รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียให้ความมั่นใจกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าเหตุไฟไหม้เรือดำน้ำวิจัยที่เป็นความลับสุดยอดของรัสเซียคร่าชีวิตลูกเรือ 14 คนเมื่อวันจันทร์ ไม่กระทบถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเรือ

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (ซ้าย) รับฟังรายงานจากเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม เมื่อวันอังคาร / AFP

    คำยืนยันจากเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2562 เป็นการยอมรับต่อสาธารณะครั้งแรกว่าเรือดำน้ำที่ประสบเหตุไฟไหม้ลำนี้เป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียจะประกาศไว้ตั้งแต่วันพุธแล้วว่ารัสเซียจะไม่เปิดเผยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุไฟไหม้เรือลำนี้ เนื่องจากเป็นความลับสุดยอดของประเทศ

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ แต่ทางการรัสเซียไม่ยอมเปิดเผยอย่างเป็นทางการจนล่วงเข้าวันอังคาร และไม่บอกด้วยว่าเรือลำนี้มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จนกระทั่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวขึ้นเองเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเรือดำน้ำลำนี้ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ถึงแม้ว่าจะมีคำถามคลางแคลงใจจากนอร์เวย์ ประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซีย

    เอเอฟพีรายงานว่า ชอยกูให้คำรับประกันกับปูตินว่า ลูกเรือดำเนินมาตรการปกป้องเครื่องปฏิกรณ์ไม่ให้โดนไฟไหม้ โดยเขาระบุด้วยว่าต้นเพลิงอยู่ในห้องแบตเตอรี่ และเชื่อว่าเรือดำน้ำลำนี้ยังสามารถซ่อมแซมได้

    "เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนเรือแยกจากส่วนอื่นอย่างสิ้นเชิงและไม่มีคนคอยควบคุม ลูกเรือใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องเครื่องปฏิกรณ์ ซึ่งยังทำงานได้อย่างสมบูรณ์" ชอยกูรายงานต่อปูตินภายหลังกลับมาจากเมืองท่าเซเวโรมอร์สก์ริมทะเลอาร์กติกที่เรือดำน้ำลำนี้เทียบท่าอยู่

    หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซันต์รายงานเมื่อวันพุธ โดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายที่ใกล้ชิดกับลูกเรือว่า กำลังมีการสอบสวนว่าต้นเพลิงเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่

    รัฐบาลรัสเซียไม่เปิดเผยชื่อเรือดำน้ำลำนี้ โดยอ้างว่าเป็นความลับทางราชการ แต่สื่อของรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า เรือลำนี้ชื่อโลชาริก ซึ่งเป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการของโครงการที่บริหารโดยหน่วยงานลับสุดยอด กองอำนวยการหลักวิจัยทะเลลึก (GUGI)

    มีรายงานของหนังสือพิมพ์ฟอนทันกาเมื่อวันอังคารว่า ฐานทัพที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กประกาศข่าวการตายของลูกเรือเอเอส-31 ซึ่งเป็นเรือดำน้ำลึกพลังงานนิวเคลียร์ในโครงการโลชาริกนี้ แต่สื่ออื่นระบุว่าเป็นเรือเอเอส-12 ซึ่งอยู่ในโครงการเดียวกัน.