายกรัฐมนตรีผู้นี้ได้ส่งหนังสือของดิฉันไปที่กระทรวงพาณิชย์ซึ่งรัฐมนตรีคือนายสนธิรัตน์ ปัจจุบันนี้เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐที่กำลังแสดงพลังในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ขณะนี้ปรากฏว่าช่วงระยะเวลา 5 ปีผ่านไปก็ยังถูกละเว้นเพิกเฉยมิได้จัดเก็บภาษีนำเข้าให้กับประเทศชาติ เข้าตำรา "รู้แต่..ไม่ทำ"

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดของประเทศหลังจากนี้ ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลหรือไม่และแม้จะเหลือดิฉันเหลือเพียงผู้เดียวก็จะทำหน้าที่นี้ต่อไปนั่นคือไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, รองนายกรัฐมนตรีกลุ่มเศรษฐกิจ และนายกรัฐมนตรีทุกคนจะได้รับหนังสือจากมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชนอีกครั้งเพื่อทวงถามคุณว่าคุณจะปฎิบัติหน้าที่จัดเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลีเพื่อเกษตรกรและประเทศชาติหรือไม่ และคุณจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จัดเก็บภาษีนำเข้าซึ่งเป็นรายได้ของประเทศแล้วเพื่อประโยชน์ให้กับนายทุนต่อไปอีกเท่าไหร่ หน้าที่พลเมืองภายใต้ยุคที่ศิวิไลซ์2019 ประเทศชาติต้องศิวิไลซ์จริงๆ พอเสียทีกับการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกนายทุนให้หากินบนกระดูกสันหลังของเกษตรกร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"