"บิ๊กตู่" ขออย่าสนใจ 5 ปี คสช. "การเมือง-นปช." รุมจวกครบรอบรัฐประหารทำประเทศชาติเสียหาย "โรม-ไผ่" พบ ตร.รับทราบข้อหามาตรา 116 พร้อมปฏิเสธทั้งหมด ยันไม่ได้ยุยงปลุกปั่น เชื่อถูกกำจัดสิทธิเพื่อสืบทอดอำนาจ

    เมื่อวันที่ 22 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีครบรอบ 5 ปีการทำงานของ คสช.ว่า อย่าไปให้ความสำคัญกับวันไหนทั้งสิ้น
    ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ Sudarat Keyuraphan เรื่อง ครบรอบ 5 ปี รัฐประหาร ร่วมหยุดการสืบทอดอำนาจปีที่ 6 ของ คสช. ไปด้วยกัน ตอนหนึ่งระบุว่า จากพรรคไทยรักไทยถึงพรรคเพื่อไทย เราเผชิญวิกฤติการเมืองมามากมาย ทั้งการยุบพรรค ตัดสิทธิ์ทางการเมือง และการทำรัฐประหาร ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้เห็น ได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางการเมือง เกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งในช่วงที่ประเทศมีประชาธิปไตย และในช่วงที่ไม่มีประชาธิปไตย ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ถึงความหมายของการชนะที่แท้จริง 
    "ได้แก่การชนะใจประชาชนและความหมายของของการชนะจอมปลอม นั่นคือการชนะโดยการยึดอำนาจไปจากมือของประชาชน โดยทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมชุบตัว” ด้วยการเขียนกติกาที่บิดเบี้ยว เอาเปรียบทุกประตู ทั้ง ส.ส.เอื้ออาทร ส.ว.เอื้อพวกพ้อง 250 คน ที่ คสช. เลือก มีอำนาจมากกว่า ส.ส.ที่ประชาชนเลือก เพราะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2 สมัย ตามด้วยแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อคุมประเทศต่อไปอีกยาวนาน 20 ปี" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 5 ปีของการรัฐประหาร อยากให้รัฐบาลและ คสช.ได้พิจารณาตัวเอง มองย้อนกลับไปว่า 5 ปีที่ผ่านมาได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศบ้างที่ไม่ใช่แค่วาทกรรม และประเทศเสียหายขนาดไหน ประชาชนต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัว เพราะการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและองค์กรอิสระไม่สามารถทำได้ แม้จะมีการเลือกตั้งแล้ว อยากขอเตือนรัฐบาลว่า การปิดกั้นแสดงความเห็นเป็นภัยกับระบอบประชาธิปไตย และเมื่อกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว 
    เช่นเดียวกับ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวถึง 5 ปีภายใต้การบริหารงานรัฐบาลเผด็จการ คสช.ว่า 5 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ คสช. มอบให้สังคมไทยคือความเหลื่อมล้ำและความยากจน วัฒนธรรมความไม่ละอายในการทำผิด ความเห็นแก่ตัว ก้าวร้าว ถอยหลังประเทศกลับไปสู่สังคมที่ใช้กำลังมากกว่าสมอง แบ่งชนชั้นให้ประชาชนเป็นบ่าว เผด็จการเป็นนาย ไร้การปฏิรูป ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ทำให้สังคมไทยเสียเวลาและเสียโอกาสในการแข่งขันในสังคมโลกอย่างที่เป็นอยู่แบบทุกวันนี้
    ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความ เรื่อง 5 ปีผ่านไป ไวเหมือนคำโกหกของผู้มีอำนาจ โดยเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ตั้งแต่การเจรจาของแก้ปัญหาทางการเมืองที่สโมสรทหารบกก่อน คสช.ยึดอำนาจ
รุมซัด 5 ปีคสช.ยึดอำนาจ
    "5 ปีมาแล้วเช่นกันที่เขาบอกว่าจะอยู่ไม่นาน และตั้งใจมาปฏิรูปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่แท้จริงเป็นเช่นไร? ผ้าคลุมหัวผมถูกเปิดแล้วตั้งแต่กลางดึกคืนนั้น แต่ประชาธิปไตยและอนาคตของประเทศไทยยังถูกคลุมหัวมัดมืออยู่หรือไม่? 22 พฤษภาคม 2557 เกิดขึ้นด้วยคำลวง และมีแต่เปล่งวาจาหลอกลวงจนถึงที่สุด จึงจะทำให้เจ้าของคำลวงดำรงอยู่ต่อไปได้" แกนนำ นปช.ระบุ
    ที่แยกราชประสงค์ เวลา 17.45 น. กลุ่มคนไม่ทนคสช. นำโดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ และน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จัดกิจกรรมนิทรรศการมนุษย์กับภาพวาด เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีรัฐประหาร เพื่อแสดงเจตนารมณ์การต่อต้าน คสช.สืบทอดและผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากการบริหารงานของรัฐบาล คสช.ในห้วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 30 คน
    โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีการนำภาพเขียนด้วยดินสอของบุคคลต่างๆ ที่ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการจนได้รับผลกระทบถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งนายรังสิมันต์ โรม, นายวัฒนา เมืองสุข, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายอดิศร เพียงเกษ รวมทั้งภาพเขียนของโบว์ ณัฏฐา, อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล, เอกชัย หงส์กังวาน, พะเยาว์ อัคฮาด และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกหลายคน สร้างความสนใจให้กับประชาชนที่เดินทางสัญญจรไปมาบริเวณดังกล่าวหยุดมุงดูกันเป็นจำนวนมาก
    นพ.ทศพรกล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับผลกระทบถูกดำเนินคดีต้องขึ้นศาลทหารจำนวนมาก ในการเขียนภาพครั้งนี้ ได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มคนยากเลือกตั้งที่นำโดยน้องโบว์ ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปดำเนินคดีที่ สน.พญาไท จึงได้วาดรูปน้องโบว์ไปมอบให้ที่ห้องขังเพื่อให้กำลังใจ หลังจากนั้นมาได้วาดรูปผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเรื่อยมา บางรูปใช้เวลาวาดเป็นปีๆ วิชาการวาดรูปได้มาจากโรงเรียนสวนกุหลาบ และช่วง 5 ปีช่วงที่ตกงานจึงได้วาดภาพของกลุ่มผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นร้อยๆ ภาพ หลังจากนี้หากวันไหนเปิดวุฒิสภา จะมีภาพวุฒิสภาอัปยศ จะเป็นนิทรรศการเคลื่อนที่ โดยมีกลุ่มพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วยกันเคลื่อนที่ไปแสดงตามจุดต่างๆตามเรื่องตามสถานการณ์
    ในการจัดกิจกรรมนิทรรศการครั้งนี้ นพ.ทศพรได้นำภาพเขียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาแสดงพร้อมอธิบายว่า ภาพเขียนทั้ง 2 คนนี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 จนเดือดร้อนวุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ ผ่านไป 5 ปี บอกจะปฏิรูปยังไม่เห็นทำอะไรเลย เช่นเดียวกันกับคดีความต่างๆ อย่างที่เห็นคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ พบว่าจบอย่างรวดเร็ว เข้าจังหวะพอดีได้รับการอภัยโทษพ้นคุกมาแล้ว ส่วนคดีของอีกฝ่ายยังล่าช้า สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมว่าเป็นอย่างไร  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ทางแกนนำได้ส่งหนังสือขอจัดกิจกรรมไปที่ สน.ลุมพินี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงแล้วเสร็จก่อนจะแยกย้ายกันกลับ 
    วันเดียวกัน ที่ สน.ปทุมวัน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย พร้อมพวก 13 คน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา "ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือด้วยวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง" 
'โรม-ไผ่'ปฏิเสธคดีปลุกปั่น
    สืบเนื่องจากวันที่ 22 พ.ค.58 กลุ่มนักศึกษานำโดยนายรังสิมันต์ โรม กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนายจตุภัทร์ ที่ถูกออกหมายเรียกกรณีชูป้ายคัดค้านครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ในขณะนั้น ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จนเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คสช.ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีมั่วสุมชุมนุมเกิน 5 คน ตามคำสั่ง คสช.ฉบับ 3/2558 ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ต่อมาในวันที่ 24 มิ.ย.58 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายรังสิมันต์ โรม นายจตุภัทร์ พร้อมพวกมารับทราบข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่ากลุ่มนักศึกษาหลายคนได้ชุมนุมปิดล้อม สน.ปทุมวัน กระทั่งถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ 
    นายจตุภัทร์ยืนยันว่า การกิจกรรมชอบด้วยกฎหมาย แต่รู้สึกกังวลในกระบวนการยุติธรรม เพราะรัฐบาลเอากฎหมายมาอ้างความชอบธรรม 5 ปีที่ผ่านมา ในการบริหารของรัฐบาลทหารมีแต่ความเงียบ สุดท้ายแล้วประชาชนทุกคนจะรู้ว่า การบริหารรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญที่มีอยู่นั้นเป็นอย่างไร
    นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียก ไม่ทราบว่าผิดข้อหาอะไร แต่เท่าที่ดูจากเพื่อนๆ ที่ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบในวันนี้ก็พอจะทราบบ้าง ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมเป็นการปกป้องประชาธิปไตย ตนถูกต้น คสช.แจ้งความดำเนินคดีมากกว่า 7 คดี ถ้ามีประชาชนหรือสังคมยืนอยู่เคียงข้าง ยืนยันว่าน่าจะรอดคดีได้ เพราะคดีที่ตนถูกดำเนินคดีนั้นไม่ใช่คดีฆ่าคนตาย 
    น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือน้องลูกเกด กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย. กลุ่มนักศึกษาได้มารวมตัวกันที่ สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้อง 1.พลเรือนต้องไม่ไปขึ้นศาลทหาร 2.การชุมนุมชอบด้วยกฎหมาย 3.เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ในการดำเนินคดีครั้งนี้ คสช.พยายามกำจัดฝ่ายตรงข้าม และนายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เพื่อเป็นการปูทางในการสืบทอดอำนาจ
    ทั้งนี้ นายธนาธรได้เข้าพบพนักงานสอบสวนไปแล้วเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ถูกแจ้ง 3 ข้อหา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหา และมาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยนายธนาธรให้การปฏิเสธทั้ง 3 ข้อหา 
    พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวหลังสอบปากคำว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกในคดีนี้ 15 คนมารับทราบข้อหาครบหมดทุกคนแล้ว ไม่รู้สึกกังวลอะไร ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่กองทัพแจ้งมาว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายรังสิมันต์และนายจตุภัทร์พร้อมพวกรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จ ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ที่หน้า สน.ปทุมวัน จุดเทียนเป่าเค้ก ร้องเพลงแฮบปี้เบิร์ธเดย์ 5 ปีรัฐประหาร โดยเทียนเป็นเลข 5 แสดงถึงการบริหารงานของรัฐบาล ที่มาจากการรัฐประหาร อยู่มานานกว่า 5 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีข้อความที่เขียนบนหน้าเค้กว่า "5 ปีแล้วน้องไหวเหรอ" พร้อมกับตะโกนว่า ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน หลังจัดกิจกรรมเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ
    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์, นายประจิณ ฐานังกรณ์, นางศรีไพร นนทรีย์, นายวันเฉลิม กุนเสน และนายธนวัฒน์ พรมจักร 5 ผู้ต้องหาแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด UN62 เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เพื่อส่งฟ้องคดีที่แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งร่วมกันชุมนุมเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค.2561 เพื่อเรียกร้องการเลือกตั้งและต่อต้าน คสช. เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช. ที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหน้าองค์การสหประชาชาติ ในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558
    ต่อมาหลังอัยการยื่นฟ้องทั้ง 5 รายเป็นจำเลยต่อศาลอาญาแล้ว พวกจำเลยได้ยื่นคำร้อง ขอปล่อยชั่วคราว โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน 
    ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้พวกจำเลยประกันตัวไป โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากพวกจำเลยเลยผิดเงื่อนไขการประกัน ศาลจะสั่งปรับจำเลยคนละ 1 แสนบาท ทั้งนี้ ศาลได้รับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1308/2562.