ทวงสัจจะชาติทหาร ‘อนุชา’เชื่อไม่หลุดโผครม.สุริยะเซ็งขู่ถอนตัวร่วมรบ.


เพิ่มเพื่อน    

 ครม.ลุงตู่ 2/1 ป่วนอีก! หลัง "บิ๊กตู่"   เกลี่ยเก้าอี้ใหม่ "สามมิตร" เดือดถูกสลับเก้าอี้ แถมหั่นโควตาจ่อเจรจาอีกรอบ "สุริยะ" งงมากนายกฯ บอกไปอยู่ ก.อุตฯ ส่วน ก.พลังงานให้ "สนธิรัตน์" ทั้งที่ 11 มิ.ย.แจ้งรายชื่อหมดแล้ว ซัดไม่เข้าใจการเมือง โอดขอไปสวดมนต์สงบสติอารมณ์ บ่นน้อยใจออกจากร่วมรัฐบาลดีกว่า "เสี่ยแฮงค์" ยังเชื่อนายกฯ เป็นชายชาติทหารรักษาคำพูด คนใกล้ชิดแปลกใจทำงานหนักเพื่อพรรคแต่หลุดโผ ขู่กระทบเสียงโหวตสมัยหน้าคงไปหาที่อยู่ใหม่ ขณะที่ ส.ส.ภาคกลางช็อก "สุชาติ" กินแห้วครวญลือกตั้งครั้งหน้าคงไม่เหลือ ส.ส. "น้องธรรมนัส" สละเก้าอี้ รมต.ดีอี กลับไปลงนายก อบจ. โยก "หม่อมเต่า" นั่ง รมว.แรงงาน 

    เมื่อวันศุกร์ มีรายงานความเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ที่มีชื่อในโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/1 ทยอยเข้ากรอกแบบฟอร์มประวัติและคุณสมบัติรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม ส.ส.หลุดโผครั้งนี้ต่างแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
    ขณะที่วันที่ 28 มิ.ย. เป็นอีกวันที่ผู้มีรายชื่อทยอยเข้ายื่นเอกสาร ตั้งแต่ช่วงเช้ายังคงทยอยส่งเอกสารอย่างต่อเนื่อง โดยฝั่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ, นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พปชร. ที่ได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติม หลังได้มากรอกแบบฟอร์มไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.
    รวมถึงนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่จะมาเป็น รมช.พาณิชย์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรค ปชป. ได้รับมอบหมายให้นำเอกสารประวัติของทั้ง 7 ว่าที่รัฐมนตรีมาส่ง สลค. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ได้ให้ทีมงานมายื่นเอกสาร รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่ได้ให้เจ้าหน้าที่พรรคนำมาส่งแล้วเช่นกัน 
     ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งให้ว่าที่รัฐมนตรีกรอกแบบฟอร์มประวัติและคุณสมบัติรัฐมนตรีว่า ตนยังไม่ได้กรอก เพราะเขายังไม่ได้ส่งมาให้ ที่ผ่านมาเขาส่งไปยังพรรคการเมืองต่างๆ โดยให้กรอกและยื่นกลับมาภายในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ แต่เชื่อว่าบางคนอาจไม่แล้วเสร็จในวันนี้ เพราะจะยุ่งเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรสและบุตร เนื่องจากแบบฟอร์มรายละเอียดต้องมีลายเซ็นว่าที่รัฐมนตรีทุกหน้า และมีหนึ่งหน้าที่ต้องมีลายเซ็นคู่สมรสและบุตรที่บางคนอาจไม่อยู่ในประเทศขณะนี้ 
    นายวิษณุกล่าวว่า ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็สามารถดำเนินการได้ จากนั้น สลค.จะตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้งหลังจากตรวจสอบเป็นการภายในบางส่วนแล้ว เพราะบางส่วนต้องให้เจ้าตัวยินยอมถึงจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลได้ ในส่วนของตนนั้น ที่สุดแล้วต้องกรอกอยู่ดี แต่ยังไม่ทราบว่าวันไหน นายกฯบอกว่าเมื่อกลับมาจากการประชุมจี 20 ที่ประเทศญี่ปุ่น จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ในส่วนของว่าที่รัฐมนตรีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อนั้น ขณะนี้ไม่มีอะไรแน่ชัด ก็ขอให้กรอกข้อมูลมา เรื่องนี้ยังค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าไม่เป็นปัญหาในชั้นตรวจคุณสมบัติขณะนี้ 
     ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยบอกว่า การกรอกคุณสมบัติรัฐมนตรีไม่ได้ระบุว่าจะเป็นกระทรวงใด ตนได้รับการประสานจากนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการ ครม. ให้มากรอกเอกสารก่อนหน้านี้ตนไม่ได้คุยกับใคร ไม่ทราบมาก่อน จนถึงเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่เลขาธิการ ครม.ติดต่อมาก็มารับแล้วเอาไปกรอกกลับมาส่ง ยอมรับว่าตื่นเต้น ส่วนพรรค ชพน.มี ส.ส.แค่ 3 ที่นั่ง แต่ได้โควตารัฐมนตรีนั้นเป็นข้อตกลงเดิมที่คุยกันไว้นานแล้ว ตอนนี้ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน 
"สามมิตร"เดือดโดนหั่นโควตา
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. กล่าวภายหลังเข้ายื่นเอกสารฯ ว่า ตนส่งเอกสารเรียบร้อยแล้ว ส่วนกระแสก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าอาจจะหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น ตนไม่ทราบ แต่ถึงวันนี้ก็อาจจะหลุดได้ ส่วนจะได้รับตำแหน่งใดนั้น ยังไม่ทราบ โดยเอกสารที่ส่งไปมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ เช่น เรื่องการถือหุ้น และข้อมูลทั่วไป  ส่วนจะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใดยังไม่นิ่ง ต้องรอพล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจ ถ้าเลือกได้ ก็อยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการศึกษา เนื่องจากคิดว่าพอมีประสบการณ์มาบ้าง 
    เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะไปนั่งหัวหน้าพรรคพปชร. นายณัฏฐพลกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนอาจจะพูดกันขึ้นมาเอง ทางพรรค พปชร.ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือเตรียมตัวอะไร ตำแหน่งหัวหน้าพรรคยังเป็นนายอุตตม สาวนายน และเลขาธิการพรรค ยังเป็นนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ทุกคนยังทำงานตามปกติ
    ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดตั้ง ครม.เกิดแรงกระเพื่อมอีก ล่าสุดมีกระแสข่าวว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ที่มีชื่อจะได้เป็น รมว.พลังงาน อาจถูกสลับเก้าอี้กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร. ที่มีชื่อเป็น รมว.อุตสาหกรรม โดยคำสั่งของผู้มีบารมีในรัฐบาล ทำให้นายสุริยะไม่พอใจกับเรื่องดังกล่าว เพราะมองว่าธุรกิจของตัวเองนั้นเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรม ทำให้อาจถูกมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนและจะถูกเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายค้านอย่างหนัก รวมทั้งกรณีที่นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และกรรมการบริหารพรรค ถูกตัดชื่อออกจากโผ ครม.ด้วย ทำให้ภายในกลุ่มของนายสุริยะไม่พอใจอย่างหนัก 
    โดยล่าสุดได้หารือกันในกลุ่มและเตรียมเจรจาหาข้อสรุปเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะรอดูท่าทีขอพล.อ.ประยุทธ์อีกครั้ง แต่ถ้ากลับคำพูดที่เคยให้ไว้ ทางกลุ่มพร้อมทบทวนท่าทีการทำงานกับพรรคเพราะถือว่าไม่รักษาสัจจะ
    นายสุริยะให้สัมภาษณ์ The Bangkok Insight  ว่า "ผมรู้สึกงงมากหลังจากเข้าไปรับแบบฟอร์มกรอกประวัติรัฐมนตรีที่ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ซึ่งได้เจอกับ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อท่านนายกฯ ถามว่า คุณรู้หรือยังอยู่กระทรวงไหน ผมก็ตอบไปว่าอยู่กระทรวงพลังงาน ท่านนายกฯ แย้งขึ้นทันทีบอกว่า ไม่ใช่ คุณอยู่กระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนกระทรวงพลังงานเป็นของคุณสนธิรัตน์ มีการตกลงกันไปแล้ว ท่านนายกฯ ยังย้ำด้วยว่า ไม่ต้องสลับไปสลับมาแล้ว ไม่ต้องให้ใครโทร.มาหาทั้งคุณสมคิดและคุณอุตตม ไม่ต้องให้ใครโทร.มาหาผมอีก”
    นายสุริยะบอกว่า เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก เพราะเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ ยังเรียกให้เข้าไปพบที่บ้านพัก แจ้งรายชื่อผู้ที่ได้เป็นรัฐมนตรีทั้งหมดแล้ว ซึ่งวันนั้นนายอนุชาก็ได้โควตา รมช.การคลัง แต่พอมาวันนี้ชื่อของนายอนุชาก็กระเด็นหายไป จึงไม่เข้าใจว่าทำไมนายกฯ ถึงเปลี่ยนชื่อไปมาแบบนี้ และว่านายกฯ ไม่เข้าใจเรื่องการเมืองมาก นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน ล่าสุดก็มีชื่อนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เข้ามาเป็น รมช.อุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พยายามอธิบายให้นายกฯ รับทราบถึงการให้ตำแหน่งกับนายเทวัญ เกี่ยวกับปัญหาที่ผ่านมา แต่นายกฯ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ
"สุริยะ"ฮึ่ม!ขอถอนตัว
    นายสุริยะกล่าวด้วยว่า อาจจะมีหลายคนเป็นห่วงและเกรงว่าเมื่อตนไปอยู่กระทรวงพลังงานจะได้รับผลกระทบกับโครงการที่ทำไว้ เรื่องนี้ตนขอบอกไว้เลยว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการใดของใครก็ตามที่ทำไว้แล้ว หรือกำลังจะดำเนินการ ตนไม่มีหน้าที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือเล่นงานใครทั้งสิ้น ถ้าสิ่งเหล่านั้นเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และไม่เคยคิดที่จะไปล้มโครงการของใครด้วย
    “วันนี้ผมขอไปสวดมนต์สงบสติอารมณ์ก่อน เพื่อที่จะได้คิดให้รอบคอบ แต่ส่วนตัวแล้วผมคงออกจากการร่วมรัฐบาล และจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวเลย ผมว่านาทีนี้ ผมออกดีกว่า” นายสุริยะกล่าว
     มีรายงานว่า ภายหลังที่มีกระแสข่าวว่านายอนุชา นาคาศัย หลุดตำแหน่ง รมช.การคลัง ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายอนุชาตลอด 2 วันที่ผ่านมา แต่นายอนุชาไม่รับโทรศัพท์ แต่ได้รับการเปิดเผยจากคนใกล้ชิดว่าเป็นไปได้ที่นายอนุชาจะผิดหวัง เพราะตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่ทำงานอย่างหนักร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ตั้งแต่ในนามของกลุ่มสามมิตร ก่อนมาเป็นพรรค พปชร. 
    อีกทั้งในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง รับผิดชอบงานหลายด้าน ไม่เฉพาะภาคกลางที่ดูแลทั้งการคัดแยกผู้สมัคร ส.ส. ดูเอกสารต่างๆ วางยุทธศาสตร์ด้านสื่อให้กับพรรค คิดนโยบาย จัดเวทีปราศรัยทั่วประเทศ ตรวจสอบบัญชีเลือกตั้ง ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของพรรค ร่วมลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงรวมทั้งหมดเกือบ 30 เวทีทั่วประเทศ และยังไปช่วยที่ภาคอีสานด้วย ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตที่ จ.ชัยนาท แต่กลับลงพื้นที่หาเสียงเขตของตัวเองช่วง 3 วันก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น ยังดีที่นายอนุชาทำพื้นที่มาตลอด และเป็นที่รักของคน จ.ชัยนาท จึงได้ทำให้พรรค พปชร.ได้รับเลือกตั้งทั้ง 2 เขต จ.ชัยนาท 
    “ถึงผิดหวังยังไงก็ยังเชื่อว่าพี่แฮงค์ (นายอนุชา) ก็พร้อมที่จะทุ่มเททำงานในฐานะผู้แทนราษฎร ตอบแทนที่ได้รับความไว้วางใจจากคนชัยนาท และในฐานะ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้คงใช้เวลาทำใจสักระยะ” คนใกล้ชิดนายอนุชาระบุ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไม่มีชื่อนายอนุชาในครั้งนี้ อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นภายในพรรคเพราะนายอนุชาถือเป็นผู้ที่คนทำงานหนัก แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล ทั้งที่นายกฯ ก็เคยรับปากให้นายอนุชามาช่วยงานในฐานะรัฐมนตรีด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบกับการมอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่มีเพียง 3 ที่นั่งด้วย
    ต่อมามีรายงานเป็นแน่ชัดว่านายอนุชาจะหลุดจากตำแหน่ง รมช.การคลัง และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี จะหลุดจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน หลังจากไม่ได้รับการแจ้งให้มากรอกประวัติรัฐมนตรี ทำให้ส.ส.ในกลุ่มภาคกลางของพรรค เมื่อได้ทราบข่าวระหว่างประชุมสภาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ต่างอยู่ในอาการตกตะลึง เพราะก่อนหน้านี้ได้รับทราบมาแล้วว่ามีข้อตกลงจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่าจะให้นายสุชาตินั่ง รมว.แรงงาน แต่กลับมาการเปลี่ยนแปลงในโค้งสุดท้าย ส่งผลให้กลุ่ม ส.ส.ภาคกลางกังวลในเรื่องของการดูแลพื้นที่ และขยายฐานเสียงให้กับพรรค เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อาจทำให้แผนที่จะดูแลพื้นที่ไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่ม ส.ส.ภาคกลางไม่เคยออกมาเรียกร้องใดๆ ทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอด เกรงว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะไม่สบายใจ แต่สุดท้ายเมื่อไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ ส.ส.บางส่วนมีการหารือถึงบทบาทในอนาคตว่าจะอยู่กับพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าร่วมกับพรรคต่อไปหรือไม่ 
เตือนกระทบเสียงโหวต
    สำหรับ ส.ส.ภาคกลางในกลุ่มนายสุชาติ มีจำนวน 16 คน ประกอบด้วย ชลบุรี 3 คน, เพชรบุรี 3 คน, กาญจนบุรี 4 คน, ฉะเชิงเทรา 2 คน, สมุทรปราการ 1 คน, สระบุรี 1 คน, ระยอง 1 คน และนครปฐม 1 คน
    ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. จนถึงวันที่ 28 มิ.ย. ก็ยังมีการหารือกันอยู่อย่างเคร่งเครียด โดยนายอนุชา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการถูกดึงเก้าอี้รมช.การคลังกลับคืน แค่ระบุว่าขอประชุมหารือภายในกลุ่มช่วงเช้าก่อนจะมีการเปิดเผยให้ทราบในช่วงบ่ายวันนี้
    โดยนายอนุชา นาคาศัย กล่าวถึงกระแสข่าวถูกดึงเก้าอี้ รมช.การคลังกลับคืนว่า ขอประชุมหารือภายในกลุ่มช่วงเช้าก่อน และจะเปิดเผยให้ทราบในช่วงบ่ายวันนี้
    ต่อมาช่วงค่ำ นายอนุชาเปิดเผยว่า ตนยังไม่เชื่อว่าทั้งหมดนั้นเป็นความจริงตามข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับปากกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคว่า โผ ครม.ที่ตกลงกันในส่วนของโควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่ตนได้ รมช.การคลัง นายสุริยะเป็น รมว.พลังงาน และบุคคลในพรรคพลังประชารัฐที่จัดโควตาไว้ให้เป็นไปตามนั้น ขออย่าเปลี่ยนแปลงอีก
    “ผมคิดว่าท่านนายกฯ เป็นชายชาติทหาร และเป็นคนรักษาคำพูด จะไม่ผิดคำพูดแน่นอน และยึดเอามาตรฐานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.เป็นหลัก เพราะทุกคนที่ได้รับแจ้งในวันนั้นก็ยังมั่นใจในคำพูดของนายกฯ เช่นกัน” นายอนุชากล่าว
     นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท พรรคพปชร. กล่าวถึงกรณีนายอนุชาอาจจะไม่ได้เก้าอี้ รมช.การคลังว่า ตนไม่รู้รายละเอียดมากนัก ถ้าเป็นเรื่องจริง คิดว่าชาวชัยนาทคงจะเสียดายมากที่อดได้ตัวแทนจากประชาชนเข้าไปทำงานด้านบริหาร และจากที่ตนรู้จักและร่วมงานกับนายอนุชามานาน ถือว่าเขาเป็นคนที่เก่งและมีฝีมือ ที่ผ่านมาได้ทำงานหนักให้กับพรรค พปชร.มาโดยตลอด การตัดสินใจเลือก ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ แต่หากนายอนุชาไม่มีตำแหน่ง ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จะไม่มีคนมีฝีมือดีไปร่วมงานบริหารประเทศ
    นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพปชร. กล่าวว่า ยังไม่รู้เหตุผลของผู้ใหญ่ในพรรคว่ามีกติกา รวมถึงเงื่อนไขรายละเอียด คำมั่นสัญญาอย่างไร โดยส่วนตัวอยู่มาหลายพรรค ยอมรับว่าไม่เหมือนกันเลย เพราะพรรคนี้ไม่มีความชัดเจน ส่วนกรณีเสียโควตารัฐมนตรีให้กับพรรคที่มี ส.ส. 3 คนนั้น ไม่อยากวิจารณ์ แต่ถ้าพูดอย่างเป็นกลางก็ไม่รู้ว่าตอนไปเชิญมีเงื่อนไขอย่างไร แต่ถ้ามองอีกมุม เมื่อมีแค่ 3 เสียงแล้วให้เก้าอี้รัฐมนตรี ต่อไปจะไม่ยุ่งหรือ เพราะน่าจะมีเกณฑ์ จากที่เคยมีข่าวว่า 7 ส.ส.ต่อ 1 รัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้ยังเคยได้ยินข่าวว่าพรรคชาติพัฒนาจะรวมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพื่อรวมกันเอาโควตา 
    "การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีไม่เหมือนระบบของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีที่มาที่ไป พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พอให้โควตานายกฯมาก ก็จะกลัดเนื้อตัวเอง โดยจะมีปัญหาในระยะยาวถ้าไม่มีการดูแลให้อบอุ่นกันมากกว่านี้ ยอมรับเป็นกังวล เพราะจะส่งผลต่อเสียงโหวตมติต่างๆ ในสภา จากนี้อยากเห็นความชัดเจน แต่ถ้าพรรคไม่มีอะไรตอบสังคมได้ สมัยหน้าไม่ว่าจะมีเงินขนาดไหน ก็ไม่สามารถต้านลูกพรรคได้ เพราะลูกพรรคคงไปหาที่อยู่ใหม่" นายสมศักดิ์กล่าว
"น้องธรรมนัส"สละเก้าอี้
    ด้านนายสุชาติกล่าวยอมรับว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากสำนักเลขาธิการ ครม. ให้เข้ากรอกประวัติความเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าตนก็อาจจะไม่ได้ตำแหน่ง รมว.แรงงาน ตามที่ปรากฏกระแสข่าว ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาน่าจะมาจากการเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นความหนักใจของนายกฯ และที่ผ่านมาตนได้ความเมตตาจากนายกฯ มาโดยตลอด จึงเคารพการตัดสินใจ และไม่คิดจะตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องต่อรองให้ได้ตำแหน่ง แต่เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ทราบว่าพรรคพปชร.จะเดินหน้าทางการเมืองต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส.ภาคกลางเท่าไหร่ 
    "จากการประชุม ส.ส.ภาคกลางเมื่อวานนี้ ผมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่าว่าแต่จะได้ ส.ส.ภาคกลางเพิ่มขึ้นเลย จะเหลือจำนวน 15 คน เท่าเดิมหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ เนื่องจาก ส.ส.ภาคกลางก็คาดหวังว่าจะได้มีตัวแทนไปเป็นรัฐมนตรีเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ และผมไม่เห็นด้วยที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะมีนักวิชาการมากมาย เพราะวันนี้ทุกอย่างต้องสู้กันด้วยการเมือง" นายสุชาติกล่าว 
    นอกจากนี้ นายอัครา พรหมเผ่า ประธานกลุ่มฮักบ้านเกิดพะเยา อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.เขต 1 พะเยา ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรค พปชร. ซึ่งก่อนหน้านายอัคราเคยถูกนำชื่อไปวางไว้ในตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ขณะนี้ได้ถูกนำรายชื่อออกและมีบุคคลอื่นไปแทน
    นายอัคราเปิดเผยที่จังหวัดพะเยาว่า ก่อนหน้าที่จะมีชื่อของตนเข้าไปอยู่ในโผ ครม.นั้น ตนอยู่ต่างประเทศ และเดินทางกลับมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์การเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส ในการลงเลือกตั้ง ส.ส.พะเยา และเมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้น ตนกับพี่ชายได้วางแผนที่จะพัฒนาจังหวัดพะเยาภายใต้ “พะเยาโมเดล” เมื่อถูกนำชื่อไปใส่ในโผ ครม. ตนก็ยังเป็นกังวลว่าจะมีเวลาได้มาขับเคลื่อนพะเยาโมเดลอย่างเต็มที่หรือไม่ และได้ปรึกษาหารือกับพี่ชายตลอดมาสุดท้ายโผ ครม.ออกมาในลักษณะดังกล่าว ตนรู้สึกสบายใจที่จะได้กลับมามุ่งมั่นการเมืองท้องถิ่นต่อไป
     “ผมเคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่เสมอ การทำงานการเมืองจะต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้ว่าจะต้องมีตำแหน่งรองรับหรือไม่ เพราะอยู่จุดไหนก็ทำงานอย่างมีความสุข ถือว่าเป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้มีเวลาทำงานการเมืองระดับท้องถิ่น ทุ่มเทการพัฒนาบ้านเกิดภายใต้พะเยาโมเดลได้อย่างเต็มที่" นายอัครากล่าว
    ต่อมา ร.อ.ธรรมนัสได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ด่วน!!!‘น้องผู้กองธรรมนัส’ ถอนตัว ไม่รับตำแหน่ง รมว.ดีอีขอกลับไปพัฒนาบ้านเกิด พร้อมยกข้อความของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ความว่า นายอัคราต้องการสานต่อการทำงานในจังหวัดพะเยา โดยเฉพาะการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พะเยา รวมทั้งผลักดันพะเยาโมเดลพัฒนาท้องถิ่น จึงแจ้งความประสงค์กับพรรคในการไม่รับตำแหน่ง
    นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ว่าที่ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขอรับเอกสารการกรอกประวัติจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อให้ครอบครัวเซ็นรับรอง และจะเข้ายื่นเอกสารภายในวันนี้
    นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวได้ไปกรอกประวัติที่ สลค.แล้วเมื่อ 27 มิ.ย. เพราะโทรศัพท์ประสานกับตนเองระหว่างการประชุมสภาฯ  เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ มั่นใจต่อการทำหน้าที่นักการเมืองท้องถิ่นในช่วงที่ผ่านมา 
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนและว่าที่รัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้กรอกประวัติและคุณสมบัติส่งให้ผู้อำนวยการพรรค ปชป.รวบรวม และส่งเอกสารทั้งหมดไปที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ซึ่งรายชื่อทั้งหมดยังคงเดิม เหมือนที่ส่งไปในตอนแรก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และว่าที่รัฐมนตรีทุกคนที่กรอกคุณสมบัติจะต้องรับรองตัวเองว่าเป็นไปตามคุณสมบัติที่รัฐธรรมนูญกำหนด
    มีรายงานจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยว่า ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล จะดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ปรากฏว่าล่าสุดมีกระแสข่าวระบุว่า ม.ร.ว.จัตุมงคลอาจถูกสลับไปเป็นรมว.แรงงานแทน ในเวลา 15.00 น. ม.ร.ว.จัตุมงคลได้ส่งตัวแทนด้านกฎหมายส่วนตัวเดินทางเข้ามาที่ สลค. เพื่อส่งเอกสารประวัติและคุณสมบัติของรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. 
    
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"