‘วรงค์’ตอก‘งูเห่าสีส้ม’ ขี้กลัวจะจับโกงได้หรือ


เพิ่มเพื่อน    

 งูเห่าสีส้มเฉลยเหตุถูกซื้อตัวแล้วไม่ฟ้องดำเนินคดี อ้างเกรงตัวเองและคนในครอบครัวไม่ปลอดภัย หากเปิดเผยชื่อว่าใครเป็นคนทาบทาม ยืนยันเป็นคนมีอุดมการณ์จริงๆ "หมอวรงค์" ตอกเจ็บ แล้วจะเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบการทุจริตได้อย่างไร เพราะการตรวจสอบโกงหนักกว่าการเปิดเผยชื่อคนซื้องูเห่าหลายเท่า อย่างนี้ก็เท่ากับสร้างข่าวโกหกไปวันๆ ถามหรือว่านี่คือนโยบายของพรรค

    นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคอนาคตใหม่ วัย 62 ปี ผู้ซึ่งเป็น ส.ส.คนแรกที่ออกมาเปิดเผยว่ามีการมาเสนอเงินจำนวนหลายสิบล้านบาท เพื่อให้เป็นงูเห่าในการเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการทาบทามซื้อตัวอีกครั้งว่า ครั้งแรกมีการโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของตน พูดคุยและยื่นข้อเสนอเงินให้ 20 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเงินเป็น 3 ก้อน ก้อนแรกให้ 6 ล้านบาทในการโหวตเลือกประธานสภาฯ 
    เขากล่าวว่า ก้อนที่ 2 อีก 7 ล้านบาท ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และก้อนสุดท้าย 7 ล้านบาท จะให้เป็นพิเศษหลังจากเลือกสองตำแหน่งนี้แล้ว แต่ตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่สามารถรับข้อเสนอนี้ได้ หลังจากนั้นผ่านมาอีกไม่กี่วันกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้มาหาตนถึงบ้านที่อ้อมน้อย กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมพูดคุยและเจรจายื่นข้อเสนอจาก 20 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท แต่ตนเองก็ยังยืนยันว่าไม่ขอรับเงินแต่อย่างใด
    "ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหวาดกลัว รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยและสอบถามไปยัง ส.ส.สมุทรสาคร พรรคอนาคตใหม่ด้วยกันอีกท่านหนึ่งคือ ส.ส.ทองแดง เบ็ญจะปัก ก็ได้รับการติดต่อเสนอเงินถึง 50 ล้านบาท จากบุคคลกลุ่มเดียวกัน จึงนำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษากับบุคคลในพรรคเพื่อเปิดเผยกับสังคมและสื่อมวลชนให้รับรู้ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว"
    ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่า กลุ่มบุคคลที่ติดต่อมานั้นคือใคร รู้จักหรือไม่ ทางนายสมัครได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดสมุทรสาคร ทุกคนรู้จักกันดี 
    ถามต่อว่าพร้อมที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายและเปิดเผยชื่อหรือไม่ นายสมัครบอกว่า ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งความไว้ก่อน เกรงกลัวถึงความปลอดภัยของตนเองและคนในครอบครัว หากเปิดเผยชื่อออกมา กว่าจะผ่านขั้นตอนตามกฎหมายจนเสร็จสิ้นใช้ระยะเวลานาน ไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย จึงยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้แต่อย่างใด
    ซักว่า คิดว่าเพราะเหตุใดบุคคลดังกล่าวจึงมาเสนอเงินให้ ส.ส.สมุทรสาครผู้นี้ตอบว่า น่าจะเกิดจากการที่เวลาหาเสียงจะไปแค่ 2 คนตายาย เคาะประตูตามหมู่บ้าน ส่วนทีมใหญ่ 5-6 คนจะออกหาเสียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ทางบุคคลดังกล่าวจึงคิดว่าสามารถซื้อตัวเราง่าย แต่ตนเองเป็นคนยึดมั่นในอุดมการณ์ ต่อให้นำเงินมาให้มากเท่าไหร่ตนก็จะไม่ยอมขายอุดมการณ์อย่างแน่นอน 
    ส่วนที่มีการสงสัยว่าทั้งหมดเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อตีกินบ้าง เป็นเด็กเลี้ยงแกะ นายสมัครยืนยันว่าตนเองไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะแน่นอน 
    "มีคนเสนอเงินให้เพื่อให้เป็นงูเห่าถึง 30 ล้านบาท ผมเองก็ไม่ขอรับ เพราะผมเองเป็นคนที่มีอุดมการณ์ในการทำงาน ต่อให้มาติดต่ออีกกี่ครั้งกี่หนก็จะไม่ยอมขายตัวอย่างเด็ดขาด ผมไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะแน่นอน" นายสมัครกล่าว
    ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นตรวจสอบกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เปิดเผยเรื่องการซื้อตัว ส.ส.?120 ล้านบาทว่า ไม่เป็นไร เรื่องนี้ ส.ส.พรรคเราพยายามหลีกเลี่ยงไม่พาดพิงถึงบุคคลหรือพรรคอื่น แต่ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง 
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า "เห็นข่าวงูเห่าสีส้ม ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่ได้รับทาบทาม วงเงินสูงถึง 120 ล้านบาท เมื่อถูกสังคมเรียกร้องให้เปิดชื่อบุคคลที่มาเสนอเพื่อดำเนินคดี กลับบอกว่าไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวความปลอดภัย
    อย่างนี้พวกท่านจะไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบการทุจริตได้อย่างไร เพราะการตรวจสอบทุจริตนั้นหนักกว่าการเปิดเผยชื่อคนซื้องูเห่าหลายเท่า อย่างนี้ก็เท่ากับสร้างข่าวโกหกไปวันๆ หรือว่านี่คือนโยบายของพรรค"
    รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า แม้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ประกาศผลครบถ้วน 500 คนแล้ว แต่ผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมืองยังมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต.ตามแบบที่ กกต.กำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ได้จ่ายไปแล้ว และที่ยังค้างชำระ รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง และผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคแล้วแต่กรณีต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องครบถ้วนของบัญชีรายรับและรายจ่ายนั้น ภายในกำหนด 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ซึ่งจะครบกำหนดวันสุดท้ายในวันที่ 24 มิ.ย.62 
    แต่ปรากฏว่าขณะนี้ยังมีผู้สมัครและหัวหน้าพรรคการเมืองหลายรายที่ยังไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย จึงขอให้เร่งดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลา มิฉะนั้นก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งอาจจะต้องถูก กกต.ยื่นคำร้องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แทน สำหรับตำแหน่งที่ว่างด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"